Chat
x
toggle menu
toggle menu

Select Groups

All Group
  • All Group
  • นโยบายเเละมาตรการพิเศษในการส่งเสริม
  • การขอรับการส่งเสริมการลงทุน
  • การออกบัตรส่งเสริม
  • การเปิดดำเนินการ
  • การเเก้ไขโครงการ
  • การดำเนินการอื่น ๆ
  • การรายงานความคืบหน้าโครงการ (e-Monitoring)
  • การปฏิบัติหลังการได้รับการส่งเสริม
  • การยกเลิกบัตรส่งเสริม
  • เรื่องทั่วไป
  • การใช้สิทธิด้านที่ดิน
  • การใช้สิทธิด้านเครื่องจักร
  • การใช้สิทธิด้านช่างฝีมือ/ต่างด้าว
  • การใช้สิทธิด้านวัตถุดิบ
  • ประเภทกิจการ - การแพทย์
  • การใช้สิทธิด้านภาษีเงินได้นิติบุคคล
  • ประเภทกิจการ - รถยนต์ไฟฟ้า
  • ประเภทกิจการ - ศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ (IBC) IPO และ TISO
  • ประเภทกิจการ - โรงแรม
  • ประเภทกิจการ - ผลิตผลิตภัณฑ์โลหะรวมทั้งชิ้นส่วนโลหะ
  • ประเภทกิจการ - กิจการผลิตเครื่่องจักร อุุปกรณ์และชิ้นส่วน
  • ประเภทกิจการ - กิจการศูนย์กระจายสินค้าระหว่า ประเทศด้วยระบบที่่ทันสมัย (IDC)
ตามบัตรส่งเสริม ระบุชนิดผลิตภัณฑ์ว่า -ชิ้นส่วนพลาสติก สำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ ปีละประมาณ 900 ตัน -แม่พิมพ์ ปีละประมาณ 30 ชุด และการซ่อมแซมแม่พิมพ์ ในส่วนของเครื่องจักรที่ต้องการจำหน่ายคือเครื่องจักรที่ใช้ผลิตแม่พิมพ์ (อย่างเดียวไม่รวมเครื่องจักรที่ใช้ผลิตชิ้นส่วนพลาสติก) จะมีวิธีดำเนินการอย่างไรเพื่อให้สอดคล้องกับบัตรส่งเสริม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลังการจำหน่าย หมายเหตุ : จะจำหน่ายทั้งหมดในส่วนของเครื่องจักรที่ใช้ผลิตแม่พิมพ์ คือจะไม่มีการผลิตแม่พิมพ์

หากจะไม่ทำการผลิตแม่พิมพ์อีกต่อไป สามารถยื่นขออนุญาตจำหน่ายเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตแม่พิมพ์ทั้งหมดโดยชำระภาษีตามสภาพ โดยชี้แจงเหตุผลว่าเนื่องจากจะขอยกเลิกผลิตภัณฑ์คือแม่พิมพ์ และเมื่อจำหน่ายเครื่องจักรและเคลียร์บัญชีวัตถุดิบ (หากมี) เสร็จแล้ว ก็ให้ยื่นแก้ไขโครงการเพื่อยกเลิกชนิดผลิตภัณฑ์แม่พิมพ์ เหลือไว้แค่ผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนพลาสติก

กรณีเปลี่ยนจากกิจการ IPO (เดิม) เงินลงทุนที่ยืนขอรับการเสริมฯ ต้องไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ถ้าบริษัทฯเปลี่ยนเป็นกิจการ ITC เงินลงทุนต้องเปลี่ยนหรือไม่ และถ้าเปลี่ยนต้องไม่ต่ำกว่าเท่าไหร่ และถ้าเปลี่ยนกิจการเป็นกิจการ ITC บริษัทฯ สามารถซื้อขาย ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าสำเร็จรูปได้รึเปล่า (เดิมซื้อขายได้เฉพาะชิ้นส่วนและวัตถุดิบ)

