Chat
x
toggle menu
toggle menu

Select Groups

All Group
  • All Group
  • นโยบายเเละมาตรการพิเศษในการส่งเสริม
  • การขอรับการส่งเสริมการลงทุน
  • การออกบัตรส่งเสริม
  • การเปิดดำเนินการ
  • การเเก้ไขโครงการ
  • การดำเนินการอื่น ๆ
  • การรายงานความคืบหน้าโครงการ (e-Monitoring)
  • การปฏิบัติหลังการได้รับการส่งเสริม
  • การยกเลิกบัตรส่งเสริม
  • เรื่องทั่วไป
  • การใช้สิทธิด้านที่ดิน
  • การใช้สิทธิด้านเครื่องจักร
  • การใช้สิทธิด้านช่างฝีมือ/ต่างด้าว
  • การใช้สิทธิด้านวัตถุดิบ
  • ประเภทกิจการ - การแพทย์
  • การใช้สิทธิด้านภาษีเงินได้นิติบุคคล
  • ประเภทกิจการ - รถยนต์ไฟฟ้า
  • ประเภทกิจการ - ศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ (IBC) IPO และ TISO
  • ประเภทกิจการ - โรงแรม
  • ประเภทกิจการ - ผลิตผลิตภัณฑ์โลหะรวมทั้งชิ้นส่วนโลหะ
  • ประเภทกิจการ - กิจการผลิตเครื่่องจักร อุุปกรณ์และชิ้นส่วน
  • ประเภทกิจการ - กิจการศูนย์กระจายสินค้าระหว่า ประเทศด้วยระบบที่่ทันสมัย (IDC)
ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศไทย เข้ามาเยี่ยมชมโรงงาน และฝึกสอนช่าง แต่ไม่ได้ทำวีซ่าธุรกิจ มาประมาณ ไม่เกิน 30 วัน ได้ไหม

1. กรณีเยี่ยมชมโรงงาน สามารถเดินทางเข้าประเทศ โดยไม่ต้องทำวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน โดยสามารถอยู่ในประเทศได้ไม่เกิน 30 วัน

2. กรณีสอนงาน (Training) ซึ่งทราบระยะเวลาชัดเจนและมีกำหนดการสอนชัดเจน ต้องขอใบอนุญาตทำงาน

3. กรณีซ่อมเครื่องจักรเร่งด่วนฉับพลัน ซึ่งไม่มีกำหนดล่วงหน้ามาก่อน จะต้องขอใบอนุญาตทำงาน แต่จะออกให้เป็นใบประกาศด่วน (URGENT) แทนใบอนุญาตทำงาน โดยสามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปยื่นเรื่อง/ขอรับเอกสาร แทนชาวต่างชาติได้ ส่วนวีซ่าเป็นวีซ่าผ่านเข้ามาปกติ ไม่ต้องเป็นวีซ่า Non-B

4. กรณีปฏิบัติงานเกินกว่า 15 วัน แต่ไม่เกิน 30 วัน สามารถยื่นขอใช้สิทธินำเข้าช่างฝีมือชั่วคราวเร่งด่วนต่อ BOI ได้ ซึ่งไม่ต้องขออนุมัติตำแหน่ง แต่ขั้นตอนดำเนินการขอใบอนุญาตทำงานจะเหมือนขั้นตอนปกติ โดยช่างต่างชาติจะต้องเดินทางไปทำใบอนุญาตทำงานด้วย ส่วนวีซ่าจะต้องเป็นวีซ่า Non- B

มีทางนายญี่ปุ่นเขาเคยได้ยินข่าวจากคนญี่ปุ่นด้วยกันว่า ถ้าบริษัทไหนที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI และได้นำช่างฝีมือเข้ามาปฏิบัติงาน ตอนที่เข้าประเทศมาถึงสนามบิน เหมือนเคยได้ยินมาว่า มีช่องทางพิเศษ สำหรับบริษัทที่ได้รับการส่งเสริม คือไม่ต้องไปต่อคิวยาวเหมือนปกติ ไม่ทราบว่าจริงหรือเปล่า

