1. |
ค่าเบี้ยเลี้ยง
หรือ ค่าพาหนะ ซึ่งลูกจ้างหรือผู้รับหน้าที่หรือตำแหน่งงาน
หรือผู้รับทำงาน ให้ได้จ่ายไปโดยสุจริต ตามความจำเป็นเฉพาะในการที่ต้องปฏิบัติการตามหน้าที่ของตน
และได้จ่ายไปทั้งหมด ในการนั้น |
2. |
ค่าพาหนะและเบี้ยเลี้ยงเดินทางตามอัตราที่รัฐบาลกำหนดโดยพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยอัตรา
ค่าพาหนะและเบี้ยเลี้ยงเดินทาง |
3. |
เงินค่าเดินทางซึ่งนายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้าง
เฉพาะส่วนที่ลูกจ้างได้จ่ายทั้งหมดโดยจำเป็น
เพื่อการเดินทางจากต่างถิ่นในการเข้ารับงานเป็นครั้งแรก
หรือในการกลับถิ่นเดิมเมื่อการจ้างสิ้นสุดลงแล้ว
แต่ข้อยกเว้นนี้มิให้รวมถึงเงินค่าเดินทางที่ลูกจ้างได้รับในการย้ายกลับถิ่นเดิม
และในการเข้ารับงานของนายจ้างเดิมภายใน 365
วัน นับแต่วันที่การจ้างครั้งก่อนได้สิ้นสุดลง |
4. |
ในกรณีที่นายจ้างและลูกจ้างได้ทำสัญญากันโดยสุจริตก่อนใช้พระราชบัญญัติภาษีเงินได้
พุทธศักราช 2475 มีข้อกำหนดว่า นายจ้างจะชำระเงินบำเหน็จ
เงินค่าธรรมเนียม เงินค่านายหน้า หรือเงินโบนัส
ให้แก่ลูกจ้างเป็นจำนวนเดียวเมื่อการงานที่จ้างได้สิ้นสุดแล้ว
แม้เงินเต็มจำนวนนั้นจะได้ชำระภายหลังที่ใช้
บทบัญญัติในส่วนนี้ก็ดี เงินบำเหน็จ เงินค่าธรรมเนียม
เงินค่านายหน้า หรือเงินโบนัส ส่วนที่เป็นค่าจ้างแรงงาน
อันได้ทำในเวลาก่อนใช้พระราชบัญญัติภาษีเงินได้
พุทธศักราช 2475 นั้น ไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ |
5. |
เงินเพิ่มพิเศษประจำตำแหน่ง
และเงินค่าเช่าบ้าน หรือบ้านที่ให้อยู่โดยไม่ต้องเสียค่าเช่าสำหรับข้าราชการสถานทูต
หรือสถานกงสุลไทยในต่างประเทศ |
6. |
เงินได้จากการขาย หรือส่วนลดจากการซื้ออากรแสตมป์หรือแสตมป์
ไปรษณียากรของรัฐบาล |
7. |
เบี้ยประชุมกรรมาธิการหรือกรรมการ
หรือค่าสอน ค่าสอบที่ทางราชการหรือสถานศึกษาของทางราชการจ่ายให้
|
8. |
ดอกเบี้ย ดอกเบี้ยที่ได้รับยกเว้นภาษี
ได้แก่ ดอกเบี้ยดังต่อไปนี้ |
|
(1) ดอกเบี้ยสลากออมสิน หรือดอกเบี้ยเงินฝากออมสินของรัฐบาลเฉพาะประเภท
ฝากเผื่อเรียก |
|
(2) ดอกเบี้ยเงินฝากประเภทออมทรัพย์ที่ได้รับจากสหกรณ์ |
|
(3) ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในราชอาณาจักรที่ต้องจ่ายคืนเมื่อทวงถามประเภท
ออมทรัพย์เฉพาะ กรณีที่ผู้มีเงินได้ได้รับดอกเบี้ยดังกล่าวในจำนวนรวมกันทั้งสิ้นไม่เกิน
10,000 บาท ตลอดปีภาษีนั้น ทั้งนี้
ตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดี ประกาศ(มาตรา
42(8)) |
|
(4) ดอกเบี้ยเงินฝากที่เกิดจากการฝากเงินกับธนาคารในประเทศไทยและจากสหกรณ์ออมทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ในประเทศ
เป็นรายเดือนติดต่อกันมีระยะเวลาไม่น้อยกว่า
24 เดือน นับแต่วันที่ฝาก โดยมียอดเงินฝากแต่ละคราวเท่ากันแต่ไม่เกิน
25,000 บาทต่อเดือนและรวมทั้งหมดแล้วต้องไม่เกิน
600,000 บาท |
9. |
การขายสังหาริมทรัพย์อันเป็นมรดก
หรือสังหาริมทรัพย์ ที่ได้มาโดยมิได้มุ่งในทางการค้าหรือหากำไร
แต่ไม่รวมถึงเรือกำปั่น เรือที่มีระวางตั้งแต่
6 ตันขึ้นไป เรือกลไฟหรือเรือยนต์ที่มีระวางตั้งแต่
5 ตันขึ้นไปหรือแพ |
10. |
เงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยา
เงินได้ที่รับจากการรับมรดก หรือจากการให้โดยเสน่หาเนื่องในพิธี
หรือตามโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี |
11. |
รางวัลเพื่อการศึกษาหรือค้นคว้าในวิทยาการ
รางวัลสลากกินแบ่งหรือสลากออมสิน ของรัฐบาล
รางวัลที่ทางราชการจ่ายให้ในการประกวดหรือแข่งขัน
ซึ่งผู้รับมิได้มีอาชีพในการประกวดหรือแข่งขัน
หรือสินบนรางวัลที่ทางราชการจ่ายให้เพื่อประโยชน์ในการปราบปรามการกระทำความผิด |
12. |
บำนาญพิเศษ บำเหน็จพิเศษ
บำนาญตกทอด หรือบำเหน็จตกทอด |
13. |
ค่าสินไหมทดแทน เพื่อละเมิด
เงินที่ได้จากการประกันภัยหรือการฌาปนกิจสงเคราะห์ |
14. |
เงินส่วนแบ่งกำไรจากห้างหุ้นส่วนสามัญ
หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลซึ่งต้องเสียภาษี
ตามบทบัญญัติในส่วนนี้ แต่ไม่รวมถึงเงินส่วนแบ่งของกำไรจากกองทุนรวม |
15. |
เงินได้ของชาวนาที่ได้จากการขายข้าว
อันเกิดจากกสิกรรมที่ตนและหรือครอบครัว ได้ทำเอง
|
16. |
เงินได้ที่ได้รับจากกองมรดกซึ่งได้เสียภาษีเงินได้ไว้ในนามของกองมรดกแล้ว
|
17. |
รางวัลสลากบำรุงกาชาดไทย
เงินได้จากการขายหรือส่วนลดจากการซื้อสลากบำรุง
กาชาดไทย |
18. |
ดอกเบี้ยที่ได้รับจากการคืนเงินภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร |
19. |
เงินได้ที่เป็นเงินปันผลหรือเงินเฉลี่ยคืนที่สหกรณ์จ่ายให้แก่สมาชิก
|
20.
|
เงินปันผลที่ได้จากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบการขนส่งทางทะเลและ
ถือกรรมสิทธิ์ เรือไทย หรือที่ประกอบกิจการอู่เรือที่ได้รับสิทธิประโยชน์ตาม
พ.ร.บ. ส่งเสริมการ พาณิชยนาวี พ.ศ.2521 ซึ่งจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ก็ต่อเมื่อได้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกาตามประมวลรัษฎากรแล้ว |
21. |
เงินได้จากการขายหน่วยลงทุนในกองทุนรวม |
22. |
เงินได้ของกองทุนรวม |
23. |
เงินประโยชน์ทดแทนที่ผู้ประกันตน
ได้รับจากกองทุนประกันสังคมตามกฎหมายว่าด้วย
การประกันสังคม |
24. |
เงินได้จากกิจการโรงเรียนราษฎร์
(โรงเรียนเอกชน) แต่ไม่รวมถึงเงินได้จากการขายของ
การรับจ้างทำของหรือการให้บริการอื่นใดที่โรงเรียนราษฎร์
ซึ่งเป็นโรงเรียนอาชีวศึกษาได้รับจากผู้ซึ่งมิใช่นักเรียน |
25. |
เงินได้จากการจำหน่ายหรือส่วนลดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งของรัฐบาล |
26. |
เงินได้ส่วนที่เป็นค่าจ้างการทำงานในระหว่างเวลาปิดภาคการศึกษาของคนต่างด้าว
ซึ่งเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือนิสิตที่เข้ามาศึกษา
ณ สถานศึกษาในประเทศไทย ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกัน |
27. |
เงินได้ส่วนที่เป็น ค่ารักษาพยาบาล
|
28. |
เงินได้ที่ทางราชการจ่ายให้เป็นเงินค่าเช่าบ้าน
หรือเงินที่คำนวณได้จากมูลค่าของการได้ อยู่บ้านที่ให้อยู่โดยไม่เสียค่าเช่า
เงินช่วยการศึกษาบุตร เงินช่วยเหลือบุตร เงินค่าเบี้ยกันดาร
เงินยังชีพหรือ เงินค่าอาหารทำการนอกเวลา |
29. |
เงินค่าเช่าบ้านที่ได้รับจากรัฐวิสาหกิจ
ซึ่งมิใช่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเท่าที่ผู้มี
เงินได้ได้จ่ายไปโดยสุจริตตามความเป็นจริง หรือเงินที่คำนวณได้จากมูลค่าของการได้อยู่บ้านที่รัฐวิสาหกิจดังกล่าวให้อยู่โดยไม่ต้องเสียค่าเช่าและรัฐวิสาหกิจผู้จ่ายเงินมิได้ออกค่าภาษีเงินได้สำหรับเงินได้จำนวนดังกล่าวให้ |
30. |
เงินช่วยการศึกษาบุตร เงินช่วยเหลือบุตร
เงินค่าเบี้ยกันดารหรือเงินยังชีพที่ได้รับจาก
รัฐวิสาหกิจ ซึ่งมิใช่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในอัตราเดียวกับที่ทางราชการให้แก่ข้าราชการและรัฐวิสาหกิจผู้จ่ายเงินมิได้ออกค่าภาษีเงินได้จำนวนดังกล่าวให้ |
31. |
รางวัลที่ทางราชการจ่ายให้เพื่อประโยชน์ในการป้องกันมิให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับภาษีอากร |
32. |
ดอกเบี้ยเงินสะสมที่ได้รับจากรัฐวิสาหกิจ
ซึ่งมิใช่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในอัตราเดียวกับที่ทางราชการจ่ายให้แก่ข้าราชการและรัฐวิสาหกิจผู้จ่ายเงินมิได้ออกค่าภาษีเงินได้จำนวนดังกล่าวให้ |
33. |
เงินได้ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลต่างประเทศ
ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทยได้รับจากรัฐบาลของตน
ทั้งนี้ โดยให้เป็นไปตามหลักถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกัน |
34. |
เงินได้ส่วนที่เป็นเงินเดือนและเงินใดๆ
บรรดาที่ได้เนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำหรือจากการรับทำงานให้ที่คนต่างด้าวซึ่งเป็นผู้แทนของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทยได้รับจากคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ |
