Chat
x
toggle menu
toggle menu

Select Groups

All Group
  • All Group
  • นโยบายเเละมาตรการพิเศษในการส่งเสริม
  • การขอรับการส่งเสริมการลงทุน
  • การออกบัตรส่งเสริม
  • การเปิดดำเนินการ
  • การเเก้ไขโครงการ
  • การดำเนินการอื่น ๆ
  • การรายงานความคืบหน้าโครงการ (e-Monitoring)
  • การปฏิบัติหลังการได้รับการส่งเสริม
  • การยกเลิกบัตรส่งเสริม
  • เรื่องทั่วไป
  • การใช้สิทธิด้านที่ดิน
  • การใช้สิทธิด้านเครื่องจักร
  • การใช้สิทธิด้านช่างฝีมือ/ต่างด้าว
  • การใช้สิทธิด้านวัตถุดิบ
  • ประเภทกิจการ - การแพทย์
  • การใช้สิทธิด้านภาษีเงินได้นิติบุคคล
  • ประเภทกิจการ - รถยนต์ไฟฟ้า
  • ประเภทกิจการ - ศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ (IBC) IPO และ TISO
  • ประเภทกิจการ - โรงแรม
  • ประเภทกิจการ - ผลิตผลิตภัณฑ์โลหะรวมทั้งชิ้นส่วนโลหะ
  • ประเภทกิจการ - กิจการผลิตเครื่่องจักร อุุปกรณ์และชิ้นส่วน
  • ประเภทกิจการ - กิจการศูนย์กระจายสินค้าระหว่า ประเทศด้วยระบบที่่ทันสมัย (IDC)
บริษัทต้องการใช้สิทธิและประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล อยากทราบว่าบริษัทสามารถระบุปริมาณการจำหน่าย/การให้บริการ ในข้อ 1.4 ตามแบบฟอร์มขอใช้สิทธิฯ เกิน ปริมาณกำลังผลิต/ขนาดบริการที่ระบุในบัตรส่งเสริมได้หรือไม่

แบบคำขอใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ข้อ 1.4 ช่องที่ 5 ให้ระบุปริมาณการจำหน่ายตามจริง ซึ่งอาจจะเกินกำลังผลิตในบัตรส่งเสริมก็ได้ แต่ช่องที่ 6 ปริมาณที่ขอใช้สิทธิ จะต้องไม่เกินกว่ากำลังผลิตในบัตรส่งเสริม และไม่เกินกว่ากำลังผลิตของเครื่องจักรที่ติดตั้งแล้ว

การลงทุนตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ ของกิจการในกลุ่ม B
กิจการในกลุ่ม B สามารถได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ ได้อย่างไรบ้าง

1. กิจการกลุ่ม B คือกลุ่มที่ไม่ให้ได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายส่งเสริมการลงทุน แต่ในบางช่วงเวลา BOI อาจกำหนดให้กิจการกลุ่ม B (เฉพาะกรณีเป็นการลงทุนใหม่) ได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมหากมีการลงทุนตามมาตรการเป้าหมาย เช่น มีการนำใช้ระบบอัตโนมัติหรือหุ่นยนต์มาใช้ หรือมีการนำเทคโลยีดิจิทัลมาใช้ เป็นต้น โดยจะให้สิทธิประโยชน์ด้านเครื่องจักรและภาษีเงินได้เป็นสัดส่วนเฉพาะเท่าที่ลงทุนเพิ่มเติมตามมาตรการเป้าหมายนั้นๆ เท่านั้น

2. ปัจจุบันสำนักงานได้มีมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ เช่น การลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ (ประกาศ กกท ที่ 1/2564) จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ วงเงินไม่เกิน 50% ของเงินลงทุนติดตั้งโซลาร์เซลล์ แต่มีเงื่อนไขว่าโครงการเดิมที่จะลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์ ต้องไม่ได้รับสิทธิ/หรือสิ้นสุดสิทธิภาษีเงินได้แล้วซึ่งกิจการกลุ่ม B สามารถขอรับการส่งเสริมในมาตรการนี้ได้

3. การขอรับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลทั้งในกรณีการลงทุนตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ และกรณีการลงทุนของกิจการกลุ่ม B ที่ขอรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้เป็นวงเงินไม่เกิน 50% (บางกรณี 100%) ของการลงทุนเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับมาตรการนั้นๆ เท่านั้น เช่น หากจะลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์มูลค่า 10 ล้านบาท จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ไม่เกิน 5 ล้านบาท หรือโครงการในกลุ่ม B หากจะลงทุน 100 ล้านบาท โดยเป็นระบบอัตโนมัติหรือหุ่นยนต์ 10 ล้านบาท จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ไม่เกิน 5 ล้านบาท (บางกรณีไม่เกิน 10 ล้านบาท หรือร้อยละ 100 ของเงินลงทุน)

ถาม Q15.1:

กิจการกลุ่ม B มีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นไปอีก 3 เท่า ต้องการขอรับการส่งเสริมเป็นบัตรใหม่ โดยยังไม่มีการลงทุนในโซลาร์เซลล์ในตอนแรก เมื่อได้รับการส่งเสริมแล้วสามารถขอส่งเสริมตามมารการปรับปรุงประสิทธิภาพในการติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพื่อให้ได้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ครึ่งหนึ่งของมูลค่าการลงทุนโซลาร์เซลล์ภายหลังได้หรือไม่

ตอบ A15.1:

1. กิจการผลิตในกลุ่ม B หากจะนำโครงการเดิมที่ได้รับอนุญาตเปิดดำเนินการแล้ว มายื่นขอรับส่งเสริมตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ โดยการลงทุนติดตั้งโซลาร์เซลล์กรณีนี้สามารถทำได้หากประเภทกิจการไม่ขัดกับบัญชี negative list ของกิจการกลุ่ม B ที่ไม่ให้สิทธิประโยชน์ตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ (ตามประกาศ สกท ที่ ป.1/2564)
2. กรณีลงทุนใหม่ในกิจการผลิตในกลุ่ม B โครงการนั้นจะต้องเปิดดำเนินการเต็มโครงการให้เสร็จสิ้นก่อน จากนั้นจึงจะนำโครงการนั้นมายื่นขอรับส่งเสริมตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพได้ ทั้งนี้เนื่องจากการขอรับส่งเสริมตามมาตรการปรับปรุง จะมีการยกเลิกบัตรส่งเสริมฉบับเดิมแต่หากบัตรส่งเสริมฉบับเดิมไม่ได้เปิดดำเนินการเต็มโครงการจะเป็นการผิดเงื่อนไขสำคัญ และจะถูกเพิกถอนสิทธิประโยชน์ของโครงการนั้น

ถาม Q15.2:

หากโครงการเดิมได้รับการส่งเสริมก่อนที่จะมีการจัดประเภทกิจการแบบใหม่เป็น A, B เราได้สิทธิภาษี 8 ปี ได้สิทธิครึ่งหนึ่ง 5 ปี ตอนนี้หมดไปแล้ว 8 ปี อยู่ในช่วง 5 ปีหลัง แต่ปัจจุบันประเภทกิจการเป็นกลุ่ม B จะเข้าข่ายการขอรับการส่งเสริมหรือไม่ หรือที่เขียนหมายถึงโครงการกลุ่ม B ที่ได้รับการส่งเสริมตอนที่มีการจัดประเภทกิจการแบบใหม่แล้วเท่านั้น

ตอบ A15.2:

กิจการกลุ่ม B ในที่นี้ หมายถึง ตามประเภทกิจการ ณ วันที่ยื่นขอรับส่งเสริมตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยก่อนหน้านี้ (ก่อนจะยื่นขอรับส่งเสริมตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ) จะเป็นกิจการในประเภท/หรือกลุ่มใดก็ได้

ถาม Q15.3:

การเปิดดำเนินการเต็มโครงการของกิจการในกลุ่ม B ดำเนินการเช่นเดียวกับกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้หรือไม่ (เป็นกิจการที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าเครื่องจักรได้ตลอดระยะเวลาส่งเสริมแต่ไม่ได้รับสิทธิภาษีเงินได้)

ตอบ A15.3:

