Chat
x
toggle menu
toggle menu

Select Groups

All Group
  • All Group
  • นโยบายเเละมาตรการพิเศษในการส่งเสริม
  • การขอรับการส่งเสริมการลงทุน
  • การออกบัตรส่งเสริม
  • การเปิดดำเนินการ
  • การเเก้ไขโครงการ
  • การดำเนินการอื่น ๆ
  • การรายงานความคืบหน้าโครงการ (e-Monitoring)
  • การปฏิบัติหลังการได้รับการส่งเสริม
  • การยกเลิกบัตรส่งเสริม
  • เรื่องทั่วไป
  • การใช้สิทธิด้านที่ดิน
  • การใช้สิทธิด้านเครื่องจักร
  • การใช้สิทธิด้านช่างฝีมือ/ต่างด้าว
  • การใช้สิทธิด้านวัตถุดิบ
  • ประเภทกิจการ - การแพทย์
  • การใช้สิทธิด้านภาษีเงินได้นิติบุคคล
  • ประเภทกิจการ - รถยนต์ไฟฟ้า
  • ประเภทกิจการ - ศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ (IBC) IPO และ TISO
  • ประเภทกิจการ - โรงแรม
  • ประเภทกิจการ - ผลิตผลิตภัณฑ์โลหะรวมทั้งชิ้นส่วนโลหะ
  • ประเภทกิจการ - กิจการผลิตเครื่่องจักร อุุปกรณ์และชิ้นส่วน
  • ประเภทกิจการ - กิจการศูนย์กระจายสินค้าระหว่า ประเทศด้วยระบบที่่ทันสมัย (IDC)
มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตคืออะไร และได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง

มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต

มาตรการนี้เป็นมาตรการส่งเสริมการลงทุนตามประกาศที่ 9/2560 ลงวันที่ 28 ตุลาคม 2560 คือ มาตรการการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนใน 4 เรื่อง ดังนี้

- การลงทุนด้านการประหยัดพลังงาน การลงทุนเพื่อใช้พลังงานทดแทน หรือการลงทุนเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

- การลงทุนเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

- การลงทุนด้านวิจัยและพัฒนา หรือออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ

- การลงทุนเพื่อการยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรไปสู่มาตรฐานระดับสากล

 

บริษัทมีความสนใจในมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต จะได้รับสิทธิ์และประโยชน์ดังนี้

- จะได้รับยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร

- จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี จำนวน 50 % ของเงินที่ลงทุนเพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพดังกล่าว (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียนในการปรับปรุงติดตั้ง)

- ระยะเวลายกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (3 ปี) นับจากวันที่มีรายได้หลังได้รับบัตรส่งเสริม และไม่เกินมูลค่า 50 % ของเงินที่ลงทุน แล้วแต่ว่าอย่างใดจะครบกำหนดก่อน

แบบฟอร์มคำขอ

ทั้งนี้ กรณีการลงทุนเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี มูลค่า 100 % ของเงินลงทุน (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียนในการปรับปรุงติดตั้ง) กรณีที่การปรับปรุงดังกล่าว มีการเชื่อมโยงหรือสนับสนุนอุตสาหกรรมผลิตเครื่องจักรอัตโนมัติในประเทศ ไม่น้อยกว่า 30 % ของเครื่องจักรที่ติดตั้งเพิ่ม

เงื่อนไขของผู้ที่สามารถขอส่งเสริมการลงทุน ภายใต้มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต

- ผู้ขอส่งเสริมหากไม่เคยขอรับส่งเสริมการลงทุนมาก่อน สามารถนำกิจการที่ดำเนินการอยู่ปัจจุบันมาขอรับส่งเสริมการลงทุนได้ โดยธุรกิจนั้นต้องเป็นกิจการที่สำนักงานให้ส่งเสริมการลงทุน ตามบัญชีประเภทกิจการที่ส่งเสริมการลงทุน

- สำหรับกิจการเคยที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนแล้ว สามารถยื่นขอรับสิทธิ์นี้ได้เมื่อระยะเวลาการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลนั้นสิ้นสุดลง (สิ้นสุดมาตรา 31 แล้ว) หรือเป็นโครงการที่ไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (ยกเว้นบางกิจการตามนโยบายเฉพาะที่สำนักงานกำหนด)

- มีการลงทุนไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน)

- สำหรับกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม จะต้องที่มีสินทรัพย์ถาวรสุทธิ หรือ ขนาดการลงทุนไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียนไม่เกิน 200 ล้านบาท และมีหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 50 % กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 500,000 บาท (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน)

เนื่องจากทางบริษัทได้มีบัตรเลขที่ .../2555 กิจการสนับสนุนการค้าและการลงทุน ประเภท 7.15 กิจการสนับสนุนการค้าและการลงทุน ซึ่งปัจจุบันเราได้ขยายระยะเวลาเปิดดำเนินการหมดแล้ว และครบเปิดโครงการวันที่ 19 มิถุนายน 2559 ซึ่งทางบริษัทยังไม่ได้ดำเนินการใดๆๆเกี่ยวกับโครงการนี้เลย ถ้าบริษัทจะขอยกเลิกบัตร จะต้องทำอย่างไรบ้าง และถ้าในอนาคต บริษัทยังต้องการที่จะทำโครงการนี้จะสามารถขอบัตรใหม่ได้หรือไม่

กิจการประเภท 7.15 กิจการสนับสนุนการค้าและการลงทุน (TISO) ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากร แต่ได้รับสิทธิเฉพาะที่ไม่เกี่ยวกับภาษี เช่น การถือครองที่ดิน และการนำเข้าช่างฝีมือต่างชาติ ขั้นตอนคือยื่นเอกสารที่สำนัก 4 ดังนี้

- หนังสือบริษัทแจ้งความประสงค์ขอยกเลิกบัตรส่งเสริม

- ไม่มีแบบฟอร์ม ร่างขึ้นได้เอง

- ระบุเหตุผลในการขอยกเลิก

- สำเนาบัตรส่งเสริม

- สำเนาใบอนุญาตเปิดดำเนินการ (ถ้ามี) (กรณีของบริษัทฯ ไม่มี เพราะไม่ได้เปิดดำเนินการ) หากในอนาคต บริษัทพร้อมจะลงทุนใหม่ ก็สามารถยื่นขอรับการส่งเสริมใหม่ได้อีก

หลังจากที่เราขออนุมัติให้สามารถนำเข้าผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปได้แล้ว ขั้นต่อไปจะต้องขอสูตรที่สำนักงานเหมือนเป็นผลิตภัณฑ์ 1 ผลิตภัณฑ์หรือไม่ หรือสามารถนำหนังสือแจ้งอัพข้อมูลที่ไอซีได้เลย

จะต้องขออนุมัติสูตร และแก้ไขบัญชีรายวัตถุดิบและ Max Stock เหมือนกับเป็นการเพิ่มสินค้าอีก 1 โมเดล เพื่อให้สามารถสั่งปล่อยชิ้นส่วนกึ่งสำเร็จรูป และสามารถตัดบัญชีได้อย่างถูกต้อง ไม่สับสนกับโมเดลที่ผลิตอยู่เดิม

ขอสอบถามเกี่ยวกับขั้นตอนการเปิดดำเนินการ 1. บริษัทฯ ครบกำหนดเปิดดำเนินการวันที่ 17 มีนาคม 2561 นี้ แต่ ณ ปัจจุบันบริษัทฯ ยังไม่ได้ยื่นเอกสารต่อทาง BOI เลย คาดว่าจะสามารถยื่นเอกสารได้ประมาณสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ตามที่รู้คือต้องใช้เวลาพิจารณา ประมาณ 45 วัน ถ้าอย่างนี้ก็จะเลยวันครบกำหนด ไม่ทราบว่า จะมีผลอย่างไรค่ะ ทางบริษัทควรทำอย่างไร 2. สำหรับแบบฟอร์มการเปิดดำเนินการ เอกสารที่จะต้องแนบ หัวข้อที่ 5. ทะเบียนสินทรัพย์ อย่างทราบว่า ทะเบียนสินทรัพย์ที่กล่าวถึงนี้เฉพาะที่เกี่ยวกับ BOI หรือรวมทั้งหมด ทั้ง BOI และ Non BOI