35. |
ดอกเบี้ยเงินฝากสหกรณ์เฉพาะเงินฝากที่ต้องจ่ายคืนเมื่อทวงถามประเภทออมทรัพย์
ซึ่งใช้สมุดคู่ฝากในการฝากถอน |
36. |
เงินได้ที่ทางราชการจ่ายให้เพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและกระทรวงการคลังได้อนุญาตให้เบิกจ่ายได้ |
37. |
เงินได้ส่วนที่เป็นเงินเดือนหรือค่าจ้างและเงินใดๆ
บรรดาที่ได้เนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำหรือจากการรับทำงานให้ที่คนต่างด้าวซึ่งไม่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยได้รับจาก |
|
(1) คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลเกี่ยวกับการโยกย้ายถิ่นฐานในการปฏิบัติงาน
ในประเทศไทย |
|
(2) รัฐบาลแห่งประเทศของตนใน การปฏบัติงานเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้อพยพจาก
อินโดจีนในประเทศไทย |
38. |
เงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์อันเป็นมรดกหรืออสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับจากการ
ให้โดยเสน่หาที่ตั้งอยู่นอกเขตกรุงเทพมหานคร
เทศบาล สุขาภิบาล หรือเมืองพัทยาหรือการปกครองท้องถิ่นอื่นที่มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะ
ทั้งนี้ เฉพาะเงินได้จากการขายในส่วนที่ไม่เกิน
200,000 บาท ตลอดปีภาษีนั้น |
39. |
เงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ให้แก่บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของตนโดยไม่มีค่าตอบแทน
บุตรชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวไม่รวมถึงบุตรบุญธรรมด้วย |
40. |
เงินได้จากการขายสินค้ายาสูบที่โรงงานยาสูบ
กระทรวงการคลังได้เสียภาษีเงินได้แทน ผู้ขายสินค้าดังกล่าวทุกทอดตามมาตรา
48 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร |
41. |
ดอกเบี้ยพันธบัตรขององค์การของรัฐบาลหรือสถาบันการเงินที่มีกฎหมายโดยเฉพาะของประเทศไทยจัดตั้งขึ้นสำหรับให้ยืมเงินเพื่อส่งเสริมเกษตรกรรม
พาณิชยก รรมหรืออุตสาหกรรม ทั้งนี้ เฉพาะ พันธบัตรที่จำหน่ายในต่างประเทศและผู้มีเงินได้พึงประเทศนั้นมิได้เป็นผู้อยู่ในประเทศไทย |
42. |
ดอกเบี้ยเงินฝากประเภทออมทรัพย์ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร |
43. |
เงินได้จากการขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
แต่ไม่รวมถึงเงินได้ จากการขายหลักทรัพย์ที่เป็นหุ้นกู้หรือพันธบัตร |
44. |
เงินได้จากการขายโลหะดีบุกตั้งแต่วันที่
1 มกราคม พ.ศ. 2531 สำหรับโลหะดีบุกที่ซื้อมาระหว่างวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับถึงวันที่
31 ธันวาคม พ.ศ. 2530 ทั้งนี้ เฉพาะที่ไม่นำรายจ่ายในส่วนที่เกี่ยวกับกิจการซื้อและขายโลหะดีบุกดังกล่าวไปรวมคำนวณเป็นรายจ่ายในการคำนวณเงินได้สุทธิ |
45. |
เงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งของกำไร
แล้วแต่กรณีจากห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคล
ที่มิใช่นิติบุคคลหรือจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย
ทั้งนี้เฉพาะส่วนที่เป็นการคำนวณจากเงินได้จากการขายโลหะดีบุกตั้งแต่วันที่
1 มกราคม พ.ศ. 2531 สำหรับโลหะดีบุกที่ซื้อระหว่างวันที่
กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธันวาคม
พ.ศ. 2530 และรายจ่ายในส่วนที่เกี่ยวกับกิจการซื้อและขายโลหะดีบุกดังกล่าว |
46. |
เงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์
โดยไม่มี ค่าตอบแทนให้แก่มูลนิธิชัยพัฒนา |
47. |
เงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์
โดยไม่มี ค่าตอบแทนให้แก่มูลนิธิส่งเสริม
ศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมนา
ชินีนาถ |
48. |
เงินค่าทดแทนตามกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ เฉพาะที่ดินที่ต้องเวนคืน และอสังหาริมทรัพย์อื่นบนที่ดินที่ต้องเวนคืน |
