Chat
x
toggle menu
toggle menu

Select Groups

All Group
  • All Group
  • นโยบายเเละมาตรการพิเศษในการส่งเสริม
  • การขอรับการส่งเสริมการลงทุน
  • การออกบัตรส่งเสริม
  • การเปิดดำเนินการ
  • การเเก้ไขโครงการ
  • การดำเนินการอื่น ๆ
  • การรายงานความคืบหน้าโครงการ (e-Monitoring)
  • การปฏิบัติหลังการได้รับการส่งเสริม
  • การยกเลิกบัตรส่งเสริม
  • เรื่องทั่วไป
  • การใช้สิทธิด้านที่ดิน
  • การใช้สิทธิด้านเครื่องจักร
  • การใช้สิทธิด้านช่างฝีมือ/ต่างด้าว
  • การใช้สิทธิด้านวัตถุดิบ
  • ประเภทกิจการ - การแพทย์
  • การใช้สิทธิด้านภาษีเงินได้นิติบุคคล
  • ประเภทกิจการ - รถยนต์ไฟฟ้า
  • ประเภทกิจการ - ศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ (IBC) IPO และ TISO
  • ประเภทกิจการ - โรงแรม
  • ประเภทกิจการ - ผลิตผลิตภัณฑ์โลหะรวมทั้งชิ้นส่วนโลหะ
  • ประเภทกิจการ - กิจการผลิตเครื่่องจักร อุุปกรณ์และชิ้นส่วน
  • ประเภทกิจการ - กิจการศูนย์กระจายสินค้าระหว่า ประเทศด้วยระบบที่่ทันสมัย (IDC)
ชำระภาษีคืนทั้งหมดนี้หมายถึงภาษีนำเข้าใช้ไหม แล้วถ้าเป็นเรื่องของภาษีเงินได้นิติบุคคล ตรงนี้ มีผลกระทบอะไรไหม หากกิจการ ไม่สามารถ ลดขนาด และต้องขอหยุดดำเนินกิจการ เนื่องจาก ไม่มี order แล้ว
กรณีขอยกเลิกโครงการที่ยังไม่ครบกำหนดเปิดดำเนินการ จะมีภาระภาษีดังนี้

1.เครื่องจักร

- เครื่องจักรที่ไม่ได้ส่งคืนกลับไปต่างประเทศ จะมีภาระภาษีตามสภาพ ณ วันที่อนุญาตให้จำหน่ายเครื่องจักร

2.วัตถุดิบ

- วัตถุดิบที่ไม่ได้ส่งคืนไปต่างประเทศ จะมีภาระภาษีตามสภาพ ณ วันนำเข้า

3.ภาษีเงินได้นิติบุคคล

- ภาษีเงินได้ที่ใช้สิทธิยกเว้นไปแล้ว หากตรวจสอบว่าโครงการปฏิบัติถูกต้องตามเงื่อนไข จะไม่ถูกเรียกภาษีคืน

- แต่หากตรวจสอบแล้ว มีการปฏิบัติไม่ถูกต้อง เช่น กรรมวิธีการผลิตไม่ครบตามที่ได้รับอนุมัติ ฯลฯ จะถูกเรียกภาษีคืน

การขอใช้ Premium lane ต้องทำอย่างไรบ้าง และใครสามารถใช้สิทธิ์นี้ได้

ผู้ที่สามารถใช้ช่องทางพิเศษ (premium lane / fast track lane) ในการเดินทางเข้าออกประเทศที่สนามบิน มีหลายประเภท สำหรับส่วนที่เกี่ยวข้องกับ BOI คือ

เป็นบริษัทที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนจาก BOI และ

เป็นนักลงทุนต่างชาติระดับผู้บริหาร ตั้งแต่ Manager ขึ้นไป

วิธีการขอใช้ช่องทางพิเศษ ทำได้โดยการส่งอีเมลแจ้งต่อ BOI ล่วงหน้า 7 วัน รายละเอียดได้ใส่เพิ่มเติมไว้ในหน้าสาระน่ารู้ ตาม link : http://faq108.co.th/common/topic/premium_lane.php

เนื่องจากได้รับบัตรส่งเสริมบีโอไอเรียบร้อยแล้ว และในบัตรส่งเสริมได้ระบุว่า "ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรที่ได้จากการประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริม นับแต่วันที่มีรายได้ " แต่บริษัทยังไม่ได้เปิดดำเนินการ เนื่องจากมีทรัพย์ไม่รวมที่ดินไม่ถึง 1 ล้านบาท จึงไม่สามารถเปิดดำเนินการบีโอไอได้คำถาม : ถ้านิติบุคคลที่ได้รับบัตรส่งเสริมแล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดดำเนินการ จะได้รับสิทธิ์การยกเว้นภาษีหรือไม่

