แนะนำให้ขอเพิ่มชื่อรองของเครื่องจักร ให้ตรงกับอินวอยซ์ เช่น ในกรณีที่สอบถามคือ เพิ่มชื่อรองเป็น Injection machine MNB44A-01 และยื่นสั่งปล่อยให้ตรงกับชื่อใบขนสินค้าขาเข้า(และอินวอยซ์)
กรณีบริษัทนำเข้าเครื่องจักร (แม่พิมพ์ อะไหล่ ฯลฯ) เข้ามาเกินกว่า 5 ปี และประสงค์จะจำหน่ายออกจากโครงการ บริษัทสามารถยื่นขอจำหน่ายโดยไม่มีภาระภาษี ซึ่งเมื่อได้รับอนุมัติแล้ว จะนำไปจำหน่ายเป็นเศษเหล็ก หรือทำลาย หรือจัดการอย่างใดก็ได้ โดยไม่ต้องแจ้งขออนุญาตจาก BOI และไม่ต้องยื่นหลักฐานในการจำหน่ายต่อ BOI เพียงแต่จะต้องตัดรายการนั้นออกจากทะเบียนสินทรัพย์ของโครงการที่ได้รับส่งเสริมนั้น
การสั่งปล่อยเครื่องจักรที่นำกลับเข้ามาจากการส่งไปซ่อมต่างประเทศ จะได้รับยกเว้นอากรขาเข้าและ VAT เฉพาะสำหรับค่าซ่อม
ส่วนอากรขาเข้าของเครื่องจักร จะได้รับยกเว้นตามใบสุทธินำกลับที่บริษัทยื่นดำเนินการไว้กับกรมศุลกากร
เนื่องจากหน่วย SET มีความหมายทั้งกรณีที่เป็นชุด (หลายชิ้น) หรือ 1 เครื่อง ดังนั้น ตามปกติเจ้าหน้าที่ BOI จึงจะไม่อนุมัติหน่วยของเครื่องจักรเป็น SET แต่จะอนุมัติเป็น PIECE OR UNIT
หากชื่อเครื่องจักรตามอินวอยซ์ เป็นรายการที่ตรงกับชื่อเครื่องจักรที่ได้รับอนุมัติในบัญชีรายการเครื่องจักร และในบัญชีระบุหน่วยเป็น PIECE OR UNIT ควรระบุหน่วยในอินวอยซ์เป็น UNIT (หรือ PIECE) เช่นกัน เพื่อให้การทำใบขนสินค้ามีหน่วยเป็น C62 ตรงตามการอนุมัติสั่งปล่อย
1) ตัดบัญชีภาระภาษีเพื่อปลดภาระภาษีของเครื่องจักร/แม่พิมพ์ที่นำเข้ามาเกินกว่า 5 ปี แต่ยังจะต้องใช้ในโครงการต่อไปจนกว่าจะขอจำหน่ายออกจากโครงการ
2) จำหน่ายออกจากโครงการเพื่อปลดจากการเป็นเครื่องจักร BOI เช่น การจำหน่าย ส่งออกไปต่างประเทศ ทำลาย บริจาค หรือชำระภาษี เป็นต้น
กรณีที่สอบถาม บริษัท A ทำเรื่องตัดบัญชีภาระภาษีแม่พิมพ์ที่นำเข้ามาเกินกว่า 5 ปี แต่ไม่ได้ทำเรื่องจำหน่ายออกจากโครงการ คือ ได้ยื่นเรื่องขอโอนแม่พิมพ์ให้บริษัท B ทำให้เงื่อนไขการต้องใช้แม่พิมพ์ในโครงการ และภาระการขอจำหน่ายออกจากโครงการ ถูกโอนมาเป็นภาระหน้าที่ของ B ดังนั้น B ต้องยื่นขอจำหน่ายแม่พิมพ์ดังกล่าวออกจากโครงการ
หากในหนังสือที่ BOI อนุมัติให้ B รับโอนแม่พิมพ์ ระบุรายละเอียดครบถ้วน เช่น เลขที่/วันที่หนังสืออนุมัติสั่งปล่อย หรือเลขที่/วันที่ใบขนสินค้าขาเข้า หรือหาก B มีสำเนาใบขนสินค้าขาเข้าที่ได้รับจาก A บริษัท B น่าจะสามารถยื่นขอจำหน่ายเครื่องจักร (นอกระบบ/ไม่มีภาษี) ได้ แต่หากเอกสารไม่ครบถ้วน/ไม่เพียงพอ อาจติดปัญหาในขั้นตอนการอนุมัติของเจ้าหน้าที่ BOI
