กรณีที่ยื่นขอจำหน่ายเครื่องจักรในประเทศโดยนำเข้ามายังไม่ครบ 5 ปี
- ต้องยื่นขออนุมัติจาก BOI
- BOI จะแจ้งให้กรมศุลกากรเก็บอากรขาเข้าตามสภาพ ณ วันที่ยื่นขออนุญาตจำหน่าย
- กรมศุลกากรจะเรียกเก็บอากรขาเข้าตามสภาพ ณ วันที่ยื่นขอ และเรียกเก็บ VAT โดยไม่มีเงินเพิ่มหรือเบี้ยปรับ เนื่องจากบริษัทยังไม่ได้ทำผิดเงื่อนไข
- แต่หากบริษัทจำหน่ายเครื่องจักรไปแล้ว จึงมายื่นขออนุญาตจำหน่าย กรณีนี้เป็นการทำผิดเงื่อนไขแล้ว จึงต้องชำระภาษีอากรตามสภาพ ณ วันนำเข้า พร้อมกับเบี้ยปรับ และเงินเพิ่ม
โครงการที่ 1 นำเข้าวัตถุดิบและผลิตเป็นสินค้า A จำหน่ายให้โครงการที่ 2 โครงการที่ 2 ซื้อ A จากโครงการที่ 1 มาผลิตเป็นสินค้า B และส่งออกไปต่างประเทศ
ตอบคำถามตามนี้
1. โครงการที่ 2 ต้องขออนุมัติบัญชีปริมาณสต็อกวัตถุดิบโดยมี A เป็นวัตถุดิบและเมื่อส่งออก จะต้องตัดบัญชีสินค้า B และโอนสิทธิตัดบัญชีวัตถุดิบ A ให้กับโครงการที่ 1
2. ตามโครงการที่ได้รับส่งเสริม A เป็นสินค้าของโครงการที่ 1 และเป็นวัตถุดิบของโครงการที่ 2 การจะซื้อขายกันระหว่างโครงการ จึงไม่ขัดกับเงื่อนไขในบัตรส่งเสริม และไม่ต้องแจ้งขออนุญาตต่อ BOI
3. การบันทึกทางบัญชี จะเป็นการที่โครงการที่ 1 จำหน่ายสินค้า A ให้กับโครงการที่ 2 ในราคาต้นทุน แต่เนื่องจากเป็นคำถามทางบัญชีและไม่ใช่ข้อกฎหมายของ BOI จึงควรปรึกษากับที่ปรึกษาทางบัญชีโดยตรง
การเปลี่ยนชื่อนิคมอุตสาหกรรม จากเดิม นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร เป็น นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี เป็นไปตามประกาศการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2561 บริษัทที่ได้รับบัตรส่งเสริมอยู่ก่อนหน้านี้ ซึ่งกำหนดเงื่อนไขที่ตั้งโรงงานเป็นนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ยังคงใช้บัตรส่งเสริมดังกล่าวได้ต่อไป โดยไม่ต้องแก้ไขเงื่อนไขที่ตั้งโรงงานเป็นนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี แต่บัตรส่งเสริม และใบอนุญาตเปิดดำเนินการ ที่ BOI ออกให้หลังจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา จะระบุเป็นนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี
![]() |
เท่าที่ทราบ ไม่เคยพบกรณีที่ BOI กำหนดเงื่อนไขว่าต้องเป็นการลงทุนโดยต่างชาติ 100% และไม่คิดว่าจะมีการกำหนดเช่นนั้น เพราะไม่ทำให้ประเทศไทยได้ประโยชน์อะไร ที่ผ่านมา BOI จะกำหนดเฉพาะเงื่อนไขหุ้นไทยเท่านั้น หากบัตรใดไม่มีการกำหนดเงื่อนไขหุ้นไทย ก็คือ จะมีหุ้นไทยหรือไม่ก็ได้ = จะเป็นหุ้นต่างชาติข้างมากหรือทั้งหมดก็ได้ ดังนั้น ถึงแม้จะเป็นการลงทุนจากต่างชาติทั้งสิ้น BOI ก็จะไม่กำหนดเงื่อนไขว่า ต้องเป็นหุ้นต่างชาติทั้งสิ้น คือ เพียงแค่ไม่กำหนดเงื่อนไขหุ้นไทยเท่านั้นก็พอ
- แจ้งช่างพ้นจากตำแหน่ง A
- แจ้งช่างพ้นจากตำแหน่ง B ล่วงหน้า 15 วัน โดยระบบจะเพิ่มวันที่อนุญาตให้ช่าง B อยู่ในประเทศให้อีก 7 วัน หลังพ้นตำแหน่ง แต่ไม่เกินระยะเวลาอยู่ในประเทศที่ได้รับอนุญาตอยู่เดิม
- นำหนังสือเดินทางของช่าง B ไปประทับตราพ้นตำแหน่งที่ ตม.