1.การยื่นช้าเกินกำหนดเป็นเวลาไม่นาน และมีเอกสารหลักฐานแสดงว่าอยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูลเพื่อยื่นคำขอเปิดดำเนินการ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ BOI ว่าจะผ่อนปรนให้หรือไม่ หากไม่ ก็จะมีมาตรการต่างๆ เช่น ระงับการให้สิทธิยกเว้นภาษีอากรวัตถุดิบ และช่างฝีมือ เป็นการชั่วคราว เป็นต้น

2.สำเนาทะเบียนสินทรัพย์ที่ต้องแนบพร้อมแบบคำขอเปิดดำเนินการ ใช้เฉพาะส่วนที่บริษัทนำมานับเป็นขนาดการลงทุน ในแบบคำขอเปิดดำเนินการ ข้อ 2 และ 5.3.2 และ 5.3.4 ก็พอ

ปี 2555 นำเข้าเครื่องจักร ขอสงวนสิทธิ์ไว้ แล้วบริษัทขออนุมัติบัญชีเครื่องจักรในปี 2558 ระบบ emt ถ้าได้รับอนุมัติบัญชีเครื่องจักรแล้ว บริษัทสามารถยื่นระบบ emt เพื่อขอคืนอากรขาเข้าเมื่อปี 2555 ได้หรือไม่

BOI กำหนดหลักเกณฑ์การยื่นขอคืนอากรเครื่องจักรบนระบบ eMT ตามประกาศ ป.4/2556 คือ

1. เครื่องจักรต้องนำเข้ามาในช่วงที่ได้รับสิทธิ

2. ต้องดำเนินการคืนอากรให้เสร็จภายใน 1 ปีนับจากวันสิ้นสุดระยะเวลานำเข้าเครื่องจักร

ดังนั้น หากเครื่องจักรที่สงวนสิทธิไว้ตั้งแต่ปี 2555 อยู่ในช่วงเวลาที่ได้รับสิทธิ ก็อยู่ในข่ายที่จะได้รับอนุมัติสั่งปล่อยคืนอากรจาก BOI ได้ยินมาว่า กรมศุลกากรกำหนดระยะเวลาการขอคืนอากรเครื่องจักรไว้ (ไม่เกิน 2 ปี ?? ไม่ยืนยัน) หากมีการกำหนดดังกล่าว เข้าใจว่าน่าจะเป็นดุลยพินิจของกรมศุลกากรในการคืนอากรที่เกินกว่ากำหนด แม้จะมีหนังสืออนุมัติสั่งปล่อยคืนอากรจาก BOI ก็ตาม

ซื้อเครื่องจักรเก่าซึ่งไม่ใช่เครื่องจักรหลักภายในประเทศจากเขตฟรีโซนมาทดแทนเครื่องจักรในโครงการเดิม(บัตรเปิดดำเนินการแล้ว)อายุการใช้งานเกิน 10 ปี สามารถนำมารวมเป็นเครื่องจักรในโครงการได้หรือไม่?

กรณีเปิดดำเนินการเต็มโครงการแล้ว บริษัทยังคงสามารถซื้อเครื่องจักรมาใช้ในโครงการ และนำมารวมเป็นเครื่องจักรในโครงการได้ แต่...

1.จะไม่ได้รับสิทธิยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร เนื่องจากระยะเวลาการนำเข้าเครื่องจักรจะสิ้นสุดไปแล้ว

2.จะไม่ให้แก้ไข cap วงเงินยกเว้นภาษีเงินได้

3.จะไม่ให้แก้ไขกำลังผลิตในบัตรส่งเสริม (ยกเว้นกิจการที่มีประกาศเป็นการเฉพาะ เช่น กิจการผลิตเครื่องไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์)

ทั้งนี้เครื่องจักรที่ซื้อมาหลังเปิดดำเนินการเต็มโครงการ ยังคงต้องเป็นไปตามเงื่อนไขในบัตรส่งเสริม คือ

1.หากในบัตรส่งเสริมระบุว่าต้องใช้เครื่องจักรใหม่ -> เครื่องจักรที่ซื้อมาเพิ่มเติม จะต้องเป็นเครื่องจักรใหม่

