วันครบกำหนดเปิดดำเนินการคือ 36 เดือน นับจากวันออกบัตรส่งเสริม บัตรส่งเสริมออกวันที่ 28 ม.ค. 56 จึงครบกำหนดเปิดดำเนินการวันที่ 28 ม.ค. 59 ถูกต้อง
ให้ติดต่อสอบถามกับ BOI ตาม Link : https://boieservice.boi.go.th/PMX_Files/upload/manual/UserManual.pdf
คณะกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การถือหุ้นของต่างชาติสำหรับโครงการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุน ให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ของกระทรวงพาณิชย์ ดังนี้
1. โครงการลงทุนในกิจการตามที่ปรากฏในบัญชีหนึ่ง ท้ายพรบ การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ต้องมีผู้มีสัญชาติไทยถือหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 ของทุนจดทะเบียน
2. โครงการลงทุนในกิจการตามที่ปรากฏในบัญชีสอง และบัญชีสาม ท้ายพรบการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้นข้างมากหรือทั้งสิ้นได้ เว้นแต่กรณีที่มีกฎหมายอื่นกำหนดไว้ เป็นการเฉพาะ
3. เมื่อมีเหตุผลอันสมควร คณะกรรมการอาจกำหนดสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติเป็นการเฉพาะสำหรับกิจการที่ ให้การส่งเสริมการลงทุนบางประเภท
ดังนั้น การกำหนดสัดส่วนส่วนการถือหุ้นของคนต่างชาติ จึงขึ้นอยู่กับประเภทกิจการค่ะ
ทั้งนี้ ท่านสามารถตรวจสอบบัญชีประเภทธุรกิจ ภายใต้พรบ การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวได้ ตามลิงค์ https://www.dbd.go.th/ewt_news.php?nid=1053&filename=law หรือเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th
ซอฟต์แวร์ สามารถนับเป็นขนาดการลงทุนในข่ายเครื่องจักร ในกิจการ IPO/ITC ได้ แต่หากมีการใช้ร่วมกับโครงการอื่น จะต้องปันส่วนมูลค่าการลงทุน ตามหลักเกณฑ์ที่เหมาะสม เช่น ตามสัดส่วนยอดขาย เป็นต้น
ขึ้นอยู่กับนโยบายของบริษัท หากประสงค์จะขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้ยื่นขออนุมัติเป็น IBC กับกรมสรรพากรโดยจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของ IBC
ไม่เปลี่ยนแปลง
1.กรณีเป็นโครงการริเริ่ม (คือมีกิจการที่ประกอบการอยู่เพียงกิจการเดียวและได้รับการส่งเสริม) จะนับมูลค่าสินทรัพย์อื่นๆเป็นขนาดการลงทุนของโครงการ
2.กรณีเป็นโครงการขยาย (คือมีกิจการอื่นที่ประกอบการอยู่แล้วไม่ว่าจะได้รับส่งเสริมหรือไม่ก็ตาม) จะไม่นับมูลค่าสินทรัพย์อื่นๆเป็นขนาดการลงทุนของโครงการ
1) ให้รวมได้ทั้งเครื่องจักร ส่วนประกอบ แม่พิมพ์ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ทั้งที่นำเข้าโดยใช้สิทธิ และไม่ใช้สิทธิ และที่ซื้อในประเทศ โดยรวมค่าติดตั้งได้ด้วย ส่วนวันที่ได้มาครั้งแรก ให้ใช้วันที่ได้มาครั้งแรกที่บันทึกในบัญชี
2) เหมือนข้อ 1 จะใช้สิทธิ ไม่ใช้สิทธิ หรือซื้อในประเทศ ก็นับได้หมด
3) รายได้ Non-BOI หมายถึงอะไร รายได้จากการผลิตสินค้าตามโครงการไม่ว่าจะเป็นสินค้าตัวอย่าง ฯลฯ ก็เป็นรายได้ตามโครงการนะ ส่วนวันที่รับรู้รายได้เป็นไปตามเกณฑ์ทางบัญชี เช่น วันที่ส่งมอบสินค้า เป็นต้น
1. ถ้ายังไม่พร้อมเปิดดำเนินการ สามารถขยายเวลาเปิดดำเนินการได้ ตามประกาศ สกท ที่ ป.1/2548 กรณีขอขยายเวลานำเข้าเครื่องจักร สามารถขอขยายเวลานำเข้าเครื่องจักรได้ 3 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 1 ปี โดยจะได้รับการขยายเวลาเปิดดำเนินการออกไปอีก 6 เดือน นับจากวันครบกำหนดวันนำเข้าเครื่องจักรแต่ละครั้ง