49. |
เงินได้พึงประเมินดังต่อไปนี้ |
|
(1) ผลต่างระหว่างราคาไถ่ถอนกับราคาซื้อตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ใดๆ
ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเป็นผู้ออกและมีการจำหน่ายครั้งแรกในราคาต่ำกว่าราคา
ไถ่ถอน แต่ไม่รวมถึงกรณีที่ผู้มีเงินได้ซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นผู้ทรงคนแรก |
|
(2) ผลประโยชน์ที่ได้จากการโอนตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ใดๆ
ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเป็นผู้ออก
ทั้งนี้ เฉพาะตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ไม่มี
ดอกเบี้ย |
|
(3) ดอกเบี้ยที่ได้จากตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ใดๆ
ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเป็นผู้ออก
เฉพาะส่วนที่เกิดขึ้นก่อนการเป็นผู้ทรงตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ของผู้มีเงินได้
ทั้งนี้ ต้องมีการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย
ตามมาตรา 50 (2) แห่งประมวลรัษฎากร จากดอกเบี้ย
ดังกล่าว ทั้งจำนวนไว้แล้ว |
50. |
เงินได้ที่ผู้เชี่ยวชาญของประชาคมยุโรปที่เป็นคนต่างด้าวและไม่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยได้รับเนื่องจากการเข้ามาทำงานในประเทศไทย
ภายใต้โครงการความช่วยเหลือที่ประเทศไทยได้รับจากประชาคม
ยุโรป |
51. |
เงินได้จากการขายหน่วยลงทุนในกองทุนรวมที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
พ.ศ. 2535 |
52. |
เงินได้ที่คณะกรรมการอำนวยการปรับปรุงพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทได้รับเพื่อประโยชน์ในการสร้างพระที่นั่งองค์ใหม่และปรับปรุงพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท |
53. |
เงินได้ที่คำนวณได้จากมูลค่าของเครื่องแบบซึ่งลูกจ้างได้รับจากนายจ้างในจำนวนคนละ
ไม่เกินสองชุดต่อปีและเสื้อนอกในจำนวนคนละไม่เกินหนึ่งตัวต่อปี |
54. |
เงินได้เท่าที่ลูกจ้างจ่ายเป็นเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในอัตราไม่เกินร้อยละ
15 ของค่าจ้างเฉพาะส่วนที่เกิน 10,000 บาท แต่ไม่เกิน
290,000 บาท สำหรับปีภาษีนั้น |
55. |
เงินหรือผลประโยชน์ใดๆ ที่ลูกจ้างได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ตามกฎหมายว่าด้วย กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เมื่อลูกจ้างออกจากงานเพราะเกษียณอายุ
ทุพพลภาพหรือตายดังนี้ |
|
(1) กรณีเกษียณอายุลูกจ้างผู้นั้นต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า
55 ปีบริบูรณ์ และเป็นสมาชิก กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี หรือ |
|
(2) กรณีทุพพลภาพ ต้องเป็นกรณีที่แพทย์ที่ทางราชการรับรองได้ตรวจและ
แสดงความเห็นว่าลูกจ้างผู้นั้นไม่สามารถที่จะทำงานในตำแหน่งหน้าที่ซึ่งปฏิบัติอยู่นั้นต่อไป
ไม่ว่าเหตุทุพพลภาพนั้นจะเกิดเนื่องจากการปฏิบัติงานให้แก่นายจ้างหรือไม่ก็ตาม |
|
(3) กรณีตาย ไม่ว่าการตายนั้นจะเกิดจากการปฏิบัติงานให้แก่นายจ้างหรือไม่
|
56. |
เงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งของกำไรจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้จากกิจการโรงเรียนเอกชนที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนหรือกิจการสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่ตั้งขึ้น
ตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ทั้งนี้
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าวจะต้องมิได้ประกอบกิจการอื่นนอกจากกิจการโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนหรือกิจการสถาบันอุดมศึกษาเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน |
57. |
ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในราชอาณาจักรที่ต้องจ่ายคืนเมื่อทวงถามประเภทออมทรัพย์