2.หากในบัตรส่งเสริมอนุญาตให้ใช้เครื่องจักรเก่าได้ -> เครื่องจักรที่ซื้อมาเพิ่มเติม สามารถเป็นเครื่องจักรเก่าอายุไม่เกินที่กำหนดในบัตรส่งเสริม โดยจะต้องเป็นเครื่องจักรเก่าที่นำเข้าจากต่างประเทศ และต้องมีใบรับรองประสิทธิภาพตามที่ BOI กำหนด

กรณีที่สอบถาม เป็นการซื้อเครื่องจักรเก่าจากฟรีโซน จึงต้องพิสูจน์ว่าไม่ใช่เครื่องจักรเก่าที่เคยใช้งานในประเทศมาก่อน อีกทั้งเป็นเครื่องจักรเก่าอายุเกิน 10 ปี ซึ่งขัดกับเงื่อนไขในบัตรส่งเสริม จึงไม่สามารถนำมาใช้ในโครงการได้

โครงการอยู่ในประเภทกิจการที่ไม่มีโรงงาน แต่ได้ไปเช่าอาคาร (ออฟฟิศ) เพิ่มเติมเพื่อให้บริการ หรือประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริมให้กรอกข้อมูลที่ดินอย่างไร

ให้เลือก ‘เช่า/ซื้อที่ดินแล้ว’

การถอนค้ำประกันเครื่องจักร มีขั้นตอนอย่างไรบ้างค่ะ ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง

การสั่งปล่อยถอนธนาคารค้ำประกันเครื่องจักร มีขั้นตอนคือ

1.หลังจากได้รับอนุมัติค้ำประกันแล้ว จะต้องยื่นขออนุมัติบัญชีรายการเครื่องจักร (ชื่อรอง) หรือบัญชีอะไหล่ หรือแม่พิมพ์ ที่ตรงกับรายการที่ใช้ธนาคารค้ำประกันภาษีอากรไว้ (การค้ำประกัน ให้ค้ำประกันเครื่องจักร 1 คำร้อง ต่อ 1 อินวอยซ์)

2.จำนวนเครื่องจักรที่สั่งปล่อยถอนค้ำประกัน เมื่อรวมกับที่เคยสั่งปล่อยไปแล้ว ต้องไม่เกินปริมาณสูงสุดที่อนุมัติไว้ในบัญชี

3.การสั่งปล่อยถอนค้ำประกัน ไม่ต้องแนบเอกสารใดๆ เนื่องจากเป็นเพียงการเรียกรายการที่เคยได้รับอนุมัติให้ค้ำประกันไว้แล้วมายื่นขอสั่งปล่อยเท่านั้น ซึ่งระบบจะตรวจสอบว่าเป็นไปตามเงื่อนไขตามข้อ 1 และ 2

4.การสั่งปล่อยถอนค้ำประกันเครื่องจักรเก่า ไม่ต้องแนบใบรับรองประสิทธิภาพเครื่องจักรเก่า เนื่องจากเคยยื่นใบรับรองประสิทธิภาพให้พิจารณาไว้แล้ว ตั้งแต่ขั้นตอนการขออนุญาตค้ำประกัน และขั้นตอนการขออนุมัติบัญชีเครื่องจักร

5.จะต้องยื่นสั่งปล่อยถอนค้ำประกัน ภายในระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติให้ใช้ธนาคารค้ำประกัน เว้นแต่จะได้รับขยายระยะเวลาค้ำประกันออกไปอีก

6.ตามประกาศ สกท ที่ ป.4/2556 ข้อ 7.3 BOI จะอนุญาตให้ขยายเวลาค้ำประกัน 1 ครั้ง เป็นเวลา 1 ปี โดยจะต้องยื่นขอขยายเวลาค้ำประกันก่อนสิ้นสุดระยะเวลาการค้ำประกันเดิม

7.ข้อควรระวังคือ การสั่งปล่อยถอนค้ำประกัน จะขอสั่งปล่อยได้อินวอยซ์ละครั้งเดียว ดังนั้น หากขอสั่งปล่อยไม่ครบตามจำนวนที่ค้ำประกันไว้ จะต้องชำระภาษีอากรในส่วนที่เหลือ (การสั่งปล่อยถอนค้ำประกัน ให้สั่งปล่อยถอนค้ำประกันเครื่องจักร 1 คำร้องต่อ 1 อินวอยซ์)