ชาวต่างชาติระดับบริหาร ในบริษัทที่ได้รับส่งเสริมจาก BOI สามารถขอใช้ช่องทางพิเศษ (Fast Track Lane / Premium Lane) ที่สนามบิน ในการเดินทางเข้าออกประเทศได้ ข้อมูลเบื้องต้นตาม www.faq108.co.th/common/topic/premium_lane.php

ทางบริษัทฯ ขนส่งสินค้าที่ผลิตเสร็จแล้วไปส่งให้กับ บ.A ซึ่งอยู่ในประเทศ บ.A เป็นบริษัทรับจ้างล้างชิ้นงานในห้องคลีนรูม หลังล้างเสร็จจะทำการส่งสินค้าดังกล่าวไปยัง บ.ลูกค้า ซึ่งอยู่เขต Free Zone คำถามคือ ค่าขนส่งจากบริษัทฯ ไปยังบริษัท A สามารถนำมาใช้สิทธิหักค่าขนส่งเป็น 2 เท่าได้หรือไม่

การหักค่าขนส่งเป็น 2 เท่า ตามมาตรา 35(2) จะต้องเป็นค่าขนส่งในประเทศเท่านั้น เช่น ค่าขนส่งสินค้า เครื่องจักร และวัตถุดิบ โดยไม่รวมถึงค่าขนส่งพนักงาน และจะหักได้เฉพาะส่วนที่เป็นต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตโดยตรงเท่านั้น ค่าขนส่งสินค้าไปว่าจ้างบริษัท A ให้ทำความสะอาด ก่อนจำหน่ายให้กับลูกค้า เป็นการขนส่งในประเทศที่เป็นต้นทุนการผลิตโดยตรง จึงสามารถใช้สิทธิตามมาตรา 25(2) ได้ แต่บริษัทจะต้องได้รับอนุมัติกรรมวิธีการผลิตให้มีขั้นตอนการนำสินค้าไปว่าจ้างทำความสะอาดด้วย

บริษัทที่ได้รับส่งเสริมในกิจการ IBC อยู่แล้ว สามารถยื่นขอรับการส่งเสริมในกิจการ IPO ได้หรือไม่ หากไม่ได้ จะขอยกเลิกบัตรส่งเสริมกิจการ IBC และยื่นขอรับการส่งเสริมในกิจการ IPO ได้หรือไม่ หรือสามารถเปลี่ยนกิจการที่ได้รับส่งเสริมจาก IBC เป็นกิจการ IPO ได้หรือไม่
หากมีบัตร IBC อยู่แล้ว บริษัทสามารถขอรับการส่งเสริมกิจการ IPO ได้ เนื่องจาก 1 บริษัท สามารถขอรับการส่งเสริมได้หลายบัตรหรือหลายกิจการ ทั้งนี้ บริษัทจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเฉพาะโครงการของกิจการแต่ละประเภท อย่างไรก็ตามบริษัทไม่สามารถนำบัตร IBC มาเปลี่ยนประเภทเป็นกิจการ IPO ได้ เนื่องจากเป็นคนละประเภทกิจการกัน และมีลักษณะการให้บริการที่แตกต่างกัน
ในกรณีที่บริษัทโรงงานเพิ่มขยายฐานการผลิต และจะมีการนำเข้าเครื่องจักรเพิ่มเติม เพื่อผลิตสายไฟเหมือนเดิม แต่ไม่ใช่งานชิ้นเดิม บริษัทควรที่จะขอบัตรส่งเสริมใบใหม่ หรือควรทำการแก้ไขโครงการเดิม ปัจจุบันได้รับบัตรส่งเสริม 2 ใบ

บริษัท 1 บริษัท สามารถขอรับการส่งเสริมจาก BOI ได้หลายโครงการ โดยจะผลิตสินค้าชนิดเดียวกันหรือต่างกันก็ได้ แต่มีเงื่อนไขคือ แต่ละโครงการจะต้องมีเครื่องจักรสำหรับผลิตสินค้าเฉพาะของโครงการนั้นๆ เท่านั้น จะใช้เครื่องจักรร่วมกับโครงการอื่นไม่ได้ (เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจาก BOI) กรณีที่สอบถาม ให้ข้อมูลน้อยเกินกว่าจะตอบได้ว่า ควรยื่นขอเป็นโครงการใหม่ หรือขอแก้ไขโครงการเดิม