เฉพาะกรณีที่ผู้มีเงินได้ได้รับดอกเบี้ยดังกล่าวในจำนวนรวมกันทั้งสิ้นไม่เกิน
20,000 บาทตลอดปีภาษีนั้น |
58. |
เงินได้ส่วนที่เป็นเงินเดือนหรือค่าจ้างที่คนประจำเรือได้รับเนื่องจากการปฏิบัติงาน
บนเรือไทยตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการ พาณิชยนาวีที่ใช้ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ |
59. |
เงินได้ที่คณะกรรมการบริหาร "ทุนการกุศลสมเด็จพระเทพฯ"
ได้รับเพื่อประโยชน์ ของการกุศลสมเด็จพระเทพฯ |
60. |
เงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์
ดังต่อไปนี้ |
|
(1)
บ้าน โรงเรียน หรือสิ่งปลูกสร้างอื่น ซึ่งโดยปกติใช้ประโยชน์เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย |
|
(2) อสังหาริมทรัพย์ตาม (1) พร้อมที่ดิน |
|
(3) ห้องชุดสำหรับการอยู่อาศัยในอาคารชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด
|
|
ทั้งนี้เฉพาะกรณีการทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ตาม
(1) - (3) ซึ่งผู้มีเงินได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเป็นเวลา
ไม่น้อยกว่า 1 ปี นับแต่วันที่ได้กรรมสิทธิ์ครอบครองในอสังหาริมทรัพย์นั้น |
61. |
ผลประโยชน์ที่ได้จากการควบเข้ากันของธนาคารตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์
และหรือบริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ หรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์
ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์
และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ ซึ่งตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าเงินทุน |
62. |
เงินได้เท่าที่สมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการจ่ายเป็นเงินสะสมเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 300,000 บาท สำหรับปีภาษีนั้น |
63. |
เงินหรือผลประโยชน์ใดๆ ที่สมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการได้รับจากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
เนื่องจากออกจากราชการ เพราะเหตุสูงอายุ เหตุทุพพลภาพ
เหตุทดแทน หรือตาย ดังนี้ |
|
(1)
กรณีเหตุสูงอายุ
|
|
(2)
กรณีเหตุทุพพลภาพ สำหรับสมาชิกซึ่งออกจากราชการเพราะป่วย
เจ็บ ทุพพลภาพ ซึ่งแพทย์ที่ทางราชการรับรองได้ตรวจและแสดงความเห็นว่าไม่สามารถที่จะรับราชการในตำแหน่งหน้าที่ซึ่งปฏิบัติอยู่นั้นต่อไปได้ |
|
(3)
กรณีเหตุทดแทน สำหรับสมาชิกซึ่งออกจากราชการเพราะทางราชการเลิก
หรือ ยุบตำแหน่งหรือมีคำสั่งให้ออกโดยไม่มีความผิดหรือทหารซึ่งออกจากกองหนุนเบี้ยหวัด |
|
(4)
กรณีตาย สำหรับสมาชิกซึ่งออกจากราชการเพราะถึงแก่ความตายในระหว่าง
รับราชการ |
64. |
เงินได้ที่คณะกรรมการกองทุนลานกีฬาต้านยาเสพติด
สำนักนายกรัฐมนตรีได้รับ เพื่อประโยชน์ของกองทุนลานกีฬาต้านยาเสพติดดังกล่าว |
65. |
ดอกเบี้ยพันธบัตรออมสิน
รุ่นพันธบัตรเงินฝากช่วยชาติ |
66. |
เงินได้ที่เป็นเงินเดือนหรือค่าตอบแทนที่เจ้าหน้าที่ของศูนย์วิจัยวนเกษตรนานาชาติ
ซึ่งเป็นคนต่างด้าวและไม่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
ได้รับจากศูนย์วิจัยวนเกษตรนานาชาติ เนื่องจากการเข้ามาทำงาน
ในประเทศไทย ภายใต้ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและศูนย์วิจัยวนเกษตรนานาชาติ |
67. |
รางวัลบัตรออมทรัพย์ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร |
68. |
เงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินโดยไม่มีค่าตอบแทนให้แก่
วัด วัด บาดหลวงโรมันคาทอ ลิค หรือมัสยิด
ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
ทั้งนี้เฉพาะการโอนที่ดินส่วนที่ทำให้วัด วัด
บาดหลวงโรมันคาทอ ลิค หรือมัสยิดมีที่ดินไม่เกินห้าสิบไร่ |
69. |
ผลประโยชน์ที่ได้จากการที่ผู้ประกอบกิจการซึ่งเป็นบริษัทมหาชนจำกัด
หรือบริษัทจำกัดควบเข้ากัน หรือโอนกิจการทั้งหมดให้แก่กันตามหลักเกณฑ์
วิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด
ซึ่งตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าเงินทุน |
70. |
ค่าชดเชยที่ลูกจ้างได้รับตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและค่าชดเชยที่พนักงานได้รับตามกฎหมายว่าด้วยพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์
แต่ไม่รวมถึงค่าชดเชยที่ลูกจ้างหรือพนักงานได้รับเพราะเหตุเกษียณอายุหรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง
ทั้งนี้ เฉพาะค่าชดเชยส่วนที่ไม่เกินค่าจ้างหรือเงินเดือนค่าจ้างของการทำงานสามร้อยวันสุดท้าย
แต่ไม่เกิน 300,000 บาท |
71. |
เงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นดอกเบี้ยเงินกู้ยืม
สำหรับการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อ เช่าซื้อ หรือสร้างอาคารที่อยู่อาศัยโดยจำนองอาคารที่ซื้อหรือสร้างเป็นประกันการกู้ยืมนั้น
ตามจำนวน ที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 50,000 บาท
ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีกำหนด ทั้งนี้เฉพาะที่จ่ายให้แก่
|
|
(1)
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงินที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ |
|
(2)
กองทุนรวมเพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงินที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย
ว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ |
|
(3)
นิติบุคคลเฉพาะกิจซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์
ตามกฎหมายว่าด้วยนิติบุคคลเฉพาะกิจ เพื่อแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์
ทั้งนี้ เฉพาะกรณีที่นิติบุคคลเฉพาะกิจ ดังกล่าว
เข้ารับช่วงสิทธิเป็นเจ้าหนี้เงินกู้แทนกองทุนรวมตาม
(1) หรือ (2) ธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น บริษัทประกันชีวิต
สหกรณ์หรือนายจ้าง |
72. |
เงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นดอกเบี้ยเงินกู้ยืมให้แก่ธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น
บริษัทประกันชีวิต สหกรณ์ หรือนายจ้างสำหรับการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อเช่าซื้อ
หรือสร้างอาคารที่อยู่อาศัยโดยจำนองอาคาร ที่ซื้อหรือสร้างเป็นประกันการกู้ยืมนั้น
ซึ่งรวมถึงอาคารพร้อมที่ดินด้วย เฉพาะส่วนที่เกิน
10,000 บาท แต่ไม่เกิน 40,000 บาท ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีกำหนด |
73. |
เงินได้เท่าที่ครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชนจ่ายเป็นเงินสมทบเข้ากองทุนสงเคราะห์
ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนเฉพาะส่วนที่ไม่เกิน
300,000 บาท สำหรับปีภาษีนั้น |
74. |
เงินได้พึงประเมินตามมาตรา
40
(1) (2) (6) (7) และ (8) แห่งประมวลรัษฎากร
และเงินได้พึงประเมินประเภทค่าแห่ง สิขสิทธิ์ที่มิได้รับโอนมาโดยทางมรดก
เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในอัตราไม่เกินร้อยละ
15 ของเงินได้ ทั้งนี้เงินได้ที่ได้รับยกเว้นข้างต้น
เมื่อรวมกับเงินสะสมที่จ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
ต้องไม่เกิน
300,000 บาทสำหรับปีภาษีนั้น |
75. |
เงินหรือผลประโยชน์ใดๆ ที่ผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ได้รับจากกองทุนรวมดังกล่าวเพราะเหตุสูงอายุ
ทุพพลภาพ หรือตาย ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์
เงื่อนไข และวิธีการ ที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด
|
76. |
เงินหรือผลประโยชน์ใดๆ ที่ครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชนได้รับจากกองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน
เมื่อครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชนออกจากงานเพราะเหตุสูงอายุ