กิจการ IPO และกิจการ ITC มีเงื่อนไขเหมือนกัน คือ ต้องมีขนาดการลงทุนไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) และต้องมีทุนจดทะเบียนเรียกชำระไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท ดังนั้น การแก้ไขประเภทกิจการจาก IPO เป็น ITC จึงไม่ต้องลงทุนเพิ่ม และไม่ต้องเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยจะได้รับยกเลิกเงื่อนไขเดิมของ IPO ที่ไม่เป็นเงื่อนไขของ ITC ด้วย และสามารถจัดซื้อสินค้าสำเร็จรูปได้ โดยต้องเป็นการค้าส่งในประเทศหรือส่งออกต่างประเทศ โดยไม่เข้าข่ายนายหน้าหรือตัวแทน

สิทธิตามมาตรา 36 ปัจจุบันได้สิทธิกี่ปี สามารถหาข้อมูลอ้างอิง เพื่อให้ผู้บริหารต่างชาติดูได้จากที่ไหนบ้าง

หลักเกณฑ์ปัจจุบัน สิทธิมาตรา 36 ให้เป็นเวลา 1 ปี ทุกประเภทกิจการ (A1-A4, B1) ตามประกาศ กกท ที่ 2/2557 ข้อ 9.1

บริษัทได้รับสิทธิในการนำเข้าเครื่องจักรใหม่ ภายใน 21 พ.ย. 58 ตามบัตรส่งเสริมกรณีประสบอุทกภัย 5091 อยากทราบว่าบริษัทสามารถจะนำเข้า spare part เพิ่มเติมของเครื่องจักรที่ประสบอุทกภัยและได้ซ่อมแซมไปเรียบร้อยแล้วโดยใช้สิทธิดังกล่าวได้หรือไม่ (ถ้าได้ ต้องทำ Master List โดยตั้งเป็นเครื่องจักรใหม่กับระบบ Emt online ก่อนหรือไม่ เพราะเดิมที่นำเข้ามาเป็นเครื่องจักรใหม่เมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว)

ขอทราบข้อมูลเพิ่มเติม คือโครงการนี้เคยสิ้นสุดระยะเวลานำเข้าเครื่องจักรไปแล้ว แต่ต่อมาได้รับอนุมัติขยายเวลานำเข้าเครื่องจักรอีก 2 ปี เพื่อให้นำเครื่องจักรเข้ามาทดแทนเครื่องที่เสียหายจากอุทกภัย ใช่ไหม

เนื่องจากสิทธิ์คร่อมกันบางส่วน แต่บริษัทไม่เคยขอขยายระยะเวลานำเข้าเครื่องจักรเลย บัตรส่งเสริมก่อนเกิดอุทกภัยมีระบุให้นำเข้าเครื่องจักรทดแทนไว้ชัดเจนตั้งแต่ 28 พ.ย.2554 ถึง 12 ธ.ค. 2556 และบัตรส่งเสริมที่ออกมาเป็น 5091 ให้นำเข้าเครื่องจักรใหม่ได้ตั้งแต่ 18 มี.ค.2556 ถึง 21 พ.ย.2558 เลยไม่แน่ใจว่าสิทธิ์ที่เหลือบริษัทสามรถใช้อย่างไรได้บ้าง จะนำเครื่องจักรใหม่มาเพิ่มเติมในบางกระบวนการผลิตได้หรือไม่

บัตรส่งเสริมที่ขึ้นต้นด้วยเลข 5 คือ บัตรที่ออกตามมาตรการฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤติอุทกภัย เช่น โครงการเดิมอาจจะสิ้นสุดระยะเวลานำเข้าเครื่องจักรไปแล้ว แต่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย จึงให้ได้รับสิทธินำเข้าเครื่องจักรใหม่อีกครั้งหนึ่ง เป็นเวลา 30 เดือน และกำหนดให้เปิดดำเนินการภายใน 6 เดือนนับจากวันสิ้นสุดการนำเข้าเครื่องจักร ประเด็นที่สอบถาม น่าจะหมายความว่า บริษัทสามารถขอนำอะไหล่สำหรับเครื่องจักรเดิมที่มีอยู่ในโครงการเดิม เข้ามาเพิ่มเติม ได้หรือไม่

กรณีนี้เข้าใจว่า จะต้องใช้ คำชี้แจงเรื่องแนวทางปฏิบัติตามมาตรการฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤติอุทกภัย ลงวันที่ 28 ตุลาคม 2556 ตามข้อ 2.1.2 กำหนดไว้ว่า เครื่องจักรในโครงการเก่าที่ยังใช้งานได้ จะต้องโอนย้ายไปยังโครงการที่ขอรับส่งเสริมใหม่ โดยจะคัดข้อมูลเครื่องจักรที่นำเข้าโดยใช้สิทธิจากสมาคม IC และแจ้งรายการต่อ BOI ภายใน 3 เดือน นับจากวันที่ออกบัตรส่งเสริมฉบับใหม่