จึงขอตอบเฉพาะหลักเกณฑ์ดังนี้

1.กรณียื่นขอเป็นโครงการใหม่

- ต้องมีการลงทุนเครื่องจักรใหม่ครบสายการผลิต โดยไม่ใช้เครื่องจักรร่วมกับโครงการเดิม

- จะได้รับสิทธิประโยชน์ตามหลักเกณฑ์ ณ วันยื่นคำขอ

- ต้องแยกรายรับรายจ่ายของโครงการใหม่และโครงการเดิม และแยกใช้สิทธิประโยชน์ของโครงการใหม่และโครงการเดิม

2.กรณีแก้ไขโครงการเดิม

- โครงการเดิมต้องยังไม่เปิดดำเนินการเต็มโครงการ (ยกเว้นกิจการอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน)

- เพิ่มกำลังผลิตได้ไม่เกิน 30% ของบัตรฉบับแรก หากเกิน ต้องยื่นขอเป็นโครงการใหม่ (ยกเว้นกรณีสิทธิประโยชน์เดิมและใหม่ได้รับเท่ากัน)

- จะได้รับสิทธิประโยชน์เท่าที่เหลืออยู่ของโครงการเดิม

กรณีที่บริษัทมีบัตรส่งเสริม 2 บัตร บัตรแรกปี 2547(หมดสิทธิเครื่องจักรและวัตถุดิบแล้ว, บัตร 2 ปี 2554 ใช้สิทธิเครื่องจักรและวัตถุดิบอยู่โดยทำเรื่องขยายเวลาไว้แล้ว ยังไม่ได้เปิดดำเนินการ รบกวนสอบถาม 1. บริษัทไม่ต้องแจ้งยืนยันการดำเนินการตามโครงการแล้วใช่ไหม เนื่องจากครบ 2 ปีทั้ง 2 บัตรแล้ว 2. บริษัทต้องรายงานผลการดำเนินงาน (ตส.310) สำหรับบัตรที่ 1 หรือไม่

1) ถ้าทั้งสองบัตร เคยยื่นแบบยืนยัน 6 เดือน 1 ปี และ 2 ปีไปแล้ว หลังจากนั้นก็ไม่ต้องยื่นอีก แต่หากไม่ได้ยื่น และยังไม่ได้รับใบอนุญาตเปิดดำเนินการครบตามโครงการ ควรยื่นย้อนหลังให้ถูกต้องตามเงื่อนไขในบัตรส่งเสริม

2) รายงานฐานะการเงินและผลประกอบการ (ตส.310) จะเริ่มรายงานหลังจากได้รับใบอนุญาตเปิดดำเนินการครบตามโครงการ และต้องรายงานตลอดไป ตราบเท่าที่ยังมีสถานะเป็นผู้ได้รับส่งเสริม ไม่ว่าสิทธิทางภาษีอากรจะหมดสิ้นลงแล้วหรือไม่ก็ตาม ดังนั้น บัตรที่ 1 ปี 2547 ยังมีหน้าที่ต้องรายงานฐานะการเงินและผลประกอบการตามแบบ ตส.310 ทุกรอบปี

ถ้ากรรมการไม่ได้ไปยื่นเอกสารเอง ต้องมอบอำนาจ หรือมีเอกสารแนบอื่นๆไหม

กรรมการเป็นผู้ลงนามและปรับตราในเอกสาร แต่จะให้ใครไปยื่นแทนก็ได้ ไม่ต้องมีหนังสือมอบอำนาจในการไปยื่นเรื่อง

บริษัทได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานฯ ให้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 2 โครงการ 1. โครงการ A ( เปิดดำเนินการแล้วประมาณ 5 - 6 ปี ) 2. โครงการ B (ยังไม่ครบกำหนดเปิดดำเนินการ) ในกรณีนี้บริษัทสามารถขออนุมัติรวมบัญชีสต็อควัตถุดิบของทั้ง 2 โครงการเข้าด้วยกันได้หรือไม่