ทั้งนี้ หากท่านมีข้อสงสัยต้องการสอบถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่กองส่งเสริมการลงทุน 1 - 4 โทร 02-553-8111 กด 1 กดเลือก กองส่งเสริมการลงทุนที่ดูแลประเภทกิจการของท่าน หรือเข้าหารือได้ที่ : https://booking.boi.go.th
ตอบคำถามดังนี้
ข้อ 1 และ 2. เครื่องจักรที่นำเข้าโดยใช้สิทธิยกเว้นอากรขาเข้าตามมาตรา 28, 29 จะต้องใช้ในกิจการที่ได้รับส่งเสริมเท่านั้น หากจะนำไปผลิตสินค้าอื่นที่ไม่ได้รับส่งเสริม จะต้องได้รับอนุญาตจาก BOI ก่อน ซึ่งปกติจะอนุญาตในกรณีที่โครงการนั้นเปิดดำเนินการเต็มโครงการแล้ว
ข้อ 3. และ 4. การผลิตสินค้าที่ไม่ได้รับส่งเสริม จะใช้สิทธิใดๆ ของโครงการที่ได้รับส่งเสริมไม่ได้ บริษัทจะต้องชำระภาษีอากรตามปกติ
5. เครื่องจักรที่นำเข้าโดยใช้สิทธิยกเว้นอากรขาเข้าตามมาตรา 28, 29 และลงไว้ในทะเบียนสินทรัพย์จะนับเป็นมูลค่าการลงทุนของโครงการที่ได้รับส่งเสริมเท่านั้น
Q ถาม 2.1:
หากเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกันและมีกระบวนการผลิตเหมือนกัน แต่แตกต่างกันตรงที่การขายสินค้าสำเร็จรูป (Finish Goods) เป็นการขายแบบ BOI กับ NON BOI ก็ตามใช่หรือไม่
A ตอบ 2.1:
ผลิตภัณฑ์ตามโครงการที่ได้รับส่งเสริม คือผลิตภัณฑ์ที่ระบุในบัตรส่งเสริม และผลิตตามขั้นตอนการผลิตที่ได้รับอนุมัติ โดยใช้เครื่องจักรใหม่ตามเงื่อนไขในบัตรส่งเสริม หรือใช้เครื่องจักรเก่าจากต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตตามเงื่อนไขของประกาศบริษัทจะต้องจัดทำบัญชีภายในแยกระหว่างโครงการ BOI และ Non BOI ให้ชัดเจน เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่เป็น Non BOI จะไม่สามารถใช้สิทธิและประโยชน์ของ BOI ได้
1. Negative List หมายถึง บัญชีรายการเครื่องจักรที่มีผลิตหรือประกอบในประเทศ จึงไม่สามารถนำเข้าโดยใช้สิทธิยกเว้น/ลดหย่อนอากรขาเข้าตามมาตรา 28 หรือ 29 ได้
2. ในการใช้สิทธิยกเว้นลดหย่อนอากรขาเข้าเครื่องจักร ผู้นำเข้าจะต้องเป็นผู้ได้รับส่งเสริม จึงจะใช้สิทธิได้
- หากจำเป็นต้องซื้อจาก บ.Trading จะต้องมีการโอนสิทธิการนำเข้าจาก บ.Trading เป็นผู้ได้รับส่งเสริม (สลักหลัง consignee ชื่อผู้ได้รับการส่งเสริม) ในใบขนก่อนการเดินพิธีการขาเข้า และผ่านพิธีการขาเข้าโดยมีชื่อผู้ได้รับส่งเสริมเป็นชื่อผู้นำเข้า จึงจะใช้สิทธิได้