กรณีเป็นโครงการที่รับโอนแต่ก่อนโอนได้รับใบอนุญาตเปิดดำเนินการจากสำนักงานแล้ว ยังต้องรายงานความคืบหน้าโครงการอีกหรือไม่

ไม่ต้องรายงานความคืบหน้าโครงการอีก ทั้งนี้ หากพบว่าระบบฯ ยังกำหนดให้รายงาน โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องโดยอาจต้องแสดงหลักฐาน เพื่อยืนยันสถานะบัตรส่งเสริม เช่น สำเนาใบอนุญาตเปิดดำเนินการ

บริษัทมี ภ.ง.ด.1ก หลายฉบับ ให้กรอกข้อมูลหรือแนบไฟล์ในระบบฯ อย่างไร

ให้กรอกมูลค่ารวมจาก ภ.ง.ด.1ก ทุกฉบับ และรวมไฟล์ ภ.ง.ด.1ก เฉพาะหน้าแรกของทุกฉบับเป็นไฟล์เดียวเพื่อแนบ

บริษัทยื่น ภ.ง.ด. 50 โดยกรอกตัวเลขเฉพาะช่องที่ 3 (รวม) เพียงช่องเดียว แต่ระบบฯ เปิดให้กรอกเฉพาะช่องที่ 1 (กิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้) และช่องที่ 2 (กิจการที่ต้องเสียภาษีเงินได้) เท่านั้น ให้กรอกข้อมูลอย่างไร

เบื้องต้นให้กรอกข้อมูลในช่องที่ 1 (กิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้)

บริษัทไม่ได้มีรอบบัญชีตามปีปฏิทิน เช่น เริ่มต้นเดือนเมษายนและสิ้นสุดเดือนมีนาคม ทำให้งบ การเงินยังไม่แล้วเสร็จ (ผู้สอบบัญชีฯ ยังไม่ได้รับรองงบการเงิน) ให้กรอกข้อมูลอย่างไร

สามารถกรอกข้อมูลและแนบไฟล์งบการเงินฉบับร่างได้ หรือถ้ายังไม่มีร่าง ให้กรอก ‘0’ ในส่วนที่ไม่มีข้อมูลและแนบหนังสือบริษัทชี้แจงเหตุผลและเดือนที่คาดว่าจะสามารถกรอกข้อมูลส่วนนี้ได้ ในระบบฯ ทั้งนี้ หากประสงค์จะแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อมูลในภายหลัง โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อส่งเรื่องคืนให้แก้ไข

บริษัทจะขอรายงานล่าช้ากว่ากำหนด หรือ ระบบฯ จะมีการปิดให้กรอกข้อมูลหลังเลยกำหนดเวลา รายงานหรือไม่

การรายงานในรอบปี 2561 นี้ ยังไม่มีการปิดระบบฯ ในการกรอกข้อมูลแต่อย่างใด จึงสามารถรายงานในระบบฯ ได้อยู่ อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ข้อมูลแล้ว ขอให้บริษัทเร่งดำเนินการกรอกและส่งข้อมูลในระบบฯ เนื่องจากการรายงานล่าช้าอาจส่งผลต่อระบบการขอใช้สิทธิและประโยชน์ต่างๆ ในภายหลัง ทั้งนี้ ในรอบปีถัดไปอาจมีการปิดระบบตามเวลาที่กำหนด

สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับสำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และชิ้นส่วนต่างๆ มีอะไรบ้าง

สิทธิประโยชน์ขึ้นกับประเภทกิจการ ได้แก่

1. Hybrid Electric Vehicles ได้รับสิทธิ์ B1

2. Plug-in Hybrid Electric Vehicles ได้รับสิทธิ์ A4

3. Battery Electric Vehicles ได้รับสิทธิ์ A3

4. กิจการผลิตอุปกรณ์ต่างๆ ได้รับสิทธิ์ A2

5. กิจการสถานีบริการอัดประจุไฟฟ้า ได้รับสิทธิ์ A3

รายละเอียดของสิทธิประโยชน์ A1-4 และ B1-2 สามารถสืบค้นได้ที่เว็บไซด์ www.boi.go.th และรายละเอียดเพิ่มเติมของประเภทกิจการนี้ สามารถสืบค้นได้ที่นี่