หากทั้ง 2 โครงการได้รับอนุมัติบัญชี Max Stock แล้ว และมีรายการวัตถุดิบเหมือนกันตั้งแต่ 1 รายการขึ้นไป สามารถขอรวมบัญชี Max Stock เข้าด้วยกันได้ แต่จะถูกปรับลดระยะเวลานำเข้าให้เหลือเท่ากับโครงการที่สั้นที่สุด และเมื่อจะขอขยายระยะเวลานำเข้าวัตถุดิบ จะต้องยื่นขอขยายพร้อมกันทั้ง 2 โครงการ

โครงการลงทุนตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) จะต้องดำเนินการให้ได้รับใบรับรองมาตรฐานจากสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ หรือให้ได้รับใบรับรองระบบคุณภาพตามมาตรฐาน Capability Maturity Model Integration (CMMI) หรือเทียบเท่า ภายใน 2 ปีนับแต่วันเปิดดำเนินการ หากเป็นการพัฒนาซอฟท์แวร์เพื่อประโยชน์การกระจายสินค้า การลงทุนไม่ถึง 10 ล้าน และยังไม่มีใบรับรองมาตรฐาน ควรเริ่มต้นอย่างไร และมีโอกาสได้รับสิทธิใดจาก BOI หรือไม่

กิจการซอฟต์แวร์จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ 5-8 ปี โดยไม่กำหนดวงเงินสูงสุด จะต้องปฏิบัติให้ได้ใบรับรอง CMMI เฉพาะกรณีที่มีเงินลงทุนไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียนเกินก่ว่า 10 เท่านั้น

ต้องแจ้งหรือดำเนินการ ต่อ BOI อย่างไรบ้าง (2 ก.ค. 2563)
หากการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น ทำให้อัตราส่วนผู้ถือหุ้นไทยต่ำกว่าเงื่อนไขในบัตรส่งเสริม ให้ยื่นแบบคำขอแก้ไขอัตราส่วนผู้ถือหุ้นต่อ BOI
สอบถามเกี่ยวกับคำว่า "ตามสภาพ" ของการชำระภาษีตามสภาพของเครื่องจักรหรือแม่พิมพ์นั้น ถ้าเป็นเครื่องจักรก็สามารถคำนวณได้ตามที่แจ้งไว้ข้างต้น แต่ในกรณีที่เป็นแม่พิมพ์นั้น วัสดุของแม่พิมพ์จะเป็นเหล็ก "ตามสภาพ" คือ ราคาขายที่ผู้รับซื้อประเมินราคาออกมา (ราคาอาจจะตีเป็นกิโลหรือเหมารวม) และนำราคานั้น มาคำนวณเพื่อเป็นการชำระภาษี เข้าใจถูกต้องหรือไม่

แม่พิมพ์ก็คำนวณเหมือนกับเครื่องจักร แม่พิมพ์ราคา 1 ล้านบาท ถ้าใช้ไป 2 ปี แล้วจะจำหน่ายมูลค่าตามสภาพ (คำนวณจากอายุ 5 ปี) ก็คือ 1 ล้าน x 60% คือ 600,000 บาท

จะรบกวนสอบถามเกี่ยวกับการจำหน่ายแม่พิมพ์ที่นำเข้าจากตปท.โดยใช้สิทธิ์ BOI ในการนำเข้ามา (เป็นการจำหน่ายให้กับผู้รับซื้อภายในประเทศ) 1. มีขั้นตอนการดำเนินการอย่างไรบ้าง 2. แม่พิมพ์ที่จะจำหน่ายมีหลาย Code No.จะต้องแยกออกจากกันหรือไม่ เพื่อให้ทางสำนักงานฯที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจ เช่น จำนวน, รูปแบบของแม่พิมพ์เป็นต้น เพื่อจะนำไปเสียภาษีอากรในภายหลัง

ขั้นตอนคือ

1. ยื่นแบบฟอร์มขอจำหน่ายเครื่องจักร

- หนังสือนำส่งของบริษัทฯ

- รายการเอกสารหลักฐานที่ใช้ประกอบการพิจารณาเรื่องการนำเครื่องจักรไปใช้เพื่อการอื่น/การตัดบัญชีเครื่องจักร (F IN MC 01-03)

- แบบคำขออนุญาตจำหน่าย/โอน/บริจาคเครื่องจักร (F IN MC 04-03)