- แต่หาก บ.Trading เป็นผู้นำเข้าโดยชำระอากรขาเข้าแล้ว และต่อมาจำหน่ายให้ผู้ได้รับส่งเสริม จะไม่สามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษีตามมาตรา 28, 29 ของผู้ได้รับส่งเสริม
BOI ไม่ได้กำหนดนิยามของการส่งเครื่องจักรไป Modify ต่างประเทศ โดยการขอส่งเครื่องจักรไป Modify ต่างประเทศ สามารถยื่นขออนุญาต/และยื่นสั่งปล่อยในหัวข้อการส่งเครื่องจักรไปซ่อมต่างประเทศ ซึ่งจะได้รับยกเว้นอากรขาเข้าตามสิทธิที่ได้รับอยู่เดิม และบริษัทยังคงต้องทำใบสุทธินำกลับ เช่นเดียวกับการส่งเครื่องจักรไปซ่อมต่างประเทศ
BOI ได้กำหนดวิธีการใช้สิทธิยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรจากเดิมที่เก็บข้อมูลและเอกสารหลักฐานต่างๆ ด้วยกระดาษมาเป็นเก็บข้อมูลบนฐานข้อมูลระบบ MCTS (ยื่นข้อมูลด้วย Diskette) ประมาณปี 2544 และต่อมาพัฒนาเป็นระบบ eMT (ยื่นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต) ประมาณปี 2554
เนื่องจากการพัฒนาระบบแต่ละครั้ง มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างฐานข้อมูล ดังนั้นในช่วงรอยต่อของการปรับเปลี่ยนระบบ เครื่องจักรที่ได้นำเข้าโดยใช้สิทธิยกเว้นอากรแล้ว จะยังคงเก็บข้อมูลไว้ในระบบเดิม แต่เครื่องจักรที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิ จะอนุมัติสั่งปล่อยด้วยระบบใหม่
ดังนั้นโครงการที่ได้รับส่งเสริมมาเป็นเวลานาน และได้รับสิทธินำเข้าเครื่องจักรหรือแม่พิมพ์ตลอดระยะเวลาที่ได้รับส่งเสริม อาจนำเข้าเครื่องจักรโดยยกเว้นอากรขาเข้าภายใต้ระบบ eMT, MCTS และหนังสืออนุมัติสั่งปล่อย (กรณีสั่งปล่อยก่อนเริ่มใช้ระบบ MCTS) ร่วมกันก็ได้
กรณีเป็นการสั่งปล่อยตามหนังสืออนุมัติ ที่ไม่มีข้อมูลในระบบ eMT บริษัทสามารถยื่นขอตัดภาระภาษีเครื่องจักรได้ เนื่องจากนำเข้าเกินกว่า 5 ปีแล้ว โดยให้ยื่นเรื่องในระบบ eMT โดยเลือกเมนู "สั่งปล่อยนอกระบบ" และแนบสำเนาหลักฐานแสดงการนำเข้าโดยใช้สิทธิ เช่น สำเนาใบขนขาเข้า หรือสำเนาหนังสืออนุมัติสั่งปล่อย
1. เครื่องจักรที่นำเข้ามาก่อนวันที่ขอรับส่งเสริม สามารถใช้ในโครงการได้ แต่จะไม่ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรนั้น ทั้งนี้จะต้องระบุในคำขอฯว่าจะมีการใช้เครื่องจักรที่นำเข้ามาก่อนวันที่ขอรับส่งเสริม และเครื่องจักรนั้นจะต้องไม่เคยใช้ผลิตในเชิงพาณิชย์มาก่อน
2. วันที่ขอรับการส่งเสริม คือวันที่ BOI ตรวจสอบข้อมูลและออกเลขที่/วันที่ลงรับคำขอ ไม่ใช่วันที่บริษัทส่งยื่นคำขอในระบบออนไลน์