1. การตรวจสอบเปิดดำเนินการ (กรณีกิจการผลิต) มีหลักการเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นกิจการในกลุ่มใด 2. กรณีได้รับสิทธิยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร 30 เดือน สามารถขอขยายเวลานำเข้าเครื่องจักรได้ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 ปี และจะต้องเปิดดำเนินการภายใน 6 เดือน หลังวันสิ้นสุดระยะเวลานำเข้าเครื่องจักร และขอขยายเวลาเปิดดำเนินการเพียงอย่างเดียว ได้ 1 ครั้ง ไม่เกิน 1 ปี 3. กรณีได้รับสิทธิยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรตลอดระยะเวลาที่ได้รับส่งเสริมจะต้องเปิดดำเนินการภายใน 36 เดือน นับจากวันที่ออกบัตรและขอขยายเปิดดำเนินการเพียงอย่างเดียวได้ 1 ครั้ง ไม่เกิน 1 ปี
กรณีที่ทางบริษัทต้องการใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลครั้งแรกสำหรับบัตรส่งเสริมฟื้นฟูอุทกภัย (อ้างถึงแบบฟอร์ม F PM TA 01-01 ข้อ 1.3 การลงทุนเครื่องจักรและอุปกรณ์) บริษัทสามารถระบุค่าซ่อมแซมเครื่องจักร และค่าเครื่องจักรที่ลงทุนใหม่ ตั้งแต่วันที่กำหนดว่ามีการซื้อครั้งแรกในปี 2554 จนถึง ณ วันสิ้นรอบบัญชีปีที่ขอใช้สิทธิฯ วันที่ 30 ก.ย. 2557 ถูกต้องหรือไม่

ข้อ 1.3 ต้องเป็นเครื่องจักรที่ซื้อมาหลังจากวันที่ยื่นขอรับการส่งเสริมเท่านั้น หากบริษัทซื้อเครื่องจักรมาก่อนหน้าที่จะยื่นคำขอ จะต้องอธิบายรายละเอียดให้ชัดเจนในขั้นชี้แจงโครงการ โดย BOI จะพิจารณาเหตุผลเป็นกรณีๆไป และอาจอนุญาตให้นับเครื่องจักรนั้นเป็นขนาดการลงทุนของโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมได้ โดยจะระบุการอนุญาตให้ใช้เครื่องจักรที่ซื้อมาก่อนยื่นคำขอฯไว้ในบัตรส่งเสริมโดยชัดเจน กรณีที่สอบถาม จะขอย้อนกลับไปถึงปี 2554 ซึ่งน่าจะเป็นวันก่อนยื่นคำขอรับส่งเสริมตามนโยบายฟื้นฟูอุทกภัย จึงไม่สามารถทำได้ ให้ใส่เฉพาะเครื่องจักรและการซ่อมแซม ที่เกิดหลังจากวันที่ยื่นคำขอรับการส่งเสริมเท่านั้น เว้นแต่ในบัตรส่งเสริมจะระบุไว้เป็นอย่างอื่น จึงจะสามารถรวมค่าเครื่องจักรก่อนนั้นได้

หลังจากที่ตอบมติแล้ว และจัดตั้งบริษัทเสร็จแล้ว หากบริษัทต้องการออกบัตรส่งเสริม ก็ต้องให้ผู้ที่ยื่นคำขอรับการส่งเสริม เป็นผู้ยื่นคำร้องขอรับบัตรส่งเสริมหรือไม่ หรือสามารถยื่นขอโดยกรรมการบริษัทได้ ?

กรณีที่ได้รับส่งเสริมในนามบุคคล ผู้ที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริม จะต้องเป็นผู้ลงนามในแบบขอรับบัตรส่งเสริมและเอกสารแนบทั้งหมด โดยในครั้งนี้ จะต้องแนบหลักฐานการจดทะเบียนบริษัทที่ต้องการจะให้ BOI ออกบัตรส่งเสริมมาด้วย และผู้ที่จะมารับบัตร จะต้องเป็นกรรมการคนใดคนหนึ่งของบริษัท

บัตรส่งเสริมระบุว่า ให้ไว้ ณ วันที่ 27 กันยายน 2556 ครบ 1 ปี คือ วันที่เท่าไหร่ 26 กันยายน 2556 หรือ นับเดือนไปเลย เป็น 27 กรกฎาคม 2557

หลักเกณฑ์การนับวันในบัตรส่งเสริมของ BOI ใช้แนวทางดังนี้ กรณีเกี่ยวกับสิทธิและประโยชน์

