Chat
x
toggle menu
toggle menu

Select Groups

All Group
  • All Group
  • นโยบายเเละมาตรการพิเศษในการส่งเสริม
  • การขอรับการส่งเสริมการลงทุน
  • การออกบัตรส่งเสริม
  • การเปิดดำเนินการ
  • การเเก้ไขโครงการ
  • การดำเนินการอื่น ๆ
  • การรายงานความคืบหน้าโครงการ (e-Monitoring)
  • การปฏิบัติหลังการได้รับการส่งเสริม
  • การยกเลิกบัตรส่งเสริม
  • เรื่องทั่วไป
  • การใช้สิทธิด้านที่ดิน
  • การใช้สิทธิด้านเครื่องจักร
  • การใช้สิทธิด้านช่างฝีมือ/ต่างด้าว
  • การใช้สิทธิด้านวัตถุดิบ
  • ประเภทกิจการ - การแพทย์
  • การใช้สิทธิด้านภาษีเงินได้นิติบุคคล
  • ประเภทกิจการ - รถยนต์ไฟฟ้า
  • ประเภทกิจการ - ศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ (IBC) IPO และ TISO
  • ประเภทกิจการ - โรงแรม
  • ประเภทกิจการ - ผลิตผลิตภัณฑ์โลหะรวมทั้งชิ้นส่วนโลหะ
  • ประเภทกิจการ - กิจการผลิตเครื่่องจักร อุุปกรณ์และชิ้นส่วน
  • ประเภทกิจการ - กิจการศูนย์กระจายสินค้าระหว่า ประเทศด้วยระบบที่่ทันสมัย (IDC)
ในกรณีนี้ หากยังต้องการนำเครื่องจักรเข้ามาอีก สามารถทำได้หรือไม่ เนื่องจากมีการขยายเวลามาครบ 3ครั้งแล้ว

หากขยายระยะเวลานำเข้าเครื่องจักรครบ 3 ครั้งแล้ว และสิ้นสุดระยะเวลานำเข้าเครื่องจักรไปแล้ว หากยังต้องการนำเครื่องจักรเข้ามาอีก ก็ต้องชำระภาษีอากร

บริษัทมีความต้องการแก้ไขโครงการบางส่วน แต่ไม่มีเอกสารสำเนาตอบรับมติเก็บไว้ สามารถทำจดหมายเข้าไปขอรับสำเนาที่ BOI ได้หรือไม่ เนื่องจากจะขอแก้ไขโครงการในเรื่องของกรรรมวิธีการผลิต แต่ในบัตรส่งเสริมไม่มีข้อมูลในจุดนี้ ถ้าอยากทราบว่าทางบริษัทเคยมีขอแก้ไขเกี่ยวกับกระบวนการผลิตอะไรไปบ้างแล้วต้องติดต่อขอเอกสารอะไร ประเภทไหน ที่ไหนยังไง คือบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าหน้ามาหลายคน และไม่มีเอกสารเก่าเก็บไว้เลย จึงอยากทราบข้อมูลที่เคยทำเรื่องแก้ไขไป

การแก้ไขโครงการ หากได้รับบัตรส่งเสริมแล้ว ไม่ต้องใช้หนังสือตอบรับมติ

1. กรรมวิธีการผลิต ที่ได้รับอนุมัติครั้งแรก จะอยู่ในหน้าสุดท้ายของ "หนังสือแจ้งมติให้การส่งเสริม" หากไม่มีหนังสือแจ้งมติ ให้แจ้งความเอกสารหาย และทำหนังสือบริษัทมายัง BOI พร้อมกับใบแจ้งความ เพื่อขอคัดสำเนาหนังสือแจ้งมติ

2. หากมีการแก้ไขกรรมวิธีการผลิต ภายหลังจากได้รับบัตรส่งเสริมไปแล้ว จะอยู่ใน "หนังสืออนุมัติให้แก้ไขกรรมวิธีการผลิต" วิธีตรวจสอบว่าบริษัทใดเคยยื่นแก้ไขกรรมวิธีการผลิตไปบ้างหรือไม่ให้เข้าไปตรวจในระบบตรวจสอบเอกสารทาง internet (http://doctracking.boi.go.th/) หากตรวจพบว่าเคยมีการแก้ไข แต่ที่บริษัทไม่มีหนังสืออนุมัติ ก็ต้องยื่นแจ้งความเอกสารหาย และขอคัดสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้องเป็นเรื่องๆไป