2. หากเป็นเครื่องจักรนำเข้าไม่เกิน 5 ปี จะมีภาระภาษีตามสภาพ ซึ่งต้องไปติดต่อขอชำระภาษีต่อกรมศุลกากร ตามหนังสือที่ BOI แจ้ง และเก็บเอกสารใบเสร็จรับเงินต่างๆ เป็นหลักฐานไว้

3. การขอจำหน่ายเครื่องจักร ต้องแยกแสดงเป็นแต่ละรายการ ตามที่นำเข้าและได้รับอนุมัติสั่งปล่อย โดยระบุเลขที่/วันที่หนังสืออนุมัติสั่งปล่อย ในแบบฟอร์มด้วย

บริษัทได้มีบัตรส่งเสริมการลงทุนตั้งแต่ปี 2558 กิจการผลิตโซ่ส่งกำลัง ประเภท 4.10 กิจการผลิตชิ้นส่วนยานพาหนะ เพื่อผลิตโซ่รถมอเตอร์ไซค์ ขอสอบถามว่า ถ้าประมาณปีหน้าบริษัทมีแผนจะขยายธุรกิจ ผลิตโซ่อุตสาหกรรม ที่มีขนาดของโซ่ที่ใหญ่ขึ้น ทางบริษัทจะต้องดำเนินการ หรือจัดเตรียมเอกสารอะไร อย่างไร

สามารถทำได้ 2 วิธีคือ

  1. ยื่นคำขอรับการส่งเสริมแบบออนไลน์ https://boi-investment.boi.go.th/public/ หรือ คำขอรับส่งเสริมแบบเอกสาร ต่อ BOI โดยศึกษาวิธีกรอกคำขอได้จาก คู่มือการกรอกคำขอรับการส่งเสริมสำหรับกิจการทั่วไป โดยหลักเกณฑ์การพิจารณาและสิทธิประโยชน์ จะเป็นไปตาม ประกาศ กกท ที่ 2/2557 เรื่อง นโยบายและหลักเกณฑ์ส่งเสริมการลงทุน 

    กรณีนี้ เมื่อได้รับส่งเสริม จะได้บัตรส่งเสริมฉบับที่ 2 ซึ่งจะต้องแยกเครื่องจักร และบัญชีรายรับรายจ่าย ออกจากบัตรส่งเสริมฉบับที่ 1

  2. ยื่นคำขอแก้ไขโครงการเดิม ตาม แบบคำขออนุญาตแก้ไขโครงการ ต่อ BOI แต่กรณีนี้จะมีเงื่อนไขต่างๆ เช่น จะต้องลงทุนเครื่องจักรเพิ่มขึ้นไม่เกิน 30% ของโครงการแรก เป็นต้น

กรณีนี้ เมื่อได้รับอนุญาตแก้ไขโครงการ จะยังคงเป็นบัตรส่งเสริมฉบับเดิม แต่จะมีการแก้ไขเพิ่มชนิดผลิตภัณฑ์และ/หรือกำลังผลิต ในบัตรฉบับเดิม โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ยื่นขอแก้ไขนี้ อาจได้รับสิทธิประโยชน์แตกต่างจากผลิตภัณฑ์เดิม ตามที่กำหนดในประเภทกิจการนั้นๆ

สมมุติว่าบริษัทจะขอรวมสต๊อควัตถุดิบบัตร A และบัตร B โดยบัตร A ระยะเวลานำเข้า 2 ก.พ. 56 - 1 ก.พ.60 และ บัตร B ระยะเวลานำเข้า 14 มิ.ย. 59 - 13 มิ.ย. 61 กรณีนี้ หากได้รับอนุมัติรวมสต๊อควัตถุดิบแล้ว BOI จะอนุมัติให้ตามระยะเวลาใด

การรวมบัญชีสต๊อควัตถุดิบ จะกำหนดวันที่สิ้นสุดให้เท่ากับวันที่ของบัตรที่สั้นที่สุด จากนั้นจึงจะขยายระยะเวลานำเข้าของทุกบัตรไปพร้อมๆกัน

กรณีที่สอบถาม ขั้นแรกให้รวมบัญชีสต็อค โดยกำหนดวันสิ้นสุดของทั้ง 2 บัตร เป็น 1 ก.พ. 60 จากนั้นเมื่อจะขยายระยะเวลา ให้ยื่นขอขยายเวลาพร้อมกันทั้ง 2 บัตรส่งเสริม ซึ่งปกติจะขยายให้ครั้งละ 2 ปี คือ จาก 1 ก.พ. 60 เป็น 1 ก.พ. 62