- ยื่นขอบรรจุช่าง B ในตำแหน่ง A (โดยในวันที่ยื่นคำร้อง ช่าง B ต้องมีระยะเวลาวีซ่าเหลือไม่น้อยกว่า 15 วัน)
หากกรรมวิธีผลิตที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมที่ระบุในหนังสือแจ้งมติ (หรือหนังสืออนุมัติให้แก้ไขกรรมวิธีการผลิต) ระบุว่า "บางรุ่นจะผลิตโดยการนำชิ้นส่วนพลาสติกที่ขึ้นรูปแล้ว มาประกอบกับชิ้นส่วนอื่นๆ" ก็แปลว่า บางรุ่นสามารถผลิตโดยไม่ต้องฉีดพลาสติกขึ้นเองก็ได้
สรุปคือ การจะดูว่าผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นมานั้นตรงตามที่ได้รับส่งเสริมหรือไม่ และจะสามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้หรือไม่ ให้ดูว่า ชื่อผลิตภัณฑ์ตรงตามบัตรส่งเสริมหรือไม่ กรรมวิธีการผลิตตรงตามที่ได้รับอนุมัติหรือไม่ กำลังผลิตเกินกว่าบัตรส่งเสริมหรือไม่ ปฏิบัติตามเงื่อนไขอื่นๆในบัตรถูกต้องหรือไม่ ส่วนจะใช้เครื่องจักรหลักหรือไม่หลัก ไม่ได้เป็นตัวกำหนดการใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
รายได้จากการจำหน่ายสินค้าปริมาณเกินกว่าบัตรส่งเสริมในแต่ละรอบปีบัญชี จะไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ คือ
1. หากกำลังผลิตในบัตรส่งเสริมคือ 3.6 ล้านชิ้น แต่จำหน่าย 3.8 ล้านชิ้น ส่วนเกิน คือ 0.2 ล้านชิ้น ต้องเสียภาษีเงินได้
2. หากรอบปีบัญชีแรก หรือรอบปีบัญชีสุดท้ายของการยกเว้นภาษีเงินได้ มีระยะเวลาไม่ครบ 12 เดือน ก็ให้คำนวณตามสัดส่วนนั้นๆ เช่น
รอบปีบัญชีของบริษัท คือ ม.ค.-ธ.ค. แต่หากเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ ต.ค. เป็นต้นไป คือเพียง 3 เดือน รอบปีบัญชีนั้น ก็จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีได้ ได้ไม่เกิน 3/12 ของกำลังผลิต คือ 0.9 ล้านชิ้น
ส่วนรอบปีบัญชีสุดท้ายที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ จะเป็นการจำหน่ายตั้งแต่ ม.ค. – ก.ย. และจะใช้สิทธิยกเว้นภาษีได้ไม่เกิน 9/12 ของกำลังผลิต คือ 2.7 ล้านชิ้น
ระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติถึงเมษายน 2015 คือ ระยะเวลาของตำแหน่ง หากมีการบรรจุช่างฝีมือ ช่างฝีมือจะได้รับอนุญาตให้อยู่ตามระยะเวลาของตำแหน่ง คือ เมษายน 2015 หากช่างที่บรรจุอยู่ในปัจจุบัน จะเดินทางกลับประเทศเดือนธันวาคม 2014 ก็ให้แจ้งพ้นตำแหน่ง แล้วยื่นบรรจุช่างคนใหม่แทน โดยช่างคนใหม่จะได้รับอนุญาตให้อยู่ตามระยะเวลาที่เหลืออยู่เดิมของตำแหน่ง คือ เมษายน 2015 และเมื่อถึงระยะเวลา 15-90 วัน ก่อนสิ้นสุดระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติอยู่เดิม จึงยื่นขยายระยะเวลาของตำแหน่ง จากนั้นจึงยื่นขอต่ออายุการอยู่ในประเทศของช่างฝีมือ หากตำแหน่งนั้นว่างลง เนื่องจากช่างคนเก่าเดินทางกลับ และช่างคนใหม่มาไม่ทัน จะไม่สามารถขอขยายระยะเวลาของตำแหน่งที่ว่างลงได้ ต้องปล่อยให้ตำแหน่งนั้นหมดอายุไป แล้วยื่นขออนุมัติตำแหน่งใหม่เมื่อมีความต้องการในภายหลัง