          
ปัจจุบันโรงงานผลิตยาที่มีอยู่แล้วในประเทศไทย และต้องการจะลงทุนในเครื่องจักรและก่อสร้างอาคารเพิ่มเติม จะขอรับการส่งเสริมได้หรือไม่

- หากเป็นการลงทุนใหม่ทั้งสิ้น และไม่มีการใช้เครื่องจักรที่มีอยู่แล้วเดิม อยู่ในข่ายที่จะขอรับการส่งเสริมได้ โดยมีเงื่อนไขจะต้องได้รับ GMP สำหรับยาแผนโบราณ หรือ GMP/PICS สำหรับยาแผนปัจจุบัน ตามระยะเวลาที่กำหนดหลังได้รับการส่งเสริม และได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5 ปี (A3)

- หากเป็นการลงทุนใหม่ในเครื่องจักร ร่วมกับการใช้เครื่องจักรที่มีอยู่แล้วเดิมอยู่ในข่ายที่จะขอรับการส่งเสริมได้ เมื่อมีการยกระดับมาตรฐานการผลิต เช่น จากเดิมไม่ได้ GMP หรือ GMP/PICS การลงทุนครั้งนี้ทำให้เป็นไปตามมาตรฐานดังกล่าว, ประสิทธิภาพดีขึ้น และกำลังการผลิตมากขึ้น เป็นต้น โดยเครื่องจักรที่มีอยู่แล้วเดิมจะอนุญาตให้ใช้ในโครงการได้ แต่จะไม่นับเป็นมูลค่าเงินลงทุนของโครงการ

กรณีทำกิจการรีสอร์ทสามารถขอรับการส่งเสริมได้หรือไม่
การให้การส่งเสริมกิจการโรงแรมเป็นไปตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 ซึ่งรวมถึงโรงแรมประเภทรีสอร์ท แต่จะต้องพิจารณาการใช้ที่ดินตามความเหมาะสม และจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อกิจการอื่นที่ไม่ใช่ที่พัก เช่น พื้นที่สนามกอล์ฟ และฟาร์ม เป็นต้น
สำนักงานมีบริการสินเชื่อให้กับผู้สนใจหรือไม่
สำนักงานไม่ได้เป็นแหล่งให้บริการสินเชื่อหรือเงินกู้ใดๆ ผู้ขอรับการส่งเสริมจะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีอากรขาเข้าเครื่องจักร ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (ขึ้นกับความสำคัญของธุรกิจที่มีต่อประเทศ) กรณีเป็นนิติบุคคลต่างชาติ จะได้รับอนุญาตให้ถือครองที่ดินสำหรับประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน นอกจากนี้ สำนักงานยังช่วยอำนวยความสะดวกในการขอวีซ่า และใบอนุญาตทำงาน สำหรับชาวต่างชาติที่ประสงค์จะเข้ามาทำงานในกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนอีกด้วย
สอบถามการโอนวัตถุดิบจากบริษัท แม่ไปบริษัทลูก แล้วปิดบัตรส่งเสริม บริษัทแม่ ให้บริษัทลูกเป็นผู้นำเข้าและส่งออกเอง คำถามคือ 1.สามารถทยอยโอนวัตถุดิบได้ไหม 2.ระยะเวลาในการพิจารณากี่วัน 3.การกรอกบัญชีรายการวัตถุดิบที่โอน-รับโอน ในช่อง (รายการที่ )ต้องเป็นกรุ๊ปตาม mml ไหม 4.ช่องรายการวัตถุดิบและวัสดุจำเป็นของผู้โอน ต้องใส่ชื่อ หลัก /หรือชื่อรอง ที่นำเข้าวัตถุดิบ

1. การโอนวัตถุดิบ (โอนยอดในระบบ RMTS) ต้องโอนทีเดียว ตามจำนวนที่ได้รับอนุมัติ

2. ระยะเวลาพิจารณาของ BOI กำหนดไว้ 15 วันทำการ

3. การกรอกบัญชีรายการวัตถุดิบที่โอน-รับโอน ในช่อง "รายการที่" ให้กรอกเลข grp_no ตาม MML