กิจการที่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตเปิดดำเนินการ สามารถขอใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ตั้งแต่รอบปีที่มีรายได้ครั้งแรกได้ แต่จะต้องปฏิบัติถูกต้องตามเงื่อนไขที่กำหนดในบัตรส่งเสริม เช่น มีขนาดการลงทุนไม่ต่ำกว่าที่กำหนดในบัตรฯ และมีกรรมวิธีการผลิตครบตามขั้นตอนที่ได้รับอนุมัติ เป็นต้น กรณีที่สอบถาม บริษัทยังมีการลงทุน (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) ไม่ครบ 1 ล้านบาท ตามเงื่อนไขในบัตร จึงยังไม่สามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลในช่วงระยะเวลานั้นได้

ค่าใช้จ่ายสวัสดิการพนักงาน เช่น ค่าชุดเครื่องแบบประจำปี ชุดคอมพิวเตอร์สำนักงาน สามารถบันทึกเป็นค่าใช้จ่าย ที่ได้รับการส่งเสริมเพื่อนำมาคำนวณภาษีเงินได้นิติฯ หรือไม่

เงินลงทุนที่จะนับเป็นขนาดการลงทุนของโครงการ ที่จะนำมากำหนดวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ให้ยึดตามประกาศ ป.12/2544 โดยสรุปรายละเอียดไว้ตาม link : http://www.faq108.co.th/boi/tax/amount.php คำถามที่สอบถาม หากเป็นโครงการริเริ่ม สามารถนำเครื่องคอมพิวเตอร์สำนักงาน มานับเป็นขนาดการลงทุน ในข่ายสินทรัพย์อื่นๆได้ ส่วนสวัสดิการพนักงาน เช่น ค่าเครื่องแบบ ไม่นับเป็นขนาดการลงทุน

อยากทราบว่า BOI จำกัดจำนวนช่างฯ ที่จะเข้ามาทำงานหลังจากได้รับการส่งเสริมหรือไม่ มีเกณฑ์อย่างไร

BOI ไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับจำนวนช่างฝีมือต่างชาติที่จะมาปฏิบัติงานในโครงการที่ได้รับส่งเสริม เนื่องจากเป็นการอนุญาตให้คนต่างชาติมาปฏิบัติงานเพื่อถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีให้กับพนักงานไทย BOI จึงจะพิจารณาเหตุผลความจำเป็นของแต่ละโครงการเป็นกรณีๆ ไปครับ

บริษัทมีการเปิดดำเนินการไปแล้วทั้ง 2 project แต่ว่าทางบริษัทจะต้องการนำเครื่องจักรเข้ามาเพิ่มเติม หลังจากเปิดดำเนินการแล้ว และในบัตรมีเงื่อนไขเครื่องจักรว่า ตามมาตรา 28 ให้ได้รับตลอดอายุที่ได้รับการส่งเสริม อยากทราบว่าทางบริษัทยังสามารถนำเข้ามาโดยยกเว้นภาษีใช่ไหม เครื่องจักรนี้เป็นเครื่อง smt ของ ECU เป็นเครื่องจักรหลักของโครงการ

ประกาศ BOI ที่ ป.3/2547 กำหนดหลักเกณฑ์ไว้ว่า การเพิ่มกำลังผลิตของผลิตภัณฑ์เดิม จะต้องเป็นกิจการที่ยังไม่ได้เปิดดำเนินการ โดยจะให้เพิ่มกำลังการผลิตรวมกันไม่เกิน 30% ของกำลังการผลิตตามบัตรส่งเสริมฉบับแรก แต่หากสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ ไม่มีความแตกต่าง ไม่ว่าจะอนุมัติเป็นโครงการใหม่หรือเป็นการแก้ไขโครงการเดิม จะแก้ไขโครงการเดิมเพื่อเพิ่มกำลังผลิตเกินกว่า 30% ก็ได้

กิจการผลิตผลิตอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน เป็นกิจการที่มีความสำคัญเป็นพิเศษ ได้รับอนุญาตให้นำเข้าเครื่องจักรตลอดระยะเวลาที่ได้รับส่งเสริม โดยได้รับยกเว้นอากรขาเข้าเพื่อปรับปรุงทดแทนเครื่องจักรเดิม หรือเพื่อเพิ่มกำลังผลิตในโครงการเดิมไม่ว่าจะปิดดำเนินการแล้วหรือไม่ก็ตาม ตามประกาศ กกท ที่ 6/2549 และ 2/2557