- นับวันชนวัน

- เช่น ถ้าได้รับสิทธิ 2 ปีนับจากวันออกบัตร และบัตรออกวันที่ 1 ก.ค. 57 ก็จะได้รับสิทธิถึงวันที่ 30 มิ.ย. 59

กรณีเกี่ยวกับเงื่อนไข

- นับวันทับวัน

- เช่น ถ้ามีเงื่อนไขต้องปฏิบัติภายใน 2 ปีนับจากวันออกบัตร และบัตรออกวันที่ 1 ก.ค. 57 ก็จะต้องปฏิบัติให้ได้ภายในวันที่ 1 ก.ค. 59 กรณีที่สอบถาม เป็นเงื่อนไข จึงจะครบ 1 ปี ในวันที่ 27 กันยายน 2557

อยากทราบกำหนดระยะเวลาในการเปิดดำเนินการ ว่าหลังจากที่ได้รับส่งเสริมแล้วต้องเปิดดำเนินการภายในกี่ปี และถ้าไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ตามระยะเวลาที่กำหนด ควรดำเนินการอย่างไรบ้าง

โดยปกติหลังจากที่ได้รับการส่งเสริมแล้ว ทางผู้ได้รับการส่งเสริมจะต้องยื่นแบบขอเปิดดำเนินการเต็มโครงการภายใน 36 เดือนนับแต่วันที่ได้รับบัตรส่งเสริม ในกรณีที่ไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ตามกำหนด สามารถขอขยายระยะเวลาในการเปิดดำเนินการได้ 1 ครั้ง ขยายไปอีก 1 ปี ในกรณีหากยังไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ หรือปฏิบัติตามเงื่อนไขได้ อาจจะถูกพิจารณาเพิกถอนบัตรและสิทธิประโยชน์ทั้งหมด เสมือนไม่เคยได้รับการส่งเสริมตั้งแต่ต้น

กรณีบริษัทได้สิทธิบีโอไอบัตรที่ 1 ผลิตชิ้นงาน A (เปิดดำเนินการเรียบร้อยแล้ว) ต้องการนำชิ้นงาน A มาประกอบเข้ากับชิ้นงานอื่นๆ เพื่อประกอบงานสำเร็จรูปซึ่งเป็นอีกบีโอไอบัตรที่ 2 คำถาม 1. บริษัทสามารถดำเนินการได้หรือไม่ 2. ถ้าได้ ขั้นตอนการนำชิ้นงานจากอีกโครงการ มาใช้ร่วมอีกโครงการจะต้องทำอย่างไง (จะต้องออก Invoice ขายภายในหรือไม่)

1. การผลิตสินค้าตามโครงการที่ 1 และนำไปจำหน่ายเป็นชิ้นส่วนหรือวัตถุดิบของโครงการที่ 2 ภายใต้นิติบุคคลเดียวกัน สามารถทำได้ โดยในทางบัญชี จะต้องจัดทำเป็นรูปการซื้อขายภายในบริษัท ตามที่กรมสรรพากรกำหนด เช่น มีการออกอินวอยซ์ และซื้อขายในราคาต้นทุน เป็นต้น

2. ในส่วนของ BOI ไม่ต้องยื่นขออนุญาตซื้อขายระหว่าง 2 โครงการภายใต้นิติบุคคลเดียวกัน แต่หากโครงการที่ 1 นำเข้าวัตถุดิบโดยใช้สิทธิมาตรา 36 เมื่อจำหน่ายให้กับโครงการที่ 2 จะต้องนำไปผลิตส่งออก จากนั้นโครงการที่ 2 ยื่นตัดบัญชีวัตถุดิบ และโอนสิทธิให้โครงการที่ 1 เพื่อนำไปตัดบัญชีต่อไป

บริษัทมีโครงการแล้ว 1 โครงการ ขยายนำเข้าเครื่องจักรครบแล้ว 3 ครั้ง แต่ยังไม่เปิดดำเนินการ แต่ทางบริษัทจะมีการผลิตผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ จะมีนำเข้าเครื่องจักรใหม่อีกแต่ใช้อาคารเดิมของบริษัท สอบถามว่าบริษัทจะสามารถขอเป็นโครงการใหม่ได้ไหม หรือสามารถใช้โครงการเดิม