หากดำเนินการตามที่ BOI ประกาศ เครื่องจักรที่มีอยู่ในโครงการเดิม ก็จะถูกย้ายไปในบัญชีเครื่องจักรของโครงการใหม่ ซึ่งน่าจะขอนำเข้าอะไหล่ของเครื่องจักรส่วนนี้ได้เช่นเดียวกับเครื่องจักรใหม่ที่นำเข้ามาใหม่ภายหลัง

ส่วนการนำเครื่องจักรเข้ามาเพิ่มเติมในกระบวนการผลิต หากไม่ทำให้กำลังผลิต หรือชนิดผลิตภัณฑ์เปลี่ยนแปลงไป น่าจะทำได้ เนื่องจากในคำชี้แจง ข้อ 5.1 ระบุว่า จะไม่อนุมัติในกรณีเป็นการเพิ่มกำลังผลิต หรือเพิ่มชนิดผลิตภัณฑ์ แต่หากเป็นการแก้ไขอื่นๆ สามารถแก้ไขได้ตามเกณฑ์

กรณีที่ขอขยายเวลานำเข้าในประกาศไม่ได้ระบุไว้ สามารถประมาณการณ์ได้หรือไม่ ว่าได้กี่ครั้งๆละกี่ปี

การขยายเวลานำเข้าวัตถุดิบ กำหนดไว้ตามประกาศ สกท ที่ ป.3/2556 ข้อ 8 คือ ครั้งละไม่เกิน 2 ปีในทางปฏิบัติ ปกติจะให้ขยายเวลาครั้งละ 2 ปีเสมอ ยกเว้นกิจการบางประเภท เช่น IPO/ITC จะขยายให้ครั้งละ 1 ปี หรือหากเป็นกรณีที่ยังไม่เคยตัดบัญชีวัตถุดิบ อาจขยายให้เพียง 6 เดือนไปก่อน

บริษัทได้รับการส่งเสริมประเภท 6.5 กิจการผลิตยาและหรือสารออกฤทธิ์สำคัญในยา ประเภทยาฉีด บริษัท A ซึ่งจัดตั้งในประเทศไทยได้ว่าจ้างบริษัทให้ผลิตยาฉีด โดยบริษัท A เป็นผู้สั่งซื้อวัตถุดิบหลักมาจากต่างประเทศ และนำเข้าโดยใช้ License ของบริษัท เพื่อทำการผลิตยาฉีด ทั้งนี้ในการผลิตยาฉีดตามที่บริษัท A ได้ว่าจ้างนั้น ไม่ได้ใช้วัตถุดิบจากบริษัท A เท่านั้นแต่ บริษัทยังต้องจัดหาวัตถุดิบชนิดอื่นเพื่อใช้ในการผลิตยาฉีดนี้อีกด้วย ซึ่งวัตถุดิบที่บริษัทจัดหาเองนำเข้าจากต่างประเทศเช่นเดียวกัน ซึ่งยาฉีดนี้เมื่อผลิตเสร็จจะขายไปยังประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด ขอสอบถามว่า บริษัทสามารถใช้สิทธิ์ยกเว้นอากรขาเข้า และ VAT ตามมาตรา 36 (1) สำหรับวัตถุดิบที่บริษัท A เป็นเจ้าของได้หรือไม่

กรณีที่สอบถามไม่ชัดเจนว่าบริษัท A ได้รับส่งเสริมหรือไม่ / ใครเป็นผู้นำเข้า / ใครใช้สิทธิใคร / ใครเป็นผู้ส่งออก จึงขอตอบเฉพาะหลักการคือ

1. การจะใช้สิทธิยกเว้นอากรขาเข้าตามมาตรา 36 ผู้ที่ได้รับสิทธิ (บริษัท BOI) จะต้องมีสถานะเป็นผู้นำเข้า

2. การรับจ้างผลิตสินค้าชนิดเดียวกับที่ได้รับส่งเสริม โดยมีกรรมวิธีผลิตครบถ้วนที่ได้รับส่งเสริม ถือเป็นการผลิตสินค้าตามโครงการที่ได้รับส่งเสริม สามารถใช้สิทธิประโยชน์ได้ตามปกติ