ตอบคำถามดังนี้

1.กิจการผลิตผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน สามารถนำเข้าเครื่องจักรเข้ามาปรับปรุงทดแทนเครื่องจักรเดิม หรือเพื่อเพิ่มกำลังผลิต ได้ตลอดระยะเวลาที่ได้รับส่งเสริม แม้ว่าจะเปิดดำเนินการครบตามโครงการแล้วก็ตาม โดยจะได้รับยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร

2.กรณีเป็นการนำเข้าเครื่องจักรเข้ามาเพื่อเพิ่มกำลังผลิต หากสิทธิประโยชน์ที่ได้รับอยู่เดิม แตกต่างกับสิทธิประโยชน์กรณียื่นคำขอรับส่งเสริมเป็นโครงการใหม่ จะสามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ไม่เกิน 30% ของบัตรส่งเสริมฉบับแรก ยกตัวอย่างเช่น โครงการเดิมได้รับส่งเสริมโดยมีกำลังผลิต 1,000,000 ชิ้น/ปี และต้องการนำเครื่องจักรเข้ามาเพื่อเพิ่มกำลังผลิต

2.1) หากยังไม่เคยมีการเพิ่มกำลังผลิตมาก่อน สามารถขอนำเข้าเครื่องจักรเข้ามาเพื่อเพิ่มกำลังผลิตได้ไม่เกิน 300,000 ชิ้น/ปี โดยเครื่องจักรที่นำเข้ามาเพิ่ม จะได้รับยกเว้นอากรตลอดระยะเวลาที่ได้รับส่งเสริม ตามสิทธิของโครงการเดิม

2.2) หากเคยมีการเพิ่มกำลังผลิตไปแล้ว แต่ยังไม่เกิน 300,000 ชิ้น/ปี สามารถนำเครื่องจักรเข้ามาเพื่อเพิ่มกำลังผลิตได้ แต่เมื่อรวมกับกำลังผลิตที่เคยเพิ่มอยู่เดิมแล้วต้องไม่เกิน 300,000 ชิ้น/ปี 2.3) หากเคยมีการเพิ่มกำลังผลิตไปแล้วเกินกว่า 300,000 ชิ้น/ปี ไม่สามารถนำเครื่องจักรเข้ามาเพิ่มกำลังผลิตในโครงการเดิมได้อีก จะต้องยื่นขอรับส่งเสริมเป็นโครงการใหม่

3.กรณีที่สอบถาม บริษัทได้รับส่งเสริม 2 โครงการ หากสิทธิประโยชน์ที่ได้รับอยู่เดิมแตกต่างกับสิทธิประโยชน์ตามหลักเกณฑ์ปัจจุบัน จะสามารถเพิ่มกำลังผลิต (รวมกับกำลังผลิตที่อาจเคยมีการขอเพิ่มมาก่อน) ได้ไม่เกิน 30% ของบัตรส่งเสริมฉบับแรกของแต่ละโครงการ

เอกสารสามารถส่งทางเมล์ได้หรือไม่ ถ้าได้ส่งถึงใครฝ่ายไหน

การยื่นเอกสารถึง BOI ปกติควรไปติดต่อและยื่นเอกสารโดยตรง เพราะหากเอกสารไม่ครบถ้วนสมบูรณ์อย่างไร เจ้าหน้าที่ก็จะได้ตรวจสอบและอธิบายให้ทราบ อีกทั้งจะได้รับเลขที่ลงรับเอกสาร เพื่อใช้ตรวจสอบความคืบหน้าในการพิจารณาจากระบบ doctracking online ต่อไป

กรณีที่โรงงานตั้งอยู่ต่างจังหวัด ซึ่งอาจต้องเดินทางเป็นร้อยๆ กิโล หากเป็นเรื่องที่ศูนย์ BOI ประจำภูมิภาคที่ดูแลพื้นที่นั้นๆ มีอำนาจพิจารณา อาจจะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ภูมิภาค และส่งเอกสารทางอีเมล์ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อน จากนั้นจึงส่งไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ภูมิภาคนั้นๆ เพื่อลงรับและดำเนินการต่อก็ได้ เป็นกรณีๆ