กรณีที่บริษัทจะผลิตสินค้าใหม่ โดยมีการนำเครื่องจักรเข้ามาใหม่ หากนำเครื่องจักรเข้ามาใหม่ครบขบวนการผลิต โดยไม่ต้องใช้เครื่องจักรหลักร่วมกับโครงการเดิม สามารถยื่นขอรับส่งเสริมเป็นบัตรใหม่ ได้ และบริษัทสามารถใช้อาคารโรงงานเดิมได้ แต่จะไม่สามารถนำค่าก่อสร้างของโครงการเดิมมานับเป็นการลงทุนของโครงการขยายได้

ทั้งนี้ การขยายโครงการใหม่ในบัตรเดิมเป็นไปตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ ป.3/2547 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2547

A ขายให้ B ที่เป็น Free zone ไม่ได้ส่งไปต่างประเทศ ถ้าสามารถทำได้ ชื่อที่นำเข้า ชื่อที่ส่งออก และชื่อที่ส่งเข้า Free zone เป็นชื่อเดียวกันได้หรือไม่
ชื่อสินค้าที่นำเข้ามาซ่อม ปกติจะเป็นชื่อเดียวกับที่ส่งออก (หรือส่งไป Free Zone)
อยากจะสอบถามว่า ถ้าบริษัทได้นำเข้าเครื่องจักรที่ได้ใช้สิทธินำเข้า ของ BOI และมีการนำเข้ามาแล้ว เกิน 5 ปี ไปขายต่อในประเทศได้หรือไม่ และถ้าขายได้ต้องนำกลับไปเสียภาษีหรือไม่

การจะจำหน่ายเครื่องจักรที่นำเข้ามาโดยใช้สิทธิยกเว้นภาษีจะต้องได้รับอนุญาตก่อน หากเป็นเครื่องจักรที่นำเข้ามาแล้วเกิน 5 ปี ให้ยื่นเรื่องขอจำหน่ายพร้อมกับขอตัดบัญชีเพื่อปลอดภาระภาษี ซึ่งเมื่อได้รับอนุญาตจะสามารถจำหน่ายได้โดยไม่มีภาระภาษีอากร แต่หากเป็นเครื่องจักรนั้น เป็นเครื่องจักรหลักที่กระทบต่อกรรมวิธีการผลิตหรือกำลังผลิตเกิน 20% จะต้องมีการซื้อเครื่องจักรมาแทน หรือต้องแก้ไขโครงการให้สอดคล้องกรรมวิธีผลิตหรือกำลังผลิตที่หายไปด้วย

BOI มีแผนพิจารณานำกิจการ ITC กลับมาให้การส่งเสริมอีกครั้งด้วยหรือไม่
ปัจจุบัน BOI ยังไม่มีแผนพิจารณาการนำกิจการ ITC กลับมาส่งเสริมอีกครั้งแบบแยกประเภท เนื่องจาก ITC มีให้การส่งเสริมอยู่แล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจการ IBC ในปัจจุบัน
อยากทราบสิทธิประโยชน์และข้อจำกัดในการขอรับการส่งเสริมภายใต้กิจการ IPO
สิทธิประโยชน์ 1. การยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบ สำหรับวัตถุดิบที่นำมาขายต่อให้ผู้ผลิตเพื่อผลิต ผสม ประกอบ และส่งออกไปต่างประเทศ 2. การยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรสำหรับใช้ในกิจการ IPO 3. การถือหุ้นต่างชาติข้างมาก 4. การถือครองที่ดิน 5. สิทธิ Visa และ Work Permit ของการนำต่างชาติเข้ามาทำงานในโครงการ IPO สำหรับข้อจำกัด หรือเงื่อนไขการขอรับการส่งเสริมคือ 1. จะต้องมีทุนจดทะเบียนเรียกชำระ 10 ล้านบาท 2. มีการลงทุนขั้นต่ำ เช่น การซื้อสินทรัพย์ที่ใช้ในโครงการ การเช่าพื้นที่ การปรับปรุง Office เป็นต้น (ไม่รวมค่าที่ดินและเงินทุนหมุนเวียน) ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท ภายใน 3 ปี 3. เงื่อนไขเฉพาะโครงการอื่นๆ ตามประกาศประเภทกิจการ 7.37 เช่น ต้องมีหรือเช่าคลังสินค้า มีระบบจัดการสินค้าในคลังสินค้า มีการตรวจสอบสินค้าอย่างเหมาะสม มีการจัดซื้อในประเทศไทยอย่างน้อย 1 ราย เป็นต้น
จะจำหน่ายเครื่องจักรเกิน 5 ปี จะต้องเปิดดำเนินการก่อนไหมถึงจะจำหน่ายได้