1. สิทธิประโยชน์ที่ได้รับตามบัตรส่งเสริมแต่ละฉบับ จะเลือกใช้เป็นบางมาตรา หรือจะไม่ใช้สิทธิเลยก็ได้
2. การเปิดดำเนินการตามเงื่อนไข BOI คือ การตรวจสอบว่าบริษัทได้มีการลงทุนครบถ้วนตามเงื่อนไขในบัตรส่งเสริมแล้ว (เช่น สถานที่ตั้ง เครื่องจักร กำลังผลิต กรรมวิธีผลิต เป็นต้น) จึงไม่เกี่ยวกับการจะใช้/ไม่ใช้สิทธิประโยชน์หรือไม่
หลังจากได้รับใบอนุญาตเปิดดำเนินการ บริษัทยังคงมีหน้าที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในบัตรส่งเสริมต่อไป จนกว่าจะขอยกเลิกบัตรส่งเสริม กรณีเปิดดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนดไม่ได้ จะถูกเพิกถอนบัตรส่งเสริม
3. กรณีต้องการยกเลิกบัตรส่งเสริม ให้ยื่นหนังสือแจ้งขอยกเลิกบัตรส่งเสริมต่อ BOI โดยอาจจะต้องชำระภาษีอากรเครื่องจักร/วัตถุดิบ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
กรณีลืม username และ password ของระบบ ตส.310 จะต้องยื่นขอรับ password ใหม่ เอกสารที่ใช้ คือ
1. หนังสือมอบอำนาจขอรับ password ระบบตรวจสอบเอกสารทางอินเตอร์เน็ต (Doctracking) (ร่างขึ้นได้เอง ไม่ต้องติดอากรแสตมป์)
2. สำเนาบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง ของผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ
3. สำเนาหนังสือรับรองบริษัทหน้าแรก (ไม่เกิน 6 เดือน)
โดยนำเอกสารไปติดต่อที่สำนักสารสนเทศ (BOI ชั้น 3) หรือสำนักงาน BOI ต่างจังหวัด และสามารถรอรับ password ได้ในวันนั้นเลย
หากบริษัทนำเข้าวัตถุดิบโดยใช้สิทธิยกเว้นภาษีอากรตามมาตรา 36 บริษัทจะต้องจัดเก็บวัตถุดิบ สินค้า และส่วนสูญเสีย ในสถานประกอบการ ตามที่กำหนดในบัตรส่งเสริม หากจะนำวัตถุดิบ สินค้า ส่วนสูญเสีย ไปเก็บนอกสถานประกอบการที่ได้รับส่งเสริม จะต้องขออนุญาตต่อ BOI ตาม ประกาศ สกท ที่ ป.3/2556 ข้อ 10 แต่กรณีนี้เป็นการเพิ่มคลังสินค้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสถานประกอบการของกิจการ IPO จึงจะต้องยื่นขอแก้ไขโครงการเพื่อเพิ่มที่ตั้งสถานประกอบการ
1.เมื่อโครงการที่ 2 ส่งสินค้า B ไปจำหน่ายต่างประเทศ ก็นำใบขนขาออกมาตัดบัญชีตามสูตรการผลิตของโครงการที่ 2 และออก report-v สำหรับตัดบัญชีวัตถุดิบ A ให้กับโครงการที่ 1 ซึ่งกรณีนี้ สูตรการผลิตสินค้า B จะต้องมีปริมาณการใช้วัตถุดิบ A รวมอยู่ด้วย
2.จากนั้นโครงการที่ 1 ก็นำ report-v ที่ได้รับจากโครงการที่ 2 มาตัดบัญชีตามสูตรการผลิตของของโครงการที่ 1 ให้ลองคิดว่าหากโครงการที่ 2 ซื้อวัตถุดิบ A จาก Vendor BOI จะต้องทำอย่างไร แล้วก็ใช้วิธีเดียวกันนั้น
แบบฟอร์มการขอชำระภาษีเครื่องจักรย้อนหลัง ณ วันนำเข้า ไม่มี
ให้ใช้แบบฟอร์มการขอจำหน่ายเครื่องจักร คือ หนังสือนำส่งของบริษัท (ร่างขึ้นเอง)
แบบคําขออนุญาตจําหน่าย/โอน/บริจาคเครื่องจักร (F IN MC 04)
สำเนาหลักฐานการนำเข้าเครื่องจักรทุกรายการที่ขอจำหน่าย
Checklist (F IN MC 01) โดยให้ระบุรายละเอียดว่าได้มีการจำหน่ายเครื่องจักรไปแล้วเมื่อวันที่ ...