เครื่องจักรที่ใช้สำหรับกิจการ IPO จะสามารถได้รับสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นอากรนำเข้าเครื่องจักร" แต่ "เครื่องจักรที่นำเข้ามาเพื่อจำหน่ายให้ลูกค้าจะไม่อยู่ในข่ายได้รับสิทธิประโยชน์" ความเข้าใจนี้ถูกต้องหรือไม่
ถูกต้อง เฉพาะเครื่องจักรที่ใช้ในโครงการของกิจการ IPO เท่านั้นที่จะสามารถได้รับสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร (ตามมาตรา 28) แต่เครื่องจักรที่นำเข้ามาเพื่อจำหน่ายจะไม่ได้รับสิทธิยกเว้นอากรขาเข้า นอกจากนั้น มีข้อพึงระวังคือ เครื่องจักรจัดเป็นสินค้าสำเร็จรูป ไม่ใช่วัตถุดิบ ชิ้นส่วน และส่วนประกอบ การจำหน่ายเครื่องจักรจึงไม่อยู่ในข่ายดำเนินการภายใต้กิจการ IPO ได้
บริษัทได้สั่งซื้อผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่จากบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น, บริษัทนำเข้ามาปกติไม่ได้ใช้สิทธิยกเว้นอากรแต่อย่างใด (เนื่องจากผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่มีแผนจะผลิตที่ไทย, แต่ยังไม่ได้ขออนุมัติสูตรการผลิต) เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าในเขตฟรีโซน, อยากทราบว่าบริษัทสามารถบันทึกรายได้ดังกล่าว เป็นรายได้ประเภท BOI ได้หรือไม่

ไม่ค่อยเข้าใจคำถาม จึงขอตอบกลางๆ ไว้ก่อนคือ รายได้จากสินค้าที่จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขคือ

ชนิดผลิตภัณฑ์ตรงตามบัตรส่งเสริม

กำลังผลิตไม่เกินบัตรส่งเสริม

ผลิตตามกรรมวิธีที่ได้รับส่งเสริม โดยวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตจะนำเข้าโดยยกเว้นภาษีหรือชำระภาษีก็ได้ (เป็นคนละประเด็นกับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล)

ส่วนการจำหน่าย จะส่งออก หรือจำหน่ายในประเทศ หรือจำหน่ายไปยังฟรีโซน ก็สามารถยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ทั้งสิ้น

บริษัทฯ มีเงินทุนจดทะเบียนมากกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีชาวต่างชาติ 1 ท่าน ที่ขอตำแหน่งภายใต้บีโอไอ และทำงานกับบริษัทฯ ติดต่อมาเป็นระยะเวลานานกว่า 16 ปีแล้ว โดยปัจจุบันอยู่ในตำแหน่ง President (ประมาณ 2-3 ปี ก่อนหน้านั้น ตำแหน่ง Managing Director) มีคำถามคือ หากบริษัทฯ ต้องการขอตำแหน่งให้กับชาวต่างชาติเพิ่มอีก 1 ท่าน ซึ่งทำงานกับบริษัทฯ มานานประมาณ 6 ปี โดยขอตำแหน่ง General Manager จะได้หรือไม่
หลักเกณฑ์ทั่วไป

1. ตำแหน่ง President, Managing Director, General Manager และ Director ในสายงานต่างๆ ถือเป็นตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง

2. ตำแหน่ง President จะอนุมัติในกรณีที่มีหุ้นต่างด้าวเกินกว่า 50% ของทุนจดทะเบียน หรือมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท

3. กรณีที่ได้รับอนุมัติตำแหน่ง Managing Director ไปแล้ว อาจไม่อนุมัติตำแหน่ง General Manager ให้อีก เว้นแต่กรณีที่มีหุ้นต่างชาติมากกว่า 50% ของทุนจดทะเบียน และมีเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

ตอบคำถาม

1. กรณีของบริษัทมีทุนจดทะเบียนเกินกว่า 100 ล้านบาท หากเป็นหุ้นต่างชาติข้างมาก อยู่ในข่ายที่จะขออนุมัติตำแหน่ง General Manager เพิ่มเติมจากตำแหน่ง President ที่มีอยู่เดิม