3. กรณีใช้สิทธินำเข้าวัตถุดิบตามาตรา 36(1) จะต้องผลิตเพื่อส่งออกโดยตรง หรือจำหน่ายให้กับบริษัทที่ได้รับส่งเสริมเพื่อส่งออกทางอ้อม และรับหลักฐานการส่งออก (report-v) เพื่อตัดบัญชีวัตถุดิบต่อไป

ถ้าเครื่องจักรที่ต้องการนำเข้ามีอัตราภาษีเป็น 0 % ต้องแจ้ง บีโอไอ ไหม

การแจ้งบีโอไอในที่นี้ คือการยื่นขอใช้สิทธิยกเว้นอากรขาเข้า การที่บีโอไออนุมัติสั่งปล่อยเครื่องจักรโดยยกเว้นหรือลดหย่อนอากรขาเข้า จะทำให้บริษัทได้รับการค้ำประกันและถอนค้ำประกัน VAT ด้วย (คือไม่ต้องชำระ VAT) ดังนั้น แม้ว่าเครื่องจักรจะมีอากรเป็น 0 แต่หากไม่ต้องการชำระ VAT ก็สามารถยื่นขอใช้สิทธิสั่งปล่อยได้ แต่หากปรากฏว่ามีการนำเครื่องจักรดังกล่าวไปใช้งานผิดเงื่อนไขที่ได้รับส่งเสริม และถูกเพิกถอน บริษัทจะต้องชำระ VAT พร้อมกับค่าปรับ และเงินเพิ่ม ย้อนหลังไปถึงวันที่นำเข้าเครื่องจักร

ตอนนี้บริษัททำเรื่องขอยื่นโครงการส่งเสริมการลงบัตรใหม่(ยื่นประมาณเดือน พฤษภาคม และมีการชี้แจงโครงการจบแล้วรอตามผล) ดังนี้บัตรก็ยังไม่ออกแต่ในช่วงนี้บริษัทได้มีการสั่งซื้อเครื่องจักรจากต่างประเทศเข้ามาประมานต้นเดือน กรกฎาคม ทางประเทศญี่ปุ่นได้ส่งอินวอยซ์มาให้ และทางบริษัทเองก็ได้ส่งอินวอยซ์ให้ทางชิ้ปปิ้งเลยทำดร๊าปใบขนส่งมาให้ดูปรากฏว่าอากรขาเข้า เป็น 0% ขอถามว่า 1. เครื่องจักรที่นำเข้านี้ไม่ใช้สิทธิประโยชน์ BOI ได้หรือเปล่า 2. เครื่องจักรนี้เป็นเครื่องจักรหลัก มีผลกระทบอะไรบ้างคะถ้าไม่ใช้สิทธิ BOI (ตอนแรกที่กรอกรายละเอียดขอรับการส่งเสริม ได้บอกรายละเอียดเครื่องจักรตัวนี้ด้วยว่าเป็นเครื่องจักรหลักและรวมอยู่ในเรื่องของเงินลงทุนด้วย 3. ถ้าไม่ใช้สิทธิจะมีผลกระต่อการตัดบัญชีเครื่องจักรหรือเปล่า 4. และในการทำบัญชีเครื่องจักร MASTER LIST ต้องมีชื่อเครื่องจักรนี้แสดงในรายชื่อด้วยหรือเปล่า

1.แม้ว่าจะได้รับสิทธิยกเว้นหรืออากรเครื่องจักร ตามมาตรา 28 และ 29 แต่หากจะนำเครื่องจักรเข้ามาโดยชำระอากรขาเข้าและ VAT ตามปกติ ก็สามารถทำได้ แต่เครื่องจักรนั้นต้องมีสภาพใหม่เก่าตรงตามเงื่อนไขในบัตรส่งเสริม และหากเป็นเครื่องจักรเก่าก็ต้องมีใบรับรองประสิทธิภาพ

2.เครื่องจักรที่นำเข้าโดยชำระภาษีอากรเข้ามาเอง จะเป็นเครื่องจักรหลักของโครงการก็ได้ และมูลค่าเครื่องจักรนี้ก็นับเป็นขนาดการลงทุนของโครงการสามารถนำไปรวมคำนวณวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ตามปกติ