กรณีโครงการเปิดดำเนินการแล้ว และมีการหยุดผลิตสินค้าในบาง line การผลิต ส่งผลให้กำลังการผลิตลดลงมากกว่า 20% โดยเครื่องจักรยังอยู่ครบถ้วนใน 2 รูปแบบ คือ 1. ตั้งอยู่ใน line การผลิตตามเดิม (พร้อมผลิตสินค้า) 2. จัดเก็บไว้ที่คลัง (เก็บไว้โดยไม่มีแผนนำมาใช้งาน) สถานะโครงการปัจจุบัน คือ ไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ใช้สิทธิยกเว้นภาษีนำเข้าเครื่องจักร (ตัดบัญชี 5 ปีแล้ว) และปัจจุบันใช้สิทธิวัตถุดิบ (เป็นสต็อครวมกับอีกบัตร) มีข้อสอบถาม คือ 1. กรณีแบบนี้ บริษัทจะต้องขอปรับลดกำลังการผลิตของโครงการ หรือ หยุดผลิตเกิน 1 เดือน บริษัทควรใช้หลักการใดในการพิจารณา 2. หากเข้าข่ายที่ต้องปรับลดกำลังการผลิตของโครงการ จะส่งผลต่อสต็อควัตถุดิบที่ใช้อยู่ในปัจจุบันหรือไม่ และจะต้องดำเนินการอย่างไร
กรณีที่สอบถาม บริษัทได้รับอนุญาตเปิดดำเนินการเต็มโครงการแล้ว และไม่ได้มีการจำหน่ายเครื่องจักรออกจากโครงการ (แม้บางส่วนจะไม่ได้ติดตั้งในสายการผลิต) บริษัทจึงยังคงมีศักยภาพการผลิตตามโครงการที่ได้รับส่งเสริม และไม่ต้องขอลดขนาดกิจการ
กรณีบริษัทได้รับการส่งเสริม BOI นำเข้าวัตถุดิบจากประเทศญี่ปุ่น โดยใช้ให้สิทธิ์ JTEPA ซึ่งหากขายให้กับ Vendor ที่ได้รับการส่งเสริม BOI และหาก Vendor ผลิต/ประกอบแล้วส่งออกโดยใช้สิทธิ BOI 1.Vendor สามารถส่งออกโดยใช้สิทธิ BOI ได้ไหม และจำเป็นต้องส่งออกโดยใช้สิทธิ JTEPA เหมือนกัน 2.หากขายและส่งออกได้ต้องดำเนินการอย่างไร หรือสามารถขายและส่งออกได้ตามปกติ 3.กรณีดังกล่าวมีผลกระทบกับ Vendor หรือไม่

Vendor ที่พูดถึง ขอเปลี่ยนเป็นคำว่า ลูกค้าและขอตอบเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ BOI เท่านั้น A(BOI) นำเข้าวัตถุดิบโดยไม่ได้ใช้สิทธิ BOI จากนั้นผลิตสินค้าจำหน่ายให้ B (BOI) เพื่อนำไปผลิตส่งออก 1-3) B สามารถใช้สิทธิ BOI ได้ หาก B มีการนำเข้าวัตถุดิบโดยใช้สิทธิ BOI / หรือ B ซื้อวัตถุดิบจาก vendor รายอื่นที่ใช้สิทธิ BOI ซึ่ง B ต้องโอนสิทธิตัดบัญชีกลับไปให้ vendor รายนั้น

ส่วน A ซึ่งนำเข้าวัตถุดิบโดยใช้สิทธิตามมาตรการที่ไม่ใช่ตามมาตรา 36 ของ BOI จะมีเงื่อนไขอื่นหรือไม่อย่างไรนั้น ไม่ทราบ

การตัดบัญชีเครื่องจักรที่นำเข้ามาแล้วครบ 5 ปี ให้ปลอดภาระภาษี จะต้องได้รับอนุญาตเปิดดำเนินการก่อน หรือ สามารถยื่นตัดบัญชีเครื่องจักรได้เลย

การตัดบัญชีเครื่องจักรเพื่อปลอดภาระภาษีเมื่อใช้งานครบ 5 ปี ส่วนใหญ่จะมี 2 กรณีคือ

1. ตัดบัญชีไปพร้อมกับการขออนุญาตจำหน่าย

กรณีนี้จะพิจารณาว่า เครื่องจักรที่จำหน่ายเป็นเครื่องจักรหลักที่จะทำให้กำลังผลิตหรือกรรมวิธีเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หากกระทบ ก็จะต้องมีเครื่องจักรเข้ามาแทน หรือต้องขอลดกำลังผลิต เป็นต้น

ซึ่งกรณีนี้ หากยังไม่ครบกำหนดเปิดดำเนินการ จะยังไม่เปิดครบตามโครงการก็ได้

2. ตัดบัญชีเพื่อปลอดภาระภาษี แต่จะยังคงใช้ในโครงการ

กรณีนี้จะขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ผู้พิจารณา แต่ส่วนใหญ่มักจะแจ้งให้บริษัทเปิดดำเนินการให้ครบตามโครงการก่อน