2. แต่หากบริษัทเป็นหุ้นไทยข้างมาก ปกติจะไม่อนุมัติตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงให้มากกว่า 1 ตำแหน่ง

เนื่องจากบริษัทเราได้รับการส่งเสริม การนำช่างฝีมือเข้ามาทำงาน ทางเรามีคำถามเกี่ยวกับขั้นตอนแรก การขอตำแหน่ง ซึ่งทางเรา อยากทราบวิธีการคิด ยอดขายประจำปี พอจะมีใครสามารถอธิบายได้ไหมคะ ว่าต้องคิดจากอะไร

ยอดขายให้ใช้ข้อมูล "รายได้จากการขาย" ในงบการเงินปีล่าสุดตามที่แนบเอกสาร กรณียื่นขอตำแหน่งครั้งแรก หากยังไม่มีงบการเงิน จะคีย์ยอดขายเป็น 0 ไปก่อนก็ได้ โดยให้เขียนหมายเหตุชี้แจงเพิ่มเติมด้วยว่า บริษัทจัดตั้งเมื่อไร ครบรอบปีบัญชีเมื่อไร เหตุใดจึงยังไม่มีงบการเงิน ฯลฯ

ในกรณีที่ทางบริษัทได้รับการว่าจ้างจากทางลูกค้าภายในประเทศให้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการส่งเสริมส่งขายให้กับทางลูกค้า โดยที่ทางลูกค้านำวัตถุดิบมาให้ ทางบริษัททำการผลิตส่งให้ทางลูกค้า และทางบริษัทออกอินวอยซ์เก็บเงินเฉพาะค่าจ้างเท่านั้น (เครื่องจักรนำเข้าภายใต้บีโอไอ) สิ่งที่อยากทราบคือ 1.ในการรับจ้างนี้ทางบริษัทสามารถทำได้หรือไม่ 2.รายได้ในการรับจ้าง สามารถใช้สิทธิ์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้หรือไม่ 3.ในอินวอยซ์ควรจะระบุข้อความเป็นอย่างไร เช่น service charge ได้หรือไม่

ต้องแยกเป็น 2 เรื่อง คือ 1) การรับจ้างทำได้หรือไม่ 2) การรับจ้างผลิตสินค้าตามโครงการที่ได้รับส่งเสริม ถือเป็นส่วนที่ได้รับส่งเสริมหรือไม่

คำตอบคือ

1) การรับจ้างผลิต หากเป็นนิติบุคคลสัญชาติไทย สามารถทำได้ แต่หากเป็นต่างชาติ ต้องขออนุญาตจากสำนักบริหารการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว

2) การรับจ้างผลิตสินค้าตามโครงการที่ได้รับส่งเสริม โดยมีกรรมวิธีการผลิตครบถ้วนตามที่ได้รับการส่งเสริม ถือเป็นการดำเนินการตามโครงการที่ได้รับส่งเสริม รายได้ในส่วนนี้สามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้

ตอบคำถาม

1. หากเป็นบริษัทสัญชาติไทย และรับจ้างผลิตสินค้าตามโครงการ โดยมีขั้นตอนผลิตครบถ้วน ก็สามารถทำได้

2. รายได้จากการรับจ้างผลิตสินค้าตามโครงการที่ได้รับส่งเสริม โดยมีกรรมวิธีผลิตครบถ้วนตามที่ได้รับส่งเสริม สามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้

3. อินวอยซ์น่าจะต้องระบุให้ชัดเจนว่าเป็นการรับจ้างผลิตอะไร จำนวนเท่าไร

ในกิจการ IPO เดิม BOI กำหนดจะต้องมีแหล่งจัดหาสินค้าจากหลายราย และอย่างน้อยต้องมีแหล่งจัดซื้อจากในประเทศด้วย ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 อยากทราบว่าภายใต้กิจการ IPO ใหม่ ยังคงมีการกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าวอยู่หรือไม่
สำหรับ IPO ปัจจุบัน มีการกำหนดให้จะต้องมีการจัดซื้อจากในประเทศ อย่างน้อย 1 ราย โดยไม่กำหนดเปอร์เซ็น ทั้งนี้ แม้ไม่ได้มีการหนดเปอร์เซ็น และบริษัทสามารถมีการจัดซื้อในไทยน้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นได้ แต่ควรมีการจัดซื้อในประเทศอย่างเหมาะสม ไม่ใช่การเลี่ยงเพื่อให้ผ่านเงื่อนไขของ BOI
หากมีความประสงค์ที่จะบริจาคอุปกรณ์สำนักงานต้องขออนุญาตจาก BOI หรือไม่ ต้องดำเนินการอย่างไร

