Page 24 - BOI eJournal No 3 | Mar-Apr 2020
P. 24
คุณณัฐภูมิบอกเล่าเบ้ืองหลังโปรแกรมบริหารงาน หลังบ้านทางธุรกิจช้ินนี้ว่า ตนเองเริ่มทาธุรกิจมาตั้งแต่ อายุ 25 ปี โดยเร่ิมจากธุรกิจรับจ้างจัดงาน หรืออีเวนต์ แมเนจเมนต์ จนขยายตัวไปสู่อีกหลายธุรกิจในชื่อ กลุ่มบริษัท นิวสเปคทีฟ จากัด ซึ่งรูปแบบของธุรกิจ ที่ทาทั้งหมดคือธุรกิจรับจ้างทาหรือโปรเจกต์เบส และ ระหว่างที่ทาธุรกิจอยู่นั้นก็เหมือนกับผู้ประกอบการ อีกมากที่ต้องเผชิญปัญหาการบริหารงานหลังบ้านใน องค์กร
“เวลาทางานโดยเฉพาะธุรกิจที่เร่ิมต้นเอง ไม่ได้มี ระบบบริหารจัดการแบบองค์กรใหญ่ แต่จะพุ่งไปเร่ือง การทา งานและหาลกู คา้ เปน็ หลกั ในขณะทรี่ ะบบหลงั บา้ น เรื่องดูต้นทุน ดูรายรับรายจ่าย และดูว่าจริงๆ สุดท้าย กาไรเท่าไร ทาได้ไม่ดีเท่าที่ใจคิด นี่คือปัญหา ทาให้ช่วง เวลาสัก 5 - 6 ปีท่ีเราทาธุรกิจอยู่ได้ แต่ไม่โตสักที เพราะ การบริหารต้นทุนหรือกาไรไม่มีประสิทธิภาพเท่าท่ีควร”
คุณณัฐภูมิสรุปบทเรียนที่พบว่า เป็นเพราะยังวางระบบ บริหารจัดการหลังบ้านไม่ดีพอ เช่น ระบบจัดซื้อ การเก็บข้อมูลท่ีสามารถดึงมาดูได้ทันที รวมถึงยังมี ข้ันตอนในกระบวนการทางานมาก ซึ่งบางคร้ังทาให้ เกิดความล่าช้าในการตัดสินใจ ทาให้เขามองหาอะไร ที่จะมาช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้
เริ่มด้วยการใช้โปรแกรมสานักงานที่มีอยู่ บันทึกข้อมูล ต่างๆ แต่ก็ยังไม่สามารถดูข้อมูลได้ทันที เพราะยังมี ปัญหาการบันทึกข้อมูลที่ล่าช้า จึงเริ่มศึกษาโปรแกรม ที่มีอยู่ในท้องตลาด ทั้งโปรแกรมบัญชีและโปรแกรม บริหารจัดการองค์กรต่างๆ แต่ก็พบว่าโปรแกรม เหล่านั้นยังไม่สามารถสนองความต้องการของธุรกิจได้ และโปรแกรมในท้องตลาดที่สามารถใช้งานได้ก็มีราคา สูงเกินกว่าจะนามาใช้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
“ส่ิงที่เราต้องการคือ กระบวนการก่อนการลงบัญชี ฝั่งรายรับ ต้องมี การเปิดใบเสนอราคา การประมาณ ต้นทุนเพื่อเสนอราคา การประมาณกาไร ฝั่งรายจ่ายมี ซัพพลายเออร์เสนอราคาเข้ามา เราทาระบบพีโอจัดซื้อ เข้าไป มีการเทียบราคา และสั่งซ้ือ มีระบบส่งงาน ระบบการหักภาษีรอการจ่ายเงิน รวมถึงการจ่ายเงินให้ ซัพพลายเออร์”
ถ้าใช้กันจริงๆ ก็จะ เข้าระบบหมดเลย จะโปร่งใส องค์กรจะดูดี เช่น พอเจอโควิด-19 เราเหลือเงิน ที่จะต้องจ่ายซัพพลายเออร์เท่าไร ก็คลิกดูได้เลย
24 | BOI e-Journal