เมื่อได้ลองกดลิงค์แบบฟอร์ม "การขอขยายเปิดดำเนินการเพียงอย่างเดียว" ตามด้านบนแล้ว มัน error ไม่สามารถดูได้ และได้ลองเปิดดูใน www.faq108.co.thแล้ว ก็ไม่สามารถเปิดดูได้เช่นกัน ไม่ทราบว่าจะดาวน์โหลดแบบฟอร์มนี้ได้ที่ไหน หรือ มีการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนการในการยื่นขอขยายเปิดดำเนินการ

Link ตามนี้ https://www.boi.go.th/upload/content/F%20PM%20EX%2006%20e-form_5bbc2a008049b.pdf

การยื่น ตส.310 มีอัพเดทเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือไม่ ต้องรายงานทุกปีเมื่อเริ่มมีรายได้ครั้งแรก หรือรายงานหลังเปิดดำเนินการไปแล้ว

ในบัตรส่งเสริมว่า กำหนดเงื่อนไขการยื่น ตส.310 ว่า เมื่อเปิดดำเนินการแล้ว จะต้องรายงานผลการดำเนินงานทุกรอบปีภายในวันที่ 31 กรกฎาคม ของปีถัดไป ดังนั้น ที่ผ่านมาจึงจะยื่นเมื่อได้รับอนุญาตเปิดดำเนินการแล้วเท่านั้น แต่ประมาณปีที่แล้ว BOI ได้เปลี่ยนแนวทางใหม่ คือต้องการให้รายงาน ตส.310 หลังจากที่มีรายได้ แม้ว่าจะยังไม่ได้รับอนุญาตเปิดดำเนินการก็ตาม ซึ่ง BOI ก็ไม่แก้ไขเงื่อนไขในบัตรส่งเสริมให้สอดคล้องกัน ดังนั้น เงื่อนไขในบัตร กับวิธีปฏิบัติจริง จึงยังมีความขัดแย้งกันอยู่ สรุปคือ ณ ปัจจุบัน จะต้องยื่น ตส.310 หลังจากปีที่เริ่มมีรายได้

บริษัทมีเครื่องจักรในโครงการ และกำลังการผลิตของเครื่องจักรที่ผลิตได้เกินจากกำลังการผลิตของบัตรส่งเสริมที่ได้รับอนุมัติจากบีโอไอ บริษัทจะสามารถทำอย่างไรได้บ้างเพื่อขอแก้ไขกำลังการผลิต (เพิ่มกำลังการผลิต) ในบัตรส่งเสริมให้ถูกต้องตรงตามกำลังการผลิตของเครื่องจักร * บริษัทเปิดดำเนินการเต็มโครงการแล้ว * บริษัทได้รับการส่งเสริมในกิจการ ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

กรณีที่เปิดดำเนินการแล้ว แต่ต่อมาภายหลังมีกำลังผลิตเพิ่มขึ้น น่าจะเกิดจาก 3 สาเหตุคือ

1. แจ้งกำลังผลิตในขั้นเปิดดำเนินการ ต่ำกว่าความเป็นจริง

- ไม่อยู่ในข่ายที่จะขอแก้ไขกำลังผลิต

2. cycle time ในการผลิตลดลง (เช่น สินค้ามีขนาดเล็กลง หรือ) ทำให้ผลิตสินค้าได้เพิ่มขึ้น

- อาจขอแก้ไขได้เป็นกรณีๆไป ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ BOI

3. มีการลงทุนเครื่องจักรเพิ่มเติมหลังจากได้รับในอนุญาตเปิดดำเนินการไปแล้ว

- ไม่อยู่ในข่ายที่จะขอแก้ไขกำลังผลิต

กิจการอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องไฟฟ้า สามารถแก้ไขกำลังผลิตได้ แม้ว่าจะเปิดดำเนินการเต็มโครงการไปแล้วก็ตาม แต่หากบริษัทลงทุนเครื่องจักรเพิ่มขึ้นไปแล้ว โดยไม่ได้ยื่นขอแก้ไขโครงการต่อ BOI ก่อนที่จะซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติม ก็จะไม่นับกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นกำลังผลิตของโครงการที่ได้รับส่งเสริม