อุปกรณ์สำนักงาน เป็นสิ่งที่ไม่ได้สิทธิยกเว้นอากรขาเข้าจาก BOI ดังนั้น หากจะจำหน่ายหรือบริจาค ก็สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจาก BOI แต่หากจำหน่ายบริจาค/อุปกรณ์สำนักงานไปแล้ว ทำให้ขนาดการลงทุนของโครงการ (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) ต่ำกว่า 1 ล้านบาท จะผิดเงื่อนไขในบัตรส่งเสริม จึงจะเปิดดำเนินการไม่ได้ และจะถูกเพิกถอนบัตรส่งเสริม

1.รถเข็นที่ใช้ใส่วัตถุดิบเพื่อส่งให้ฝ่ายผลิต 2. ชั้นวางสำหรับเก็บวัตถุดิบใน store นับเป็นเงินลงทุนประเภทเครื่องจักรหรือไม่ ถ้าไม่ใช้ จะนับเป็นเงินลงทุนประเภทไหน

คำถามนี้ไม่น่าจะมีคำตอบที่เป็นหลักเกณฑ์ตายตัวกับทุกอุตสาหกรรม จึงขอตอบตามความเห็นส่วนตัว ดังนี้

รถเข็น และชั้นวางของ/เก็บของ มีลักษณะใช้งานอเนกประสงค์ ปกติควรนับเป็นการลงทุนประเภทสินทรัพย์อื่นๆ แต่ในกรณีของบางอุตสาหกรรม เช่น กิจการคลังสินค้า ซึ่งลักษณะธุรกิจเป็นการขนย้ายและจัดเก็บสินค้า อาจถือว่ารถเข็นและชั้นเก็บสินค้า เป็นการลงทุนในข่ายเครื่องจักร (เครื่องมือ เครื่องใช้) ในกิจการนั้นได้ เช่นเดียวกับกรณีของกิจการการค้าระหว่างประเทศ (ITC/IPO) ซึ่งถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ เป็นการลงทุนเครื่องจักรของโครงการ

กรณีที่สอบถามนี้ หากมีผลโดยตรงต่อการคำนวณขนาดการลงทุนขั้นต่ำเพื่อให้เกิน 1 ล้านบาท แนะนำให้ปรึกษากับ จนท BOI ที่รับผิดชอบกิจการของบริษัทโดยตรง

กรณีที่บริษัทนำเข้าวัตถุดิบตามมาตรา 36(1) เพื่อเข้ามาผลิตสินค้า 900 ตัว แต่ทางบริษัทสามารถผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปได้ 755 ตัว เนื่องจากบริษัทแม่มีการปรับเปลี่ยนโมเดลในการผลิตกะทันหัน ทำให้มีวัตถุดิบบางส่วนเหลือที่ยังไม่ได้ ผลิต และบางส่วนทำการผลิตไปแล้วแต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์และไม่สามารถทำต่อได้ เนื่องจากแผนการผลิตโมเดลที่นำเข้ามาถูกระงับไว้ ดังนั้นถ้าทางบริษัทต้องการส่งวัตถุดิบส่วนที่เหลือ และสินค้าที่ผลิตยังไม่เสร็จสมบูรณ์ขายกลับไปยังต่างประเทศ ทางบริษัทควรจะดำเนินการอย่างไรดีเพื่อให้สามารถนำรายการที่ส่งออกไปตัดบัญชีได้

1. วัตถุดิบที่เหลือจากการผลิต ที่ยังอยู่ในสภาพเดียวกับที่นำเข้า สามารถขออนุญาตส่งคืนไปต่างประเทศได้โดยไม่มีภาระภาษีอากร

2. ส่วนวัตถุดิบที่เข้าสู่กระบวนการผลิตเป็นชิ้นส่วนกึ่งสำเร็จรูปแล้ว แต่ไม่สามารถนำไปใช้ต่อตามวัตถุประสงค์เดิมได้ ถือเป็นส่วนสูญเสียนอกสูตรการผลิตสามารถขอส่งออกไปต่างประเทศ หรือบริจาค หรือขอทำลายได้ แต่ต้องมีบริษัท Inspector ที่ได้รับมอบหมายจาก BOI เป็นผู้ตรวจสอบรับรองปริมาณส่วนสูญเสียนั้น

ในแบบฟอร์มที่มี ค่าการก่อสร้าง หมายถึงว่า รวมกับการเปลี่ยนหลังคา หรือเสริมโครงสร้าง เพื่อโครงการโซลาร์เซลล์ เท่านั้นใช่หรือไม่? โปรดอธิบายความหมายของค่าการก่อสร้างเพิ่มเติม ?

ประกาศสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ ป.1/2545 เรื่อง การกำหนดความหมายรายการเงินลงทุน ดังนี้

ค่าก่อสร้าง ให้หมายความถึงรายการ ดังนี้

1. กรณีก่อสร้างเอง ได้แก่ ค่าก่อสร้างอาคารสำนักงาน โรงงาน สาธารณูปโภค และสิ่งอนวยความสะดวกต่าง ๆ และรวมถึงค่าต่อเติมหรือปรับปรุงด้วย

2. กรณีการเช่าอาคารหรือโรงงาน ให้ใช้ค่าเช่าตามสัญญาการเช่า ทั้งนี้จะต้องมีระยะเวลาการเช่ามากกว่า 3 ปี

ขั้นตอนการจำหน่ายเครื่องจักรไปยังต่างประเทศ ต้องเข้าไปคีย์ส่งออกที่ระบบ eMT ก่อน หรือต้องยื่นขออนุมัติจาก BOI ก่อน

การส่งคืนเครื่องจักรไปต่างประเทศ ให้ยื่นขอบนระบบ emt ได้เลย และภายหลังส่งออก จะต้องคีย์ข้อมูลยืนยันการส่งออกอีกครั้งหนึ่ง

1. บริษัท ได้รับสิทธิประโยชน์ นำเข้าเครื่องจักรตามมาตรา 28 และได้นำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์มาแล้ว (ไม่ใช่เครื่องจักรหลัก) แล้วต้องการโอนให้กับกิจการที่ได้รับสิทธิประโยชน์ เช่นเดียวกัน สามารถดำเนินการได้หรือไม่ 2. จากคำถามข้อที่ 1 หากดำเนินการได้ บริษัทได้มีการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ เข้ามา เดือน ตุลาคม 2556 แต่บัตรส่งเสริมของผู้รับโอนได้รับการอนุมัติให้การส่งเสริม วันที่ 18 กรกฎาคม 2557 ซึ่งสามารถนำเข้าเครื่องจักร ขยายเวลาย้อนหลังไปถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 จะยังสามารถทำการโอนเครื่องจักรและอุปกรณ์ให้กันได้หรือไม่

1.การโอนเครื่องจักร จะต้องไม่ทำให้กำลังผลิตเปลี่ยนแปลงเกินกว่า 20% และไม่ทำให้กรรมวิธีผลิตเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น หากไม่ใช่เครื่องจักรหลัก ก็น่าจะอยู่ในข่ายที่สามารถให้โอนได้

2.การโอนจะมีผลตั้งแต่วันที่อนุญาตให้โอน ดังนั้น หากในวันที่อนุญาตให้โอน บัตรที่รับโอนได้รับสิทธิ ม.28 และยังมีระยะเวลานำเข้าเหลืออยู่ ก็อยู่ในข่ายที่จะอนุญาตให้โอนโดยไม่มีภาระภาษี แต่หากวันที่อนุญาตให้โอน พ้นจากระยะเวลาที่ได้รับสิทธิของบัตรที่รับโอน ก็จะเป็นการโอนโดยมีภาระภาษี

เรื่องทุนจดทะเบียน ในบัตรส่งเสริมระบุว่า 1. ทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วไม่น้อยกว่า ....บาท > ตัวเลขนี้มาจากไหน 2. ขนาดการลงทุน (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) มีมูลค่า... > ตัวเลขนี้คิดจากไหน
เป็นตัวเลขที่มาจากคำขอรับการส่งเสริมที่บริษัทยื่นต่อ BOI
1. ทุนจดทะเบียน จากข้อมูลข้อ 2.1.1 ในคำขอฯ
2. ขนาดการลงทุน (โดยไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) จากข้อมูลข้อ 2.2 ในคำขอฯ
กรณีที่มีบริษัท Inspector เข้ามาตรวจสอบ หลังจากตรวจสอบแล้วทางบริษัทจะทำการออกใบรับรอง พร้อมแนบรายการวัตถุดิบที่ใช้ประกอบเป็นชิ้นงานกึ่งสำเร็จรูปนั้นๆ แล้วทางบริษัทก็ใช้เอกสารนี้ไปเป็นหลักฐานในการตัดบัญชี เข้าใจถูกต้องไหม