บริษัทฯ นำเข้าเครื่องจักรโดยใช้สิทธิยกเว้นอากรขาเข้ามากกว่าจำนวนเครื่องจักรที่ติดตั้งอยู่จริง ดังนั้น เครื่องจักรที่ไม่ได้ติดตั้งอยู่จริง จึงเป็นเครื่องที่ใช้สิทธิผิดเงื่อนไขในบัตรส่งเสริม และมีภาระต้องชำระภาษีอากรตามสภาพ ณ วันที่นำเข้า และเบี้ยปรับ VAT
ขั้นตอนคือเมื่อได้รับอนุญาตจาก BOI ให้ชำระภาษีแล้ว ให้ติดต่อกรมศุลกากรเพื่อขอชำระภาษีอากร หลังจากชำระภาษีเสร็จสิ้นแล้ว ให้ยื่นตัดบัญชีเครื่องจักรในระบบ EMT ต่อไป
สามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษีอากรตามมาตรา 28 ได้ โดยมีข้อที่ต้องระวังคือ
1. ชื่อผู้นำเข้า จะต้องเป็นชื่อบริษัทที่ได้รับส่งเสริม
2. ต้องใช้ในโครงการที่ได้รับส่งเสริม
3. การนำเข้า อาจไม่มีการเรียกเก็บค่าแม่พิมพ์ก็ได้ เช่น ลูกจ้าง ต่างประเทศส่งแม่พิมพ์มาเพื่อว่าจ้างผลิต โดยแม่พิมพ์ยังเป็นสินทรัพย์ของลูกค้า แต่จะต้องระบุราคาประเมิน เพื่อการประเมินภาษีศุลกากรให้ถูกต้อง
ถาม Q1.1:
ในการประเมินภาษีศุลกากร อันนี้ หมายถึง อากรขาเข้า 0% + ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ใช่หรือไม่ เพราะ ม.28 คือ ได้รับยกเว้นอากรขาเข้า
ตอบ A1.1:
แม้ว่าจะใช้สิทธิ ม.28 ในการยกเว้นอากรขาเข้าและ VAT แต่ในขั้นตอนผ่านพิธีการศุลกากร ก็ต้องระบุพิกัดสินค้า และราคาสินค้า ให้ถูกต้อง เพื่อการประเมินภาษีอากร (แม้จะได้รับยกเว้นภาษีก็ตาม)
ถาม Q1.2:
ในกรณีที่มีบริษัทแม่อยู่ที่ประเทศจีน แล้วบริษัทแม่ไปจ้าง vender ทำแม่พิมพ์ มีการจ่ายเงินกันเรียบร้อย แต่ฝากแม่พิมพ์ไว้ที่ vender อยากทราบว่า ทรัพย์สินจะเป็นของบริษัทแม่หรือว่า vender และถ้าบริษัทลูกต้องการใช้แม่พิมพ์ตัวนี้ บริษัทแม่สามารถโอนแม่พิมพ์มาให้บริษัทลูกที่ไทยได้หรือไม่
ตอบ A1.2:
เป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ของ BOI จึงขอตอบตามความเห็นส่วนตัว คือ
1. แม่พิมพ์เป็นสินทรัพย์ของบริษัทแม่ แต่ทำสัญญากับเวนเดอร์ เพื่อว่าจ้างผลิต โดยฝากเก็บแม่พิมพ์ไว้กับเวนเดอร์
2. บริษัทแม่จะโอน (จำหน่าย) แม่พิมพ์ให้กับบริษัทลูกในประเทศไทยก็ได้ และบริษัทลูกสามารถใช้สิทธิยกเว้นอากรขาเข้าแม่พิมพ์นั้นได้ตามหลักเกณฑ์ปกติ
โดยหากเครื่องจักรนั้นมีอายุเกินกว่า 5 ปีนับจากวันนำเข้า จะอนุญาตให้จำหน่ายออกจากโครงการโดยไม่มีภาระภาษี
การส่งเครื่องจักรที่นำเข้ามาด้วยสิทธิ BOI กลับต่างประเทศ มีขั้นตอนการดำเนินการอย่างไร