4. (แก้ไข) ช่องรายการวัตถุดิบที่โอนและรับโอน จะกรอกเป็นชื่อหลักหรือชื่อรองก็ได้ แต่จะต้องตรงกันทั้งผู้โอนและผู้รับโอน

หากชื่อไม่ตรงกัน ผู้รับโอนจะต้องขอเพิ่มชื่อรอง ให้ตรงกับชื่อวัตถุดิบของผู้โอน

เอกสารหลักฐานประกอบการขอถือกรรมสิทธิ์ที่ดินตามมาตรา 27 มีอะไรบ้าง

เอกสารหลักฐานที่ใช้ประกอบการขอถือกรรมสิทธิ์ที่ดินตามมาตรา 27 ได้แก่

1. คำขออนุญาตถือกรรมสิทธิ์ที่ดินตามแบบ กกท.40

2. แผนที่ดินโดยสังเขป โดยให้ระบุลักษณะที่ดิน สถานที่ข้างเคียง ถนนสายสำคัญที่ผ่าน รวมถึงทางเข้า-ออก

3. สำเนาโฉนด และแผนที่ระวางหลังโฉนด

4. แผนผังการใช้ที่ดิน โดยให้แสดงรายละเอียด ระบุส่วนที่เป็นตัวอาคารสำนักงาน อาคารโรงงาน ห้องเก็บพัสดุ บ้านพัก ถนน สนาม หรือสิ่งก่อสร้างอื่นๆ พร้อมทั้งคำนวณเนื้อที่ที่จะต้องใช้ในการก่อสร้างแต่ละรายการ และรวมเนื้อที่ทั้งหมดให้ปรากฏอย่างชัดเจนในแผนที่ หากมีที่ดินเหลือจากการก่อสร้างดังกล่าว ให้ชี้แจงไว้ในแผนที่ด้วยว่าจะใช้ประโยชน์อย่างใดบ้าง
ในกรณีที่ดินมากกว่า 2 โฉนดขึ้นไป ให้ระบุแนวต่อระหว่างโฉนดในแผนที่ด้วย

5. สำเนาบัตรส่งเสริม

6. หนังสือบริษัทฯ แจ้งความประสงค์ขอถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน

หากบริษัทฯได้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนไปแล้ว โดยใช้ที่ดินที่มีอยู่เดิม แต่มีขอสร้างอาคารสำนักงานเพิ่ม และได้รับสิทธิมาตรา 27 ต่อมาบริษัทฯต้องการซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเพิ่มเติมเพื่อรองรับการขยายของธุรกิจ โดยที่ดินที่ซื้อเพิ่มนี้จะใช้สำหรับเก็บผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบ บริษัทฯต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง และสามารถใช้นับเป็นเงินลงทุนได้หรือไม่ ปล.ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ต้องการซื้อเพิ่มอยู่ติดพื้นที่เดิม และบัตรส่งเสริมนี้ยังไม่เปิดดำเนินการ การซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพิ่ม สามารถนับเป็นเงินลงทุนได้หรือไม่

1. กรณีได้รับสิทธิถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินตามมาตรา 27 หากต้องการซื้อที่ดินเพิ่มเติมเพื่อใช้ในกิจการที่ได้รับส่งเสริม (กรณีที่สอบถามคือจะซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเพื่อเก็บสินค้าและวัตถุดิบ) สามารถยื่นขออนุญาตถือกรรมสิทธิ์ที่ดินเพิ่มเติมได้ ตามแบบฟอร์มหัวข้องานที่ดิน จาก Link นี้

2. ค่าก่อสร้างโกดังสินค้าเพื่อใช้ในโครงการที่ได้รับส่งเสริม สามารถนับเป็นเงินลงทุนตามโครงการได้

3. ค่าที่ดิน ไม่นับเป็นเงินลงทุนที่จะนำไปคำนวณวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล

4. กรณีซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ต้องแยกค่าที่ดินและค่าสิ่งปลูกสร้างโดยชัดเจน มิฉะนั้น จะไม่นับค่าสิ่งปลูกสร้างเป็นเงินลงทุนของโครงการ

ขออภัยครับ ไม่มีข้อมูลส่วนนี้ ในภาษาที่ท่านเลือก !

Sorry, There is no information support your selected language !

Download และ ติดตั้งโปรแกรมอ่าน PDF

Download PDF Reader

Site map