ถูกต้อง Inspector จะตรวจสอบรับรองว่าชิ้นส่วนกึ่งสำเร็จรูปที่เป็นส่วนสูญเสียนั้น เกิดจากวัตถุดิบรายการอะไร จำนวนเท่าไร พร้อมกับจะรับรองการทำลาย (หรือส่งออก) ซึ่งบริษัทสามารถยื่นหนังสือรับรองนั้นเป็นหลักฐานในขั้นตอนการขออนุมัติตัดบัญชีส่วนสูญเสียนอกสูตร

ขอสอบถามข้อมูลดังนี้ 1. รายการที่ขอ BOI เป็นประเภทเครื่องจักรมี 3 รายการ คือ Inverter , String box และ Solar module ส่วนรายการสินค้าที่ซื้อในประเทศ เช่น สายไฟ ท่อลูกฟูก และอุปกรณ์อื่นๆที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าสามารถนำมากรอกในใบแจ้งยืนยันการดำเนินโครงการได้หรือไม่ 2. วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า เช่น สายไฟ ท่อลูกฟูก จะสามารถลงรายการเป็นเครื่องจักรหรือรายการวัตถุดิบ

นิยามของเครื่องจักรภายใต้ พรบ.ส่งเสริมการลงทุนของ BOI ค่อนข้างกว้าง คือ รวมถึงส่วนประกอบ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ต่างๆ ด้วย (ประกาศ สกท ที่ ป.1/2546) รายการที่สอบถาม หากเข้าข่ายส่วนประกอบ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือเครื่องใช้ ในระบบผลิตกระแสไฟฟ้า ก็นับเป็นการลงทุนในข่ายเครื่องจักรได้

ในกรณีที่ได้ BOI 1. เราจะไม่ถูกหัก ณ ที่จ่ายเวลาขายอะไรให้ลูกค้าแล้วค่าเช่าสำนักงานต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายไหม 2. แต่ถ้าเราจ้างใครทำอะไร หรือรับบริการ เราต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ไหม 3. แล้วแบบนี้ภาษี ภพ 30 จะทำอย่างไร 4. แต่ลูกจ้างเงินเดือนต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ไว้ตามปกติใช่ไหม 5. แล้วคำว่าเปิดดำเนินการภายใน 3 ปี นี้ คือ ระหว่างปี 1-3 ต้องทำงบการเงินปกติ แล้วก็ยื่นเสียภาษีตามปกติใช่ไหม 6. ประกันสังคมต้องจดเลย หรือว่าจดทีหลังได้ หากช่วงแรกยังไม่มีพนักงาน หรือว่ายังไม่เป็นพนักงานประจำ ไม่จดได้ไหม

1) บริษัทที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนโดยได้รับสิทธิตามมาตรา 31 จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับรายได้จากการประกอบกิจการที่ได้รับส่งเสริม ดังนั้น ผู้ที่จ่ายเงินค่าจ้างหรือค่าบริการให้กับผู้ไดรับส่งเสริมดังกล่าว จึงไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย โดยบริษัทที่ได้รับส่งเสริมจะต้องถ่ายสำเนาบัตรส่งเสริมให้กับผู้จ่ายเงิน เพื่อแสดงว่าบริษัทได้รับสิทธิประโยชน์การยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับการประกอบกิจการบริการนั้น

คำตอบข้อหารือของกรมสรรพากร

http://www.rd.go.th/publish/23636.0.html

http://www.rd.go.th/publish/35686.0.html

ส่วนค่าเช่าสำนักงาน และค่าอื่นๆ ที่อาจต้องการสอบถามเพิ่มเติมภายหลัง ถ้าเข้าข่ายตามคำตอบข้างต้น ผู้จ่ายก็ไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย แต่ถ้าไม่เข้าข่าย ผู้จ่ายก็มีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามประกาศกรมสรรพากร

2) เหมือนกับข้อ 1 คือ หากผู้ให้บริการเป็นบริษัท BOI ที่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา BOI ผู้ว่าจ้างก็ไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย สำหรับค่าจ้างตามโครงการที่ผู้รับจ้างได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้