กรณีขอขยายเฉพาะการเปิดดำเนินการ จะขยายให้ 1 ครั้ง ไม่เกิน 1 ปี
2. กิจการ IPO หรือ ITC ปกติจะไม่มีการนำเข้าเครื่องจักร จึงเป็นกรณีหลัง คือสามารถขอขยายเฉพาะการเปิดดำเนินการได้ 1 ครั้ง ไม่เกิน 1 ปี
3. การเปลี่ยนประเภทกิจการที่ได้รับส่งเสริม จาก IPO เป็น ITC จะขอแก้ไขหลังจากเปิดดำเนินการครบตามโครงการแล้วก็ได้
1.หากกรรมวิธีการผลิตที่ได้รับการส่งเสริม ได้รับอนุญาตให้นำวัตถุดิบ/ชิ้นส่วนไปทำการว่าจ้างผลิตบริษัทก็สามารถนำวัตถุดิบ/ชิ้นส่วนนั้นๆ ไปทำการว่าจ้างผลิตนอกโรงงานได้
2.กรณีนำวัตถุดิบไปว่าจ้างผลิตที่ต่างประเทศ หรือในเขต EPZ / Free Zone หากกรรมวิธีการผลิตได้รับอนุญาตให้มีการนำวัตถุดิบ/ชิ้นส่วนไปว่าจ้างผลิต ก็สามารถดำเนินการได้ แต่จะมีปัญหาคือวัตถุดิบ/ชิ้นส่วนที่นำกลับเข้ามา จะมีอากรขาเข้า ซึ่งสามารถดำเนินการได้หลายวิธี เช่น
2.1 ชำระภาษีอากรวัตถุดิบ/ชิ้นส่วนที่นำกลับเข้ามา
2.2 ทำใบสุทธินำกลับ เพื่อยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับวัตถุดิบ/ชิ้นส่วนที่นำกลับเข้ามา แต่จะมีภาษีอากรในส่วนค่าว่าจ้าง
2.3 แก้ไขชนิดผลิตภัณฑ์ โดยการเพิ่มชิ้นส่วนดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ในบัตรส่งเสริม ซึ่งเมื่อส่งชิ้นส่วนไปว่าจ้างผลิต ให้ทำในลักษณะการจำหน่ายสินค้า และเมื่อนำกลับเข้ามาให้ทำในลักษณะการนำเข้าวัตถุดิบ แต่จะต้องปรึกษากับ จนท BOI ก่อนว่าจะพิจารณาอนุญาตให้ได้หรือไม่
เครื่องจักรเก่าเกิน 10 ปี ต้องได้รับอนุญาต และต้องมีใบรับรองประสิทธิภาพจึงจะสามารถใช้ในโครงการได้
2.-3. จะเปิดดำเนินการแล้วหรือยังไม่เปิดหรืออยู่ระหว่างเปิด ก็มีเงื่อนไขเดียวกัน
กรณีที่สอบถาม บัตรส่งเสริมระบุเงื่อนไขว่า ต้องมีหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 51% ซึ่งเมื่อบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นแล้ว ยังคงมีหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 51% จึงไม่ขัดกับเงื่อนไขในบัตรส่งเสริม และไม่ต้องยื่นแก้ไขโครงการเพื่อเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนผู้ถือหุ้น
สามารถทำได้ โดยที่โครงการที่จะขอแก้ไขชนิดผลิตภัณฑ์ ต้องเป็นโครงการที่ยังไม่เปิดดำเนินการ และต้องเป็นประเภทกิจการที่สำนักงานให้การส่งเสริมการลงทุนอยู่ในปัจจุบัน จะมีผลตั้งแต่วันที่บริษัทยื่นแบบคำขอแก้ไขโครงการ โดยการแก้ไขชนิดผลิตภัณฑ์ แบ่งได้ 3 กรณีดังนี้
- การขอแก้ไขชนิดผลิตภัณฑ์ โดยไม่มีการลงทุนเครื่องจักรเพิ่ม
- การขอแก้ไขชนิดผลิตภัณฑ์ โดยการลงทุนเครื่องจักรเพิ่ม
- การยกเลิกผลิตภัณฑ์ จะต้องไม่ทำให้สาระสำคัญของโครงการขัดต่อหลักเกณฑ์การอนุมัติโครงการ หากการยกเลิกผลิตภัณฑ์ทำให้สาระสำคัญไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์จะพิจารณายกเลิกบัตรส่งเสริม
1. การนำสินค้าเข้ามาจากเขตปลอดอากรเพื่อจำหน่ายในประเทศ โดยสำแดงราคาต่ำ เป็นความผิดทางศุลกากร ซึ่งกรณีนี้เข้าใจว่าไม่ได้ใช้สิทธินำเข้าจาก BOI จึงไม่เกี่ยวข้องกับในส่วน BOI