การตัดบัญชีเครื่องจักร ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์, แม่พิมพ์ และอื่น ๆ ที่นำเข้ามาโดยใช้สิทธิตามมาตรา 28 และ 29 ยกตัวอย่างในกรณีที่เป็น แม่พิมพ์และอะไหล่ที่นำเข้ามาโดยใช้สิทธิตามมาตรา 28 และ 29 เมื่อครบ 5 ปีนำตั้งแต่วันนำเข้า (วันที่ที่ระบุในใบขนฯ) หลังจากนั้นแล้ว ก็สามารถที่จะ "กำจัดหรือจำหน่าย" ได้ถูกต้องใช่หรือไม่ ถ้าสามารถ "กำจัดหรือจำหน่าย" ได้ มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

เข้าใจไม่ถูกต้องครับ เครื่องจักรที่ใช้สิทธินำเข้าตามมาตรา 28 หรือ 29 จะต้องใช้ในกิจการที่ได้รับส่งเสริมเท่านั้น หากไม่ต้องการใช้เครื่องจักรในโครงการ สามารถดำเนินการได้ดังนี้

ขอส่งออกไปต่างประเทศ

- ไม่มีภาระภาษี

ขอจำหน่ายในประเทศ

- มีภาระภาษีตามสภาพ

- หากนำเข้าเกิน 5 ปี สามารถตัดบัญชีเพื่อปลอดภาระภาษี และจำหน่ายโดยไม่มีภาระภาษี

ขอบริจาค

- ไม่มีภาระภาษี

ขอทำลาย

- ต้องเป็นกรณีชำรุดเสียหายเท่านั้น

- ไม่มีภาระภาษี

กรณีที่นำเข้าเครื่องจักรครบ 5 ปีแล้ว จะยื่นตัดบัญชีเพื่อปลอดภาระภาษีหรือไม่ก็ได้

แม้จะได้รับอนุญาตให้ตัดบัญชีเพื่อปลอดภาษีแล้ว บริษัทก็ยังคงต้องใช้เครื่องจักรนั้นในโครงการที่ได้รับส่งเสริมต่อไป การจะจำหน่ายเครื่องจักรออกจากโครงการ (ตัดบัญชีเครื่องจักร) จะต้องดำเนินการตามวิธีข้างต้น

ทางบริษัทได้รับการส่งเสริม BOI ในอีกโครงการใหม่และสำหรับการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ(ญี่ปุ่น) มานั้น เราไม่ได้ใช้สิทธิ์ประโยชน์ BOI แต่เราให้สิทธิ์ JTEPA แทน แล้วเวลาที่เราจะส่งออก ต่างประเทศ เราต้องเดินพิธีการเป็นแบบ BOI หรือเปล่า หรือว่าเดินปากระวางธรรมดาได้

กรณีบริษัทนำเข้าวัตถุดิบโดยใช้สิทธิยกเว้นภาษีอากรตามมาตรา 36 เมื่อส่งออก บริษัทต้องระบุในใบขนสินค้าขาออกว่ามีการใช้สิทธิ BOI และยื่นตัดบัญชีวัตถุดิบโดยระบบ RMTS แต่หากบริษัทนำเข้าวัตถุดิบโดยใช้สิทธิตามมาตรการอื่น ก็ไม่ต้องระบุว่ามีการใช้สิทธิ BOI และไม่ต้องนำใบขนมาตัดบัญชีกับ BOI แต่หากบริษัทมีการซื้อชิ้นส่วนบางการในประเทศจาก Vendor ที่เป็น BOI และต้องโอนสิทธิตัดบัญชีวัตถุดิบมาตรา 36 ให้กับ Vendor รายนั้น บริษัทก็ต้องระบุในใบขนว่ามีการใช้สิทธิ BOI เพื่อให้สามารถตัดบัญชี และโอน report-V ให้กับ Vendor รายนั้นได้

กรณีซื้อแม่พิมพ์ให้ supplier ที่อยู่ต่างประเทศเพื่อให้ผลิตวัตถุดิบให้เรา กรณีค่าแม่พิมพ์นี้สามารถคำนวณรวมเป็นค่าเครื่องจักรสำหรับวงเงินที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้หรือไม่
เครื่องจักรที่เป็นสินทรัพย์ของบริษัท แต่ไม่ได้ติดตั้งใช้งานในประเทศไทย ไม่นับเป็นมูลค่าการลงทุนที่จะนำมาคำนวณวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล

Q: แล้วหากเป็นแม่พิมพ์ที่เรานำไปให้ supplier ที่อยู่ในประเทศไทยใช้ผลิตวัตถุดิบให้เรา จะนับหรือไม่
A: หากแม่พิมพ์เป็นรายการในทะเบียนสินทรัพย์ของบริษัท และนำไปว่าจ้าง Supplier ในประเทศ ตามที่ BOI อนุญาต ถือเป็นการลงทุนที่สามารถนำมาคำนวณวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้

Q: หากตอนเปิดดำเนินการ วงเงินที่ได้รับสำหรับยกเว้นภาษีเงินได้ ได้ถูกรวมค่าใช้จ่ายตัวนี้ไปแล้ว และทางผู้ตรวจสอบบัญชีแนะนำว่าให้ใช้สิทธิโดยไม่เอายอดเงินจากแม่พิมพ์พวกนี้มารวม ทำได้ไหม โดยไม่ต้องแก้ไขการเปิดดำเนินการ หรือเอกสารการเปิดดำเนินการจากบีโอไอ
A: กรณีที่เปิดดำเนินการโดยกำหนดวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้ไปแล้ว แต่ต่อมาบริษัทส่งแม่พิมพ์ไปว่าจ้างบริษัทที่ต่างประเทศให้ผลิตให้ (โดยกรรมวิธีการผลิตที่ได้รับส่งเสริมมีขั้นตอนให้นำแม่พิมพ์ไปว่าจ้างผู้อื่นผลิต)
เนื่องจากแม่พิมพ์ที่นำไปว่าจ้างบริษัทที่ต่างประเทศจะไม่นับเป็นการลงทุนเพื่อคำนวณวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้ ความเห็นของแอดมิน คือ บริษัทควรใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ โดยไม่นำมูลค่าแม่พิมพ์นี้มารวมเป็นวงเงินยกเว้นภาษี เพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง แต่ไม่ต้องยื่นแก้ไขปรับลดวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้ในบัตรส่งเสริมและใบอนุญาตเปิดดำเนินการ
บริษัทฯ ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการ ผลิตชิ้นส่วนโลหะปั๊มขึ้นรูป ประเภท 4.8 การผลิตผลิตภัณฑ์โลหะรวมทั้งชิ้นส่วนโลหะ สำหรับยานยนต์หรือชิ้นส่วนโลหะสำหรับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ ตามเงื่อนไขในการใช้สิทธิ และประโยชน์ ข้อที่ 14.บุคคลผู้มีสัญชาติไทยจะต้องถือหุ้นรวมทั้งสิ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ ยี่สิบห้า ของทุนจดทะเบียน คำถามคือ บริษัทสามารถแก้ไขการถือหุ้นผู้มีสัญชาติไทย จากร้อยละ ยี่สิบห้า เป็น ศูนย์ ได้หรือไม่ หรือต้องมีการถือหุ้นผู้มีสัญชาติไทยอย่างน้อยเท่าไร

ตามนโยบายการให้การส่งเสริมการลงทุน BOI จะไม่กำหนดเงื่อนไขอัตราส่วนผู้ถือหุ้นไทยและต่างชาติ ในกิจการอุตสาหกรรมการผลิต แต่หากบริษัทยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุน โดยระบุว่าจะมีหุ้นไทย ... % หรือนำบริษัทเดิมที่มีหุ้นไทยบางส่วนหรือทั้งหมด มายื่นขอรับการส่งเสริมเพื่อขยายกิจการBOI ก็จะกำหนดเงื่อนไขในบัตรส่งเสริม ให้ต้องมีหุ้นไทยไม่น้อยกว่า ... % ตามที่บริษัทระบุ (หรือ ... % ตามอัตราส่วนหุ้นไทยที่มีอยู่ในบริษัทเดิม) เว้นแต่กรณีที่มีหุ้นไทยไม่ถึง 10% จึงจะไม่กำหนดเงื่อนไขในบัตรส่งเสริม

ตอบคำถาม

บริษัทสามารถยื่นขอแก้ไขอัตราส่วนผู้ถือหุ้นไทยและต่างชาติได้ โดยการยื่น แบบคำขออนุญาตแก้ไขอัตราส่วนผู้ถือหุ้น พร้อมกับเตรียมเอกสารแนบ คือ