3.เครื่องจักรที่ไม่ได้ใช้สิทธิยกเว้นอากรขาเข้า ไม่ต้องยื่นขอตัดบัญชีเพื่อปลอดภาษีหลังนำเข้าครบ 5 ปี

4.ไม่ต้องใส่เครื่องจักรนั้นใน Master List ก็ได้ เพราะปัจจุบัน Master List จะให้ยื่นขอเฉพาะรายการที่ต้องการใช้สิทธิยกเว้นภาษีอากร

บริษัท A ไม่ได้รับการส่งเสริม บริษัทรับจ้างผลิตเป็นผู้นำเข้า และใช้สิทธิบริษัทในการนำเข้า (บริษัทรับจ้างผลิตเป็น Importer ในใบขนจะแสดงชื่อบริษัทเป็นผู้นำเข้า) โดยบริษัท A จะโอนสิทธิการนำเข้าให้กับบริษัทรับจ้างผลิต บริษัท A เป็นผู้ส่งออก โดยสลักหลังใบขนขาออกโอนสิทธิ ให้กับบริษัทรับจ้างผลิต เพื่อใช้อ้างอิงในการตัดวัตถุดิบในระบบ RMTS

A (non-BOI) จ้างให้ B (BOI) ผลิตสินค้า โดย A จัดหาวัตถุดิบจากต่างประเทศมาให้ B โดย B มีสถานะเป็นผู้นำเข้า (คือ Bill to A, Ship to B) เมื่อผลิตเสร็จ A จะรับสินค้านั้นไปส่งออก และสลักหลังใบขนขาออกเพื่อโอนสิทธิตัดบัญชีให้กับ B

ตอบคำถามตามนี้

1. สินค้าที่ B (BOI) รับจ้างผลิต ต้องเป็นสินค้าตามบัตรส่งเสริม และมีขั้นตอนการผลิตครบตามที่ได้รับส่งเสริม จึงจะใช้สิทธิประโยชน์ต่างๆได้

2. หาก B เป็นหุ้นต่างชาติข้างมาก ต้องขอใบรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวด้วย เนื่องจากจะเข้าข่ายการรับจ้างให้บริการทำของ

3. กรณีเป็นการส่งออกทางอ้อมตามที่สอบถาม

แนะนำให้ A ยื่นขอรับการส่งเสริมในข่าย ITC เพื่อให้ได้รับสิทธิยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบตามมาตรา 36 ซึ่งเมื่อ B จำหน่ายให้ A และ A นำไปส่งออก A ก็จะสามารถโอนสิทธิตัดบัญชีให้ B ด้วย report-v ตามขั้นตอนการปฏิบัติในการใช้สิทธิมาตรา 36 ของ BOI ได้

4. ส่วนกรณีที่ A สลักหลังเพื่อโอนสิทธิให้ B นำไปตัดบัญชี ขอไม่ตอบบนหน้าเว็บบอร์ด

สอบถามการซื้อวัตถุดิบกิจการ IPO จากต่างประเทศ บริษัทฯ สามารถขายกลับคืนบริษัทเดิมที่ซื้อมาได้หรือไม่ ถ้าได้ต้องทำอย่างไรบ้าง

ถ้าเป็นการขาย ก็ทำการขายตามปกติ และยื่นขอตัดบัญชีตามปกติ แต่ถ้าจะส่งคืน ก็ทำเรื่องขออนุญาตส่งคืนส่วนสูญเสียไปต่างประเทศ จากนั้นทำเรื่องขอตัดบัญชีเพื่อปรับยอดส่วนสูญเสียที่ส่งคืนต่างประเทศ

ถ้าจะนำเข้าเครื่องมือที่ใช้ในการตรวจสอบชิ้นงาน จะต้องขอเพิ่มรายการในอะไร และต้องใช้เวลากี่วันทางบีโอไอถึงจะอนุมัติ

เครื่องมือสำหรับตรวจสอบชิ้นงาน ให้ยื่นขออนุมัติในบัญชีรายการเครื่องจักรทั่วไป ระยะเวลาพิจารณาอนุมัติแก้ไขบัญชีเครื่องจักร (ชื่อหลัก) กำหนดไว้ 30 วันทำการ แต่หากยื่นขออนุมัติไม่กี่รายการ และไม่มีประเด็นที่เป็นปัญหา โดยทั่วไปก็น่าจะใช้เวลา 2-3 วัน