1. ยื่นคำร้องในระบบ eMT ในหัวข้อ “ส่งคืนเครื่องจักรไปต่างประเทศ”
2. หากเครื่องจักรที่จะส่งคืน มีข้อมูลในระบบ eMT ให้เลือกข้อ 1 เป็น “ในระบบ” แต่หากไม่มีข้อมูลในระบบ eMT ให้เลือกข้อ 1 เป็น “นอกระบบ” พร้อมแนบหลักฐานการใช้สิทธิยกเว้นภาษีของเครื่องจักรนั้น เช่น สำเนาใบขนสินค้าขาเข้าที่ระบุเลขอนุมัติสั่งปล่อยของ BOI เป็นต้น
3. หลังจากได้รับอนุมัติ จะต้องส่งคืนเครื่องจักรไปต่างประเทศภายใน 90 วัน
4. ยืนยันการส่งออก โดยคีย์เลขใบขนขาออกลงในระบบ
5. เครื่องจักรที่ส่งคืนกลับไปต่างประเทศ จะไม่มีภาระภาษี
6. หากการส่งคืนเครื่องจักร ทำให้กำลังผลิตของโครงการลดลงมากกว่า 20% หรือทำให้กรรมวิธีการผลิตไม่ครบถ้วนตามโครงการที่ได้รับส่งเสริม จะต้องลดขนาดกิจการหรือแก้ไขขั้นตอนการผลิตให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงด้วย
บริษัทครบกำหนดนำเข้าเครื่องจักรแล้ว โดยได้รับอนุมัติบัญชีเครื่องจักรแล้ว และนำเข้าเครื่องจักรเข้ามาครบตามขั้นตอนที่ขออนุมัติแล้ว
ขอสอบถามว่า
1. สามารถขอขยายเวลานำเข้าเครื่องจักรได้หรือไม่ เนื่องจากยังต้องมีการนำเข้าชิ้นส่วนส่วนประกอบบางตัวของเครื่องจักรและแม่พิมพ์
2. หากขอเวลาระยะเวลานำเข้าเครื่องจักรได้ ต้องให้เหตุผลว่าอย่างไร
1. ตามประกาศ สามารถขอขยายเวลานำเข้าเครื่องจักรได้ 3 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 1 ปี
2. กรณีนำเครื่องจักรเข้ามาครบแล้ว แต่จะขอขยายเวลานำเข้าเพื่อนำเข้าแม่พิมพ์ หรืออะไหล่ของเครื่องจักร อาจไม่ได้รับอนุมัติให้ขยายเวลา เนื่องจาก BOI อาจพิจารณาว่าบริษัทได้ลงทุนครบตามโครงการที่ยื่นขอส่งเสริมแล้ว
3. แต่หากบริษัทชี้แจงเหตุผลที่เชื่อได้ว่า กำลังผลิตหรือกรรมวิธีการผลิตยังไม่ครบถ้วนตามที่ได้รับส่งเสริม เช่น คำนวณกำลังผลิตของเครื่องจักรผิดพลาด สูงเกินกว่าที่ผลิตได้จริง ทำให้มีกำลังผลิตยังไม่ครบตามโครงการ หรือมีการผลิตสินค้ารุ่นใหม่/มาตรฐานใหม่ ซึ่งต้องมีนำเข้าเครื่องตรวจสอบชนิดใหม่เพิ่มเติม ก็เป็นเหตุผลที่สามารถอนุมัติให้ขยายเวลานำเข้าเครื่องจักรได้
บริษัทฯ ได้ขอแก้ไขและได้รับอนุมัติขั้นตอนการนำเครื่องจักรไปว่าจ้างผู้อื่นผลิตชิ้นงานให้แล้วนำชิ้นงานกลับมาผลิตต่อในโครงการ
1. บริษัทต้องยื่นขออนุญาตนำเครื่องจักรไปให้บุคคลอื่นใช้อีกหรือไม่
2. กรณีต้องขออนุญาตตามข้อ 1 และเจ้าหน้าที่อนุมัติแล้ว การอนุมัติจะมีผลย้อนไปถึงวันที่ยื่นคำขอหรือไม่ (ในกรณีที่บริษัทจะนำเครื่องจักรออกไป ณ วันที่ยื่นคำขอ)