1.สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5) ก่อนการแก้ไข

2.หนังสือยินยอมของผู้ถือหุ้นไทยทุกราย / รายงานการประชุมผู้ถือหุ้น ที่แสดงถึงวัตถุประสงค์ในการแก้ไขอัตราส่วนผู้ถือหุ้น จากนั้นนำไปยื่นต่อสำนักบริหารการลงทุน 1-4 ที่ดูแลประเภทกิจการของบริษัท และเมื่อได้รับอนุมัติแล้ว จึงนำบัตรส่งเสริมไปบันทึกแก้ไข ที่แผนกบัตรส่งเสริม ต่อไป

รายการตามด้านล่างนี้ นับเป็นเงินลงทุนของกิจการ ITC ได้หรือไม่ - CCTV กล้องวงจรปิด - Software ใช้ร่วมกับโครงการ 6.9 - Inspection light, โคมไฟสำหรับใช้ตรวจเช็คงาน - Table Light โต๊ะที่มีโคมไฟใช้สำหรับตรวจเช็คงาน - แผ่นพลาสติก หรือ โลหะ สำหรับมาทำจิ๊กตรวจสอบชิ้นงาน

1. กรณีเป็นบริษัทใหม่ ซึ่งมีการลงทุนเป็นครั้งแรก

- สามารถนำรายการที่สอบถามทั้งหมด มาบันทึกเป็นเครื่องจักรและอุปกรณ์ เพื่อนับเป็นขนาดการลงทุนได้

2. กรณีที่บริษัทประกอบธุรกิจอยู่แล้ว และต่อมาได้ยื่นขอรับการส่งเสริมเพื่อลงทุนในกิจการ IPO

- ส่วนที่จะนับเป็นการลงทุนได้ จะต้องเป็นค่าก่อสร้างหรือเครื่องจักรและอุปกรณ์เท่านั้น กรณีของบริษัทฯตามที่สอบถาม บริษัทประกอบธุรกิจอื่นอยู่ก่อนแล้ว จึงจะนับได้เฉพาะค่าก่อสร้าง และค่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ดังนี้

2.1 ส่วนที่สามารถนับเป็นการลงทุนได้ ได้แก่ Inspection light (โคมไฟสำหรับใช้ตรวจเช็คงาน), Table Light (โต๊ะที่มีโคมไฟใช้สำหรับตรวจเช็คงาน) และแผ่นพลาสติก/โลหะสำหรับทำจิ๊ก ตรวจสอบชิ้นงาน โดยอุปกรณ์ข้างต้นนี้ จะต้องระบุคำอธิบายรายละเอียดให้ชัดเจนว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจสอบคุณภาพสินค้า

2.2 ส่วนที่นับเป็นขนาดการลงทุนไม่ได้ ได้แก่ CCTV (กล้องวงจรปิด) และ Software (ใช้ร่วมกับโครงการ 6.9)

บริษัทได้รับอนุญาตเปิดดำเนินการแล้ว รายการการลงทุนเครื่องจักรและอุปกรณ์ ในแบบคำขอใช้สิทธิยกเว้น CIT หน้า 4/7 คือรายการลงทุนในเครื่องจักรที่ได้รับอนุมัติให้ cap วงเงินยกเว้น CIT ตอนเปิดดำเนินการ ใช่หรือไม่ หรือเป็นรายการเครื่องจักร ตามงบการเงิน ซึ่ง classify เครื่องจักรตามนโยบายบัญชีขององค์กร ไม่ใช่ตามความหมายของ BOI

แบบคำขอใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ หน้า 4/7 ข้อ 1.3 (2) มูลค่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ ควรใช้รายการเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ได้ยื่นไว้ในคำขออนุญาตเปิดดำเนินการ -> รายการที่นำไป cap วงเงิน เพราะเป็นรายการที่ผ่านการตรวจสอบแล้วว่า สามารถนับเป็นขนาดการลงทุนของโครงการ

การใช้สิทธิช่างฝีมือต่างด้าวหลังยกเลิกบัตรส่งเสริม กรณีที่บริษัทได้ยื่นขอยกเลิกบัตรส่งเสริม วีซ่าและใบอนุญาตทำงานของผู้บริหารต่างชาติจะสิ้นสุดเมื่อไร

กรณีที่ BOI มีคำสั่งยกเลิกหรือเพิกถอนบัตรส่งเสริม โดยที่โครงการนั้นยังมีช่างฝีมือต่างชาติได้รับสิทธิประโยชน์ให้พำนักและทำงานในประเทศอยู่