หลังจากส่ง Master list แล้ว และอยู่ในขั้นตอนการรออนุมัติ ทางบริษัทสามารถติดตามหรือสอบถามความคืบหน้าของการอนุมัติได้อย่างไร

เมื่อยื่นคำร้องขออนุมัติหรือแก้ไขบัญชีเครื่องจักร บริษัทสามารถตรวจสอบสถานภาพโดยดูในระบบ emt ได้ว่า เจ้าหน้าที่คนไหนถือครองงานอยู่ การพิจารณาอนุมัติจะผ่าน 3 ระดับ คือ เจ้าหน้าที่ หัวหน้าฝ่าย และ ผอ. โดยระบบจะแสดงเฉพาะชื่อ โดยไม่แสดงระดับ ดังนั้น หากจะติดตามงาน ก็สามารถติดตามจากคนที่แสดงชื่อว่าถือครองงานนั้นอยู่ได้โดยตรง

เรื่องการขอสงวนสิทธิวัตถุดิบ และขอคืนอากรภายหลัง เช่น กรณีที่ต้นทางคือผู้ส่งเป็นผู้ที่ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด (Term DDP) ถ้าบริษัทปลายทางหรือผู้รับทำเรื่องสงวนสิทธิและขอคืนอากรภายหลังเพราะ Max Stk เต็ม บริษัทปลายทางหรือผู้รับสามารถทำเรื่องสงวนสิทธิและขอคืนอากรภายหลังได้หรือไม่

ผู้ได้รับส่งเสริมที่นำวัตถุดิบจากต่างประเทศเข้ามาเพื่อผลิตส่งออก หาก Max Stock เต็ม สามารถชำระภาษีอากรโดยทำเรื่องสงวนสิทธิ และขอสั่งปล่อยคืนอากรได้ในภายหลัง

บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนพลาสติกได้รับการส่งเสริม BOI ประเภท 6.12 ถ้าจะซื้อวัตถุดิบ (เม็ดพลาสติก) จากบริษัทฯ ที่เป็น IPO จะสามารถซื้อ-ขายกันได้หรือไม่ แล้วต้องมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง เพื่อควบคุมสต็อคของบริษัทฯ อย่างไร

A (โรงงานผลิต BOI) สามารถซื้อวัตถุดิบจาก IPO เพื่อนำไปผลิตและส่งออกได้ โดยยังคงได้รับสิทธิด้านวัตถุดิบ

โดยมีขั้นตอนตอนตามนี้

IPO นำเข้าวัตถุดิบโดยใช้สิทธิยกเว้นอากรขาเข้าตาม ม.36 พักเก็บสินค้าในโกดัง จากนั้นจำหน่ายให้ A

เมื่อ A ผลิตและส่งออก ก็โอนสิทธิตัดบัญชีวัตถุดิบให้ IPO

IPO นำ report-v ที่ได้รับจาก A มาตัดบัญชีวัตถุดิบของตนเองต่อไป

ถ้าใน invoice ของเครื่องจักรที่จะเข้ามามี โชว์ packing cost ด้วยจะต้องทำอย่างไรคะในใบขนจะต้องลงด้วยใช่หรือไม่ คือ 1.ราคาเครื่องจักร 45,000 EUR 2. Packing cost 560 EUR

การทำใบขนฯ เป็นคำถามในส่วนของงานศุลกากร จึงขอให้ปรึกษากับกรมศุลฯ และ/หรือชิปปิ้ง จะได้คำตอบที่ถูกต้องชัดเจนกว่า

ตามความเข้าใจส่วนตัว กรณีหีบห่อบรรจุเป็นวัสดุคงทนมีค่า เช่น โลหะ พลาสติก ฯ ควรแสดงรายการในใบขน และชำระอากรขาเข้าในส่วนนี้ แต่ถ้าเป็นหีบห่อบรรจุที่ไม่คงทนมูลค่าต่ำ จะรวมไปในรายการเครื่องจักร และสั่งปล่อยโดยใช้สิทธิ์ยกเว้น/ลดหย่อนภาษีอากรไปพร้อมกับเครื่องจักรก็ได้

ถ้าเราต้องการนำเข้าเครื่องจักรจากประเทศญี่ปุ่นเป็นเครื่องจักรใหม่ตามที่ได้รับการส่งเสริม เราจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง
ขั้นตอนคร่าวๆ คือ