การจะจำหน่ายเครื่องจักรเกิน 5 ปี โดยไม่มีภาระภาษี ต้องยื่นขอตัดบัญชีเพื่อตัดภาระภาษีก่อน การอนุญาตให้ตัดบัญชีเพื่อตัดภาระภาษี จะต้องเป็นกรณีที่บริษัทปฏิบัติถูกต้องตามเงื่อนไขที่ได้รับส่งเสริมเท่านั้น เช่น หากบริษัทครบกำหนดเปิดดำเนินการแล้ว แต่ยังไม่ได้ยื่นขออนุมัติเปิดดำเนินการ จะไม่อนุญาตให้ตัดบัญชีเครื่องจักรแม้จะนำเข้าเกิน 5 ปี แต่หากบริษัทยังไม่ครบกำหนดเปิดดำเนินการ ก็สามารถขอตัดบัญชีเครื่องจักรเกิน 5 ปีได้ แม้จะยังไม่ได้เปิดดำเนินการครบตามโครงการ

ใช้แบบฟอร์มเดียวกับขอสต็อกวัตถุดิบเลยหรือไม่

การขออนุมัติปริมาณสต็อกสินค้าที่นำกลับเข้ามาซ่อม ใช้แบบฟอร์มเดียวกับการขอแก้ไขสต็อกวัตถุดิบตามปกติ โดย group no. ให้กำหนดเป็น R00001

การขอรับการส่งเสริมการลงทุนนั้น ต้องเสียค่าใช้จ่ายไหม

การขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ท่านสามารถติดต่อสอบถาม หรือปรึกษาได้ที่ https://www.boi.go.th/th/contact_boi หรือ www.boi.go.th

กิจการได้รับส่งเสริมการลงทุน ประเภท 4.3 แล้วทางบริษัทจะนำเข้าสินค้าสำเร็จรูปมาเพื่อขายให้กับลูกค้าในประเทศ ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับสินค้าที่ผลิตซึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุน อย่างนี้ถือเป็นการขายครั้งแรกของการได้ส่งเสริมการลงทุนหรือไม่ (2 เม.ย. 2563)

1.วันที่จะเริ่มใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 31 คือวันที่เริ่มมีรายได้จากการประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริม

กรณีที่สอบถาม การนำเข้าสินค้ามาจำหน่ายในประเทศ ไม่ใช่กิจการที่บริษัทได้รับการส่งเสริมการลงทุน จึงไม่ถือเป็นวันเริ่มมีรายได้ครั้งแรกตามมาตรา 31

2. นอกจากนี้ การนำเข้าสินค้ามาจำหน่ายในลักษณะค้าส่ง/ค้าปลีก เป็นกิจการในบัญชีสามท้าย พรบ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว

หากบริษัทเป็นนิติบุคคลต่างชาติ จะต้องขออนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์ด้วย

กรณีถ้าขอขยายนำเข้าเครื่องจักรย้อนหลัง จะนับวันเปิดดำเนินการอย่างไร

แม้จะมีการขยายเวลานำเข้าเครื่องจักรย้อนหลังไปจนถึงวันที่ยื่นคำขอรับการส่งเสริม แต่ระยะเวลาการเปิดดำเนินการก็ยังคงเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในบัตรส่งเสริมเหมือนเดิม ไม่ถูกร่นให้เร็วขึ้น

วิธีการปฏิบัติหลังจากได้รับหนังสือตอบรับมติให้การส่งเสริมฯ แล้ว ว่าบริษัทฯต้องทำอย่างไรบ้าง ปัจจุบัน บริษัทฯได้ยื่นขอรับการส่งเสริมฯ(โครงการขยาย) ผ่านระบบ online เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2559 และได้ชี้แจงโครงการฯ กับเจ้าหน้าที่ บีโอไอ สำนักฯ 3 เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2560 เรียบร้อยแล้ว ระหว่างรอหนังสืออนุมัติมติให้การส่งเสริมฯ อยู่นั้น บริษัทฯ ควรทำอะไรบ้าง และหรือหลังก่อน สำนักงานฯ อนุมัติให้การส่งเสริม บริษัทฯ สามารถหาข้อมูลหรือขั้นตอนต่าง ๆ ของการปฏิบัติว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง จากแหล่งข้อมูลใด
1. หลังจากได้รับอนุมัติส่งเสริม ปกติจะมีขั้นตอนตามลำดับคือ