อยากทราบขอบข่ายการให้บริการภายใต้กิจการ IPO
ขอบข่ายการให้บริการภายใต้กิจการ IPO เป็นการให้บริการทางด้านการจัดหา จัดซื้อวัตถุดิบ ชิ้นส่วน และส่วนประกอบ ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต รวมถึงการให้บริการตรวจสอบคุณภาพและการบรรจุสินค้า เป็นต้น
กรณีที่บริษัทได้ว่าจ้างบริษัทขนส่งให้ดำเนินการขนส่งสินค้าให้กับลูกค้าของบริษัท สามารถนำรายจ่ายนี้มาหักเพิ่ม 2 เท่าได้หรือไม่ แยกเป็น 2 กรณี 1.ว่าจ้างให้ส่งสินค้าให้กับลูกค้าในประเทศ 2.ว่าจ้างให้ส่งสินค้าให้กับลูกค้าต่างประเทศ แต่ในการเรียกเก็บค่าบริการทางบริษัทขนส่งจะมีการเรียกเก็บแยกส่วนระหว่างค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในไทย กับ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเมืองนอกและทางเมืองนอกเรียกเก็บ ในส่วนของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในไทย สามารถนำมาหัก 2 เท่าได้หรือไม่

1.การว่าจ้างบริษัทขนส่ง ให้ขนส่งสินค้าจากบริษัทที่ได้รับส่งเสริม ไปยังโรงงานของลูกค้า เป็นค่าใช้จ่ายที่สามารถนำมาหักเพิ่มได้ 2 เท่า ตามมาตรา 35(2)

2.การว่าจ้างบริษัทขนส่ง ให้ขนส่งสินค้าจากบริษัทที่ได้รับส่งเสริม ไปยังท่าเรือหรือสนามบิน เพื่อส่งไปจำหน่ายต่างประเทศ เป็นค่าใช้จ่ายที่สามารถนำมาหักเพิ่มได้ 2 เท่า ตามมาตรา 35(2) ทั้ง 2 กรณีข้างต้น จะต้องเป็นค่าขนส่งเท่านั้น ไม่รวมค่าบริการอื่นๆ เช่น ค่ายกของ ค่าฝากของ ฯลฯและบริษัทที่ได้รับส่งเสริมซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง จะต้องลงบัญชีเป็นค่าขนส่งด้วย

ช่างฯที่ถือใบถิ่นที่อยู่สามารถนำบุตรอายุ 18 ปีเข้ามาในประเทศได้หรือไม่ จะได้ระยะเวลาอยู่ในไทยกี่ปี (คิดตามใบถิ่นที่อยู่ หรือ ตามระยะเวลาที่ BOI อนุมัติ)

ช่างฝีมือที่ได้รับอนุมัติบรรจุตามสิทธิประโยชน์ BOI สามารถขอนำครอบครัว (คู่สมรส และบุตรที่อายุไม่เกิน 20 ปี) เข้ามาประเทศได้ โดยครอบครัวจะได้รับอนุมัติให้อยู่ในประเทศได้ตามระยะเวลาที่ช่างฝีมือได้รับอนุมัติจาก BOI ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทกิจการที่ได้รับส่งเสริม เช่น

- กิจการผลิต 2 ปี

- กิจการสนับสนุนการค้าและการลงทุน (TISO ) 1 ปี

- กิจการ ITC และ IHQ 4 ปี

กรณีที่สอบถาม บุตรอายุ 18 ปี จึงสามารถขอใช้สิทธิข้างต้นจาก BOI ได้ แต่จะได้รับอนุญาตให้อยู่ได้ถึงอายุ 20 ปีบริบูรณ์ หลังจากนั้นต้องขอวีซ่าอื่น (เช่น วีซ่านักศึกษา) ตามขั้นตอนปกติ

ขออภัยครับ ไม่มีข้อมูลส่วนนี้ ในภาษาที่ท่านเลือก !

Sorry, There is no information support your selected language !

Download และ ติดตั้งโปรแกรมอ่าน PDF

Download PDF Reader

Site map