1. สมัครใช้บริการระบบ eMT

2. ยื่นขออนุมัติบัญชีรายการเครื่องจักร (Master List) ผ่านระบบ eMT

3. ยื่นขอสั่งปล่อยเครื่องจักรที่นำเข้าตามบัญชีรายการที่ได้รับอนุมัติ

4. ส่งข้อมูลผลอนุมัติให้ชิปปิ้งเพื่อทำใบขนขาเข้าโดยการยกเว้นหรือลดหย่อนอากรขาเข้าตามสิทธิที่ได้รับอนุมัติ

ส่งออก Part Sample แต่ใบขนส่งออกระบุบัตรเสริม บริษัทฯได้รับส่งเสริมผลิตภัณฑ์ประกอบแล้วจึงจะสามารถส่งออกได้ กรณีนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่ได้ประกอบหรือไม่ครบ Process ตามที่ได้รับส่งเสริม ถ้าส่งออกไปแล้ว หรือจะส่งออกอีกต้องทำอย่างไร

ของที่ส่งออก ไม่ตรงกับผลิตภัณฑ์ในบัตร จึงจะใช้สิทธิไม่ได้ หากต้องการใช้สิทธิ ก็ต้องแก้ไขชนิดผลิตภัณฑ์ในบัตรส่งเสริมให้ครอบคลุมถึงชิ้นส่วนที่จะส่งออก

ยื่นขอแก้ไขโครงการฯ ในส่วนของขั้นตอนการผลิตใช่หรือเปล่า แล้วแก้ไขผลิตภัณฑ์ต้องทำอย่างไร

เป็นการแก้ไขชนิดผลิตภัณฑ์ เช่น แก้ไขจากผลิตภัณฑ์ A เป็น ผลิตภัณฑ์ A และชิ้นส่วน แต่ถ้าจะส่งไปชิ้นส่วนไปตรวจสอบแค่ครั้งสองครั้ง อาจจะใช้วิธีชำระภาษี โดยไม่แก้ไขโครงการก็ได้

การนำเข้าเครื่องจักรเข้าจากต่างประเทศ บริษัท A ซื้อเครื่องจักรจาก บริษัท B (บริษัท A ชำระเงินให้บริษัท B) แต่ให้ส่งสินค้าไปที่ บริษัท C โดยให้บริษัท C เป็นผู้ขอใช้สิทธิประโยชน์บีโอไอในการนำเข้าและเป็นผู้เดินพิธีการตรวจปล่อยสินค้า และชำระเงินค่าสินค้าคืนให้กับบริษัท A และ บริษัท C ดำเนินการขออนุมัติจากบีโอไอเพื่อนำเครื่องจักรไปให้บริษัท A ใช้ การนำเข้าเครื่องจักรลักษณะแบบนี้สามารถทำได้หรือไม่

B (ต่างประเทศ) ส่งเครื่องจักรมายังไทย -------> C (BOI) นำเข้าโดยใช้สิทธิ BOI และขออนุญาตนำเครื่องจักรไปให้ผู้อื่นใช้ -------> A (BOI) กรณีนี้สามารถทำได้ โดย A จะต้องใช้เครื่องจักรเพื่อประโยชน์ตามโครงการที่ได้รับส่งเสริมของ C เช่น C อาจจะนำเข้าแม่พิมพ์โดยใช้สิทธิ BOI และขออนุญาตนำแม่พิมพ์นั้นไปให้ A ยืมใช้ เพื่อรับจ้างผลิตชิ้นส่วนให้ C เป็นต้น

แต่ทั้งนี้ กรรมวิธีการผลิตที่ได้รับส่งเสริมของ C จะต้องระบุไว้ด้วยว่า จะมีการนำแม่พิมพ์ไปว่าจ้างผู้อื่นให้ผลิตชิ้นงานให้ เป็นต้น

กรณีนี้แม่พิมพ์ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของ C เพียงแค่ขอนำไปให้ A ยืมใช้ตามกรรมวิธีที่ได้รับส่งเสริมเท่านั้น

ขออภัยครับ ไม่มีข้อมูลส่วนนี้ ในภาษาที่ท่านเลือก !

Sorry, There is no information support your selected language !

Download และ ติดตั้งโปรแกรมอ่าน PDF

Download PDF Reader

Site map