3) ภพ 30 ไม่เกี่ยวข้องอะไร ให้เรียกเก็บ VAT หรือชำระ VAT ตามปกติ

4) ใช่

5) คำว่าเปิดดำเนินการภายใน 3 ปี เขียนไว้ที่ไหนอย่างไร ช่วยคัดลอกข้อความมาให้ครบถ้วนด้วย มิฉะนั้นอาจจะถามตอบกันไปคนละทาง ในบัตรส่งเสริมมีเงื่อนไขว่า บริษัทต้องเปิดดำเนินการภายในวันที่ ... (ปกติคือ 3 ปีนับจากวันที่ออกบัตรส่งเสริม) เว้นแต่จะมีการขอขยายเวลานำเข้าเครื่องจักร หรือขอขยายเวลาเปิดดำเนินการออกไปอีก คำว่าเปิดดำเนินการ ที่ระบุในบัตรส่งเสริม คือ การมีการลงทุนครบถ้วนตามโครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริม แต่บริษัทจะเริ่มผลิตหรือให้บริการก่อนวันเปิดดำเนินการของ BOI ก็ได้ อธิบายอีกแบบหนึ่งคือ วันเปิดดำเนินการของ BOI เป็นวันสุดท้ายที่กำหนดให้บริษัทต้องทำตามเงื่อนไขให้ได้ครบ ไม่ใช่วันแรกที่จะเริ่มผลิตหรือให้บริการ ดังนั้น บริษัทจึงสามารถมีรายได้ก่อนวันเปิดดำเนินการของ BOI ได้ และหากในช่วงนั้นมีกำไร ก็สามารถขอยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามสิทธิที่ได้รับ

6) ประกันสังคม จะต้องยื่นจดเมื่อมีการจ้างงาน ดังนั้น หากยังไม่มีการจ้างงาน เช่น หากยังเป็นการจ้างเหมาบริการ ฯลฯ ก็ยังไม่ต้องจดทะเบียนนายจ้างตาม พรบ.ประกันสังคม

ในกิจการ IPO เดิม BOI กำหนดจะต้องมีการจัดหาสินค้าในประเทศและส่งออกไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 อยากทราบว่าภายใต้กิจการ IPO ใหม่ ยังคงมีการกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าวอยู่หรือไม่
IPO กำหนดเงื่อนไขจะต้องมีการจัดซื้อจากในประเทศ อย่างน้อย 1 ราย โดยไม่กำหนดเปอร์เซ็น ทั้งนี้ แม้ไม่ได้มีการหนดเปอร์เซ็น และบริษัทสามารถมีการจัดซื้อในไทยน้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นได้ แต่ควรมีการจัดซื้อในประเทศอย่างเหมาะสม ไม่ใช่การเลี่ยงเพื่อให้ผ่านเงื่อนไขของ BOI นอกจากนี้ ไม่มีการกำหนดเงื่อนไขการส่งออกว่าต้องมีกี่เปอร์เซ็นต์
ในกรณีที่ทางบริษัทมีการนำเข้าเครื่องจักรจากต่างประเทศและซื้อในประเทศรวมอยู่ในไลน์ผลิตเดียวกัน ซึ่งจะผลิตผลิตภัณฑ์ที่ระบุใน BOI จะสามารถใช้สิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้หรือไม่

เครื่องจักรที่จะใช้ในโครงการ BOI จะต้องเป็นเครื่องจักรใหม่ หากเป็นเครื่องจักรเก่า ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ โดยมีอายุไม่เกินที่กำหนด และมีใบรับรองประสิทธิภาพเครื่องจักรเก่า กล่าวคือ การใช้เครื่องจักรในประเทศ ที่เป็นเครื่องจักรใหม่ เป็นไปตามนโยบายและเงื่อนไขที่ BOI กำหนด รายได้ที่เกิดจากเครื่องจักรในประเทศ ที่เป็นเครื่องจักรใหม่ จึงเป็นรายได้ตามโครงการ ซึ่งสามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล

ขออภัยครับ ไม่มีข้อมูลส่วนนี้ ในภาษาที่ท่านเลือก !

Sorry, There is no information support your selected language !

Download และ ติดตั้งโปรแกรมอ่าน PDF

Download PDF Reader

Site map