BOI จะมีหนังสือแจ้งไปยังบริษัท เพื่อให้ยื่นเรื่องช่างฝีมือดังกล่าวพ้นตำแหน่ง ภายใน 15 วัน หากพ้นกำหนดดังกล่าวแล้ว แต่บริษัทไม่ดำเนินการยื่นเรื่องช่างฝีมือพ้นตำแหน่ง BOI จะแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (ตม. และ แรงงาน) เพื่อแจ้งว่าช่างฝีมือดังกล่าว พ้นจากการได้รับสิทธิให้อยู่และทำงานในประเทศ ภายใต้สิทธิของ BOI แล้ว

ถ้าบริษัทยังไม่เปิดดำเนินการ บัตรส่งเสริม (1) ไม่ cap วงเงิน --> หน้า 4/7 ข้อ 1.3 (2) กรอกเฉพาะมูลค่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ หรือว่า กรอกทะเบียนสินทรัพย์ทั้งหมด

การกรอกแบบคำขอยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (F PM TA 01) กรณีเป็นบัตร (1) คือ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลโดยไม่กำหนดวงเงินสูงสุด หากมูลค่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ ในข้อ 1.3 (2) เกินกว่า 1 ล้านบาท ก็ไม่ต้องกรอกมูลค่าสินทรัพย์อื่นๆ ในข้อ 1.3 (3)

ในบัตรส่งเสริมกำหนดเงื่อนไขการลงทุน 1 ล้านบาท กรณีครบเปิดดำเนินการแล้ว บริษัทยังลงทุนไม่ครบ 1 ล้านบาท จะต้องมีการชำระภาษีย้อนหลังหรือไม่อย่างไร หรือต้องถูกยกเลิกโครงการนี้เพราะกิจการ ITC ไม่ได้ใช้เครื่องจักรเลย

กรณีที่บริษัทครบกำหนดเปิดดำเนินการ และไม่สามารถขยายระยะเวลาเปิดดำเนินการได้อีกแต่มีขนาดการลงทุน (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) ไม่ครบ 1 ล้านบาท ตามเงื่อนไขขั้นต่ำที่กำหนดในบัตรส่งเสริม บริษัทจะถูกเพิกถอนบัตรส่งเสริมและจะมีภาระภาษีดังนี้

1.เครื่องจักร

- จะมีภาษีอากรตามสภาพ ณ วันนำเข้า สำหรับเครื่องจักรที่นำเข้าโดยใช้สิทธิยกเว้นภาษี และไม่ได้ส่งคืนกลับไปต่างประเทศ

2.วัตถุดิบ

- จะมีภาษีอากรตามสภาพ ณ วันนำเข้า สำหรับวัตถุดิบที่นำเข้าโดยใช้สิทธิยกเว้นภาษี แต่ตัดบัญชีไม่หมด (มียอด balance คงเหลือในระบบ RMTS)

เนื่องจากบริษัทได้ทำการยื่นขอเพื่อขอบรรจุชาวต่างชาติเป็นจำนวนมากกว่า 4 ครั้ง ทั้งนี้ชาวต่างชาติรายนี้มีการเปลี่ยนแปลงชื่อสกุล โดยบริษัทได้แนบเอกสารคือ ทะเบียนบ้าน ฉบับภาษาไทย ที่ได้มีการประทับรับรองการแปลแล้ว แต่ยังคงไม่ผ่านการอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ จึงขอคำแนะนำว่าจะต้องนำเอกสารใดมาประกอบ หรือพอจะยกตัวอย่างเอกสารให้ได้หรือไม่ อย่างไร หมายเหตุ ชาวต่างชาติเป็นชาวญี่ปุ่น (11 มิ.ย. 2563)

กรณีเป็นขั้นตอนการยื่นขอบรรจุช่างฝีมือ โดยที่ช่างฝีมือต่างชาติดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงชื่อสกุล ทำให้ชื่อสกุลในเอกสารต่างๆ ที่ใช้ในการยื่นบรรจุ (หนังสือเดินทาง ใบรับรองการทำงาน ใบรับรองวุฒิการศึกษา) จะมีชื่อสกุลไม่ตรงกัน จึงต้องแนบเอกสารรับรองการเปลี่ยนชื่อสกุล (ชื่อเดิม และชื่อใหม่) ที่ออกโดยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องของประเทศนั้นๆ ด้วย

กรณีที่ยื่นคำร้องไปหลายครั้งแล้วยังไม่ผ่าน เข้าใจว่าบริษัทยื่นเอกสารไม่ตรงกับที่ BOI ขอเพิ่มเติม จึงขอให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ผู้พิจารณาเรื่องโดยตรง

ขออภัยครับ ไม่มีข้อมูลส่วนนี้ ในภาษาที่ท่านเลือก !

Sorry, There is no information support your selected language !

Download และ ติดตั้งโปรแกรมอ่าน PDF

Download PDF Reader

Site map