ทุพพลภาพ หรือตาย ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์
เงื่อนไข และวิธีการที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด |
77. |
ยกเว้นเงินปันผลที่ได้จากการถือหุ้นในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบกิจการธุรกิจเงินร่วมลงทุน
และได้รับยกเว้นภาษีเงินได้มาตรา 5 อัฏฐารส
แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2500
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 396) พ.ศ.
2545 |
78. |
ยกเว้นผลประโยชน์ที่ได้จากการโอนหุ้นของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์
เพื่อประกอบกิจการธุรกิจเงินร่วมลงทุน และได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตร
5 อัฏฐารส แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ.
2500 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 396) พ.ศ.
2545 |
79. |
ยกเว้นเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นดอกเบี้ยเงินกู้ยืมให้แก่กองทุน
บำเหน็บบำนาญข้าราชการ ตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
สำหรับการกู้ยืมเงิน เพื่อซื้อ เช้าซื้อ หรือสร้างอาคารที่อยู่อาศัย
รวมถึงอาคารพร้อมที่ดินด้วย |
80. |
ยกเว้นดอกเบี้ยและรางวัลสลากออมทรัพย์ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
แต่ไม่รวมถึงดอกเบี้ย ซึ่งผู้รับมิใช่ผู้ทรงคนแรก
ทั้งนี้สำหรับสลากออกทรัพย์ที่ออกจำหน่ายตั้งแต่วันที่
4 กุมภาพันธ์ 2545 เป็นต้นไป |
81. |
ยกเว้นเงินได้เท่าที่ผู้มีเงินได้จ่ายเป็นเบี้ยประกันภัยในปีภาษีสำหรับการประกันชีวิตของผู้มีเงินได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงเฉพาะส่วนที่เกิน
10,000 บาท แต่ไม่เกิน 40,000 บาท เฉพาะในกรณีที่กรมธรรม์ประกันชีวิตมีกำหนดเวลาตั้งแต่สิบปีขึ้นไป
และการประกันชีวิตนั้นได้เอาประกันไว้กับผู้รับประกันภัยที่ประกอบกิจการประกันชีวิตในราชอาณาจักร
ทั้งนี้สำหรับเบี้ยประกันที่ได้จ่ายตั้งแต่วันที่
1 มกราคม 2545 เป็นต้นไป และให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีกำหนด |
82. |
ยกเว้นเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์
ดังต่อไปนี้ |
|
(ก) บ้าน โรงเรือน หรือสิ่งปลูกสร้างอื่นซึ่งโดยปกติใช้ประโยชน์เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย |
|
(ข) อสังหาริมทรัพย์ (ก) พร้อมที่ดิน |
|
(ค) ห้องชุดสำหรับการอยู่อาศัยในอาคารชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด |
|
ทั้งนี้ เฉพาะสำหรับกรณีการทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ซึ่งผู้มีเงินได้ใช้เป็นที่อยู่ |
|
อาศัยอันเป็นแหล่งสำคัญ โดยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
นับแต่วันที่ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ครอบครองในอสังหาริมทรัพย์นั้น
ตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด |
83. |
ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้แก่บุคคลในคณะทูต
คณะกงสุล และบุคคลที่ถือว่า อยู่ในคณะทูตตามความตกลง
ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักถ้อยทีถ้อยปฏิบัติ |
84. |
ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับการขาย แลกเปลี่ยน
ให้โอนกรรมสิทธ์หรือสิทธิครอบครอง
ในอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจที่มิใช่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล |
85. |
ผู้มีเงินได้ที่ได้รับเงินได้พึงประเมินจากการขายอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรา
4 (6) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นทางค้าหรือหากำไร
(ฉบับที่ 342) พ.ศ. 2541 ซึ่งได้ถูกหักภาษีเงินได้
ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50 (5) แห่งประมวลรัษฎากร
และได้เสียภาษีธุรกิจเฉพาะไว้แล้ว |
86. |
ผู้มีเงินได้ซึ่งอยู่ในประเทศไทย และได้รับเงินส่วนแบ่งของกองทุนรวมที่จัดตั้ง
ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
พ.ศ. 2535 และยอมให้ผู้จ่ายเงินได้นั้นหักภาษี
ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 (2) แห่งประมวลรัษฎากร
ในอัตราร้อยละ 10 ของเงินได้ |
87. |
ลดอัตราภาษีเงินได้ตามมาตรา
48(3)(ก) และคงจัดเก็บในอัตราร้อยละ 10 ของเงินได้
สำหรับเงินได้พึงประเมินที่เป็นดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในราชอาณาจักรประเภทเงินฝากประจำ
ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่กำหนด |
88. |
ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา
40 (4) (ก) แห่งประมวลรัษฎากร ดังต่อไปนี้ |
|
(1) ดอกเบี้ยเงินฝากที่ได้รับจากการฝากเงินกับธนาคารในประเทศ |
|
(2) ดอกเบี้ยเงินฝากที่ได้รับจากการฝากเงินกับสหกรณ์ออมทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วย
สหกรณ์ในประเทศ |
89. |
เงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักค่าลดหย่อนแล้ว
โดยให้ยกเว้นเท่าจำนวนเงินที่บริจาคให้กองทุนปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์
ปีที่ 50 |
90. |
เงินได้สำหรับเงินได้พึงประเมินเท่าจำนวนเงินที่บริจาคในการจัดสร้างเครื่องทรง
พระพุทธมหามณี รัตนปฏิมากร |
91. |
เงินได้ที่ได้รับจากการปลดหนี้ หรือการประนอมหนี้ตามคำขอประนอมหนี้หรือแผนฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ที่ศาลได้มีคำสั่งเห็นชอบตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย
ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการโอนทรัพย์สิน
การขายสินค้าหรือการให้บริการและการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการดำเนินการ
ตามคำขอประนอมหนี้หรือแผนฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ที่ศาลได้มีคำสั่งเห็นชอบตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย |
92. |
ภาษีเงินได้สำหรับเงินได้สุทธิจากการคำนวณภาษีเงินได้ตามมาตรา48(1)
เฉพาะส่วนที่ ไม่เกิน 80,000 บาทแรก สำหรับปีภาษีนั้น |
93. |
เงินได้ที่ได้รับจากการปลดหนี้ของสถาบันการเงินที่ดำเนินการตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
|
94. |
เงินได้ที่ได้รับจากการโอนทรัพย์สิน
การขายสินค้า หรือการให้บริการ และการกระทำ
ตราสารอันเนื่องมาจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินที่ดำเนินการตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด |
95. |
เงินได้ที่ได้รับจากการปลดหนี้ของเจ้าหนี้อื่นซึ่งปรับปรุงโครงสร้างหนี้โดยนำหลักเกณฑ์ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดมาใช้โดยอนุโลม |
96. |
เงินได้ที่ได้รับจากการโอนทรัพย์สิน
การขายสินค้า หรือการให้บริการ และสำหรับการกระทำตราสารอันเนื่องมากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของเจ้าหนี้อื่นโดยนำหลักเกณฑ์ของสถาบันการเงิน
ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดมาใช้โดยอนุโลม |
97. |
เงินได้ที่ได้รับยกเว้นตามกฎหมายอื่นในปัจจุบันมีพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน
พ.ศ. 2520 ซึ่งยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้
ดังต่อไปนี้ |
|
(1) เงินปันผลที่ได้รับจากกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน
ซึ่งได้รับยกเว้นภาษี เงินได้นิติบุคคล ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ตลอดระยะเวลาที่ผู้ได้รับการส่งเสริมได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลนั้น |
|
(2) แห่งกู๊ดวิลล์ ค่าแห่งลิขสิทธิ์
หรือสิทธิอย่างอื่น จากผู้ได้รับการส่งเสริมตามสัญญาที่
ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้มีกำหนดระยะเวลา
5 ปีนับแต่วันที่ผู้ได้รับการส่งเสริมมีรายได้จากการประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริม |
98. |
อื่นๆ |