ซึ่ง BOI จะมีหนังสือแจ้งให้กรมศุลกากรเรียกเก็บภาษีตามสภาพ ณ วันนำเข้า และมีหนังสือแจ้งบริษัทให้ไปชำระภาษี
บางสำนักฯ อาจให้บริษัทเตรียมหนังสือครุฑไปด้วย ซึ่งให้ขอรับตัวอย่างหนังสือครุฑที่เจ้าหน้าที่ธุรการของสำนักนั้น ๆ กรณีที่มีขอชำระภาษีเครื่องจักรหลายรายการ ซึ่งวันนำเข้าต่างกัน ให้แยกยื่นตามวันที่นำเข้านั้น ๆ จะสะดวกในการออกหนังสือให้เรียกเก็บภาษี
การตัดบัญชีเครื่องจักรที่นำเข้ามาเกิน 5 ปี เป็นเพียงการตัดภาระภาษีสำหรับเครื่องจักรดังกล่าวเท่านั้น แต่บริษัทยังจะต้องใช้เครื่องจักรในโครงการนั้นต่อไป ดังนั้น บริษัทจะจำหน่ายเครื่องจักรออกจากโครงการ จะต้องได้รับจาก BOI ก่อน โดยมีขั้นตอนตามนี้
กรณีจำหน่ายในประเทศ
- จะต้องยื่นขออนุญาตจาก BOI ก่อน
- กรณีเป็นเครื่องจักรหลัก ซึ่งกระทบกับกำลังผลิตหรือกรรมวิธีการผลิต จะต้องยื่นขอแก้ไขโครงการเพื่อลดขนาดกิจการ โดยจะมีการปรับลดวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
- หากเป็นเครื่องจักรเกิน 5 ปี ที่ได้รับอนุญาตให้ตัดภาระภาษีไปแล้ว จะได้รับอนุญาตให้จำหน่ายโดยไม่มีภาระภาษี
- หากไม่เกิน 5 ปี จะมีภาระภาษีตามสภาพ
กรณีส่งออกต่างประเทศ
- กรณีเป็นเครื่องจักรหลัก ซึ่งกระทบกับกำลังผลิตหรือกรรมวิธีการผลิต จะต้องยื่นขอแก้ไขโครงการเพื่อลดขนาดกิจการ โดยจะมีการปรับลดวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
- กรณีไม่ใช่เครื่องจักร ไม่ต้องขอแก้ไขโครงการ
- จากนั้น ให้ยื่นขอส่งคืนเครื่องจักรไปต่างประเทศในระบบ eMT (หากเป็นเครื่องจักรที่นำเข้ามาในระบบเก่า และไม่มีข้อมูลใน Master List ในเลือกเมนู "ส่งคืนเครื่องจักร (นอกระบบ)" )
โครงการ B ผลิต Ceramic Substrate เพื่อส่งออกโดยตรงบางส่วน และจำหน่ายให้โครงการ A บางส่วนโครงการ A นำ Ceramic Substrate จากโครงการ B ไปผลิตเป็น Resistor และส่งออก
ตอบคำถามตามนี้
1.เมื่อโครงการ A ส่งออกและตัดบัญชี จะต้องโอนสิทธิตัดบัญชีวัตถุดิบ (report-V) ให้กับโครงการ B จากนั้นโครงการ B นำ report-V ดังกล่าวไปใช้ตัดบัญชีต่อไป
2.กรณีโครงการ B จำหน่ายสินค้าให้โครงการ A (บริษัทเดียวกัน) หากสินค้าดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ตามที่ได้รับส่งเสริมของโครงการ B และเป็นวัตถุดิบตามกรรมวิธีการผลิตที่ได้รับส่งเสริมของโครงการ A ก็สามารถดำเนินการได้ตามปกติ โดยไม่ต้องแจ้งหรือขออนุญาตจาก BOI