- ตอบรับมติการอนุมัติให้การส่งเสริม

- ขอรับบัตรส่งเสริม

- ขออนุมัติตำแหน่งช่างฝีมือต่างชาติ

- ขอใบอนุญาตทำงานของช่างต่างชาติ

- ขออนุมัติบัญชีเครื่องจักร (Master List)

- นำเข้าเครื่องจักร

- ขออนุมัติบัญชีรายการสต็อกวัตถุดิบ (Max Stock)

- นำเข้าวัตถุดิบ

- ขออนุมัติสูตรการผลิต / ส่งออก / ตัดบัญชี ฯลฯ บางบริษัทฯ อาจมีขั้นตอนมากกว่านี้บ้าง น้อยกว่านี้บ้าง หรืออาจสลับขั้นตอนก่อนหลังบ้าง เป็นกรณีๆไป

2. เงื่อนไข หลักเกณฑ์ กฎระเบียบต่างๆ สามารถศึกษาจากเว็บไซต์ของ BOI และ IC แต่บางกรณีอาจจำเป็นต้องเข้าฝึกอบรมตามหลักสูตรต่างๆ ที่จัดขึ้นโดย BOI และ IC เมื่อมีความรู้เบื้องต้นในระดับหนึ่งแล้ว ก็สามารถปรึกษาเพิ่มเติมจาก จนท ของ BOI และ IC เป็นกรณีๆ ไป

เนื่องจากบริษัทได้รับการส่งเสริมประเภท 5.5 กิจการผลิตชิ้นส่วนสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น STEM PART FOR DIODE คำถาม ชื่อผลิตภัณฑ์ที่ระบุในบัตร = STEM PARTS FOR LASER DIODE กรณีนี้บริษัทต้องยื่นขอแก้ไขบัตรส่งเสริมหรือไม่ อย่างไร

กรณีบัตรส่งเสริมระบุชนิดผลิตภัณฑ์เป็น STEM PART FOR DIODE บริษัทจะผลิต STEM PART สำหรับ DIODE ชนิดใดก็ได้ แต่ต้องมีกรรมวิธีการผลิตที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริม จึงไม่ต้องแก้ไขชื่อผลิตภัณฑ์ในบัตรส่งเสริม

เนื่องจากวันที่ขอรับการส่งเสริมตามนโยบายฟื้นฟูที่ระบุในจดหมายเป็นวันที่ 25 ธันวาคม 2555 แต่บริษัทไม่แน่ใจว่ายึดได้หรือไม่ เพราะคนเก่าทำไว้ บริษัทจะตรวจสอบวันที่ยื่นแน่นอนได้อย่างไร หรือบริษัทควรใช้วันอนุมัติให้การส่งเสริมเป็นวันเริ่มนับเงินลงทุนดี

1. การตรวจสอบวันที่ยื่นคำขอรับการส่งเสริม ให้ตรวจสอบจากหนังสือแจ้งมติให้การส่งเสริม ซึ่งจะมีการระบุเลขที่และวันที่ของคำขอรับการส่งเสริม

2. การนับขนาดการลงทุน สามารถนับตั้งแต่วันที่ยื่นคำขอรับการส่งเสริม ดังนั้น หากมีค่าใช้จ่ายการลงทุนเกิดขึ้นระหว่างวันที่ยื่นคำขอจนถึงวันที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริม ก็ควรนับมูลค่าการลงทุนในส่วนนั้นด้วย เพื่อให้สามารถคำนวณได้วงเงินสูงสุดที่พึงได้

ขออภัยครับ ไม่มีข้อมูลส่วนนี้ ในภาษาที่ท่านเลือก !

Sorry, There is no information support your selected language !

Download และ ติดตั้งโปรแกรมอ่าน PDF

Download PDF Reader

Site map