2. การนำสินค้าที่บริษัทส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศ กลับมาเข้าซ่อมแซม เพื่อส่งกลับออกไปอีกครั้งหนึ่ง สามารถใช้สิทธิยกเว้นอากรขาเข้าตาม ม.36(1) ได้ แต่ต้องเป็นสินค้าที่สามารถซ่อมได้ กรณีที่ซ่อมไม่ได้ และไม่สามารถส่งกลับออกไปได้ บริษัทจะต้องยื่นขอชำระภาษีอากร หรือจะต้องขออนุมัติทำลายและชำระภาษีเศษซากหลังทำลาย ฯลฯ ตามหลักเกณฑ์ที่ BOI กำหนด
กรณีที่สอบถาม บริษัทนำสินค้ากลับเข้ามาซ่อมแซมโดยใช้สิทธิยกเว้นภาษีอากร แต่ไม่ได้ส่งออก และไม่ได้ขอชำระภาษีหรือขอทำลาย แต่นำไปจำหน่ายในประเทศ จึงมีความผิดตามกฎหมายศุลกากร
ตอบคำถามดังนี้
1. บริษัทใช้สิทธิยกเว้นภาษีอากรสินค้าที่นำกลับเข้ามาซ่อม แต่ต่อมากระทำผิด และได้ชำระภาษีอากรและค่าปรับต่อกรมศุลกากรไปแล้ว
ดังนั้น ยอด balance ที่ใช้สิทธินำเข้ากับ BOI จึงสามารถปรับยอดให้เป็น 0 ได้ แต่กรณีนี้ไม่มีแบบฟอร์มในการยื่น จึงให้บริษัทร่างหนังสือขึ้นมาเอง โดยมีสาระสำคัญคือ
เรื่อง การขอปรับยอดวัตถุดิบ (กรณีนี้คือสินค้าที่นำกลับเข้ามาซ่อม แต่ใช้คำว่าวัตถุดิบนี้ได้)
ชี้แจงเหตุผลว่า ได้มีการใช้สิทธินำเข้าสินค้ากลับเข้ามาซ่อมแซมคือ ... จำนวน ... ตามหนังสือสั่งปล่อยที่ นร.. วันที่ .. แต่ต่อมาได้มีการชำระภาษีอากรและเบี้ยปรับ ตามใบขนที่ .. ใบเสร็จรับเงินที่ ... จึงขอปรับยอด ... จำนวน ... และทำตารางสรุปรายการที่จะขอปรับยอดแนบไปด้วย
แนบสำเนาหนังสือสั่งปล่อย / อินวอยซ์และใบขนขาเข้า / ใบเสร็จชำระภาษี / ใบขนชำระภาษี ตอนที่ยื่น ควรชี้แจงกับ จนท ก่อน โดย จนท อาจให้แก้ไขเอกสารหรือเตรียมเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม เมื่อ BOI อนุมัติให้ปรับยอดแล้ว จึงนำหนังสืออนุมัติและไฟล์ ADJUST ไปยื่นปรับยอดที่ IC ต่อไป
2. การขอคัดสำเนาใบขนสินค้า เท่าที่ทราบคือ ต้องไปเขียนคำร้องและยื่นเรื่องที่ด่านศุลกากรที่นำเข้าหรือส่งออกสินค้าตามใบขนนั้นๆ
คำถามนี้ไม่เกี่ยวกับ BOI น่าจะสอบถามกับชิปปิ้งหรือกรมศุลกากรโดยตรง
ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าตาม พรบ BOI และได้รับการค้ำ vat และถอนค้ำ vat (คือไม่ต้องเสีย vat) ตามประกาศกรมสรรพากร
การกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับทุนจดทะเบียน หรือการเรียกชำระทุนจดทะเบียนตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในบัตรส่งเสริม หากท่านไม่สามารถดำเนินการได้ตามบัตรส่งเสริม และท่านจะยื่นขอแก้ไขเงื่อนไขทุนจดทะเบียนให้สำนักงานพิจารณา ตามแนวทางเบื้องต้น สามารถทำได้ดังนี้
หากบัตรส่งเสริมการลงทุนกำหนดเงื่อนไขทุนจดทะเบียนสูงเกินความจำเป็นที่ต้องใช้ในโครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริม จะอนุญาตให้แก้ไขโครงการเพื่อลดทุนจดทะเบียนหรือลดทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระได้ แต่ทั้งนี้ จะต้องไม่ทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้นต่ำกว่าหลักเกณฑ์ข้างต้นที่กำหนด
หากลดทุนจดทะเบียนเพื่อแก้ไขปัญหาขาดทุนสะสม หรือลดทุนจดทะเบียนเพื่อชำระคืนให้แก่ผู้ถือหุ้น สำนักงานจะพิจารณาตามความเหมาะสมเป็นกรณีๆ ไป
ไม่ทราบว่าบริษัท A สามารถให้บริษัท B เช่าพื้นที่เพื่อประกอบกิจการไม่เกิน 10% ของพื้นที่ทั้งหมดได้หรือไม่
A ต้องขออนุญาตใช้ที่ดินที่ได้รับสิทธิตามมาตรา 27 (รวมไม่เกิน 10% ของพื้นที่ทั้งหมด) ให้ B เช่าใช้เพื่อสนับสนุนกิจการที่ได้รับส่งเสริมของ A