1.หากบริษัทนำเข้าเครื่องจักรมาในช่วงที่ได้รับสิทธิประโยชน์การยกเว้นภาษีอากร โดยได้ชำระภาษีอากรไว้ บริษัทสามารถยื่นขออนุมัติสั่งปล่อยคืนอากรได้ แต่ต้องไม่เกิน 1 ปี นับจากวันที่สิ้นสุดระยะเวลานำเข้าเครื่องจักร ตามประกาศ สกท ที่ ป.4/2556 ข้อ 8.1
2.การขอคืนอากรเครื่องจักร จะเป็นช่วงที่ยังไม่เริ่มการผลิตก็ได้
3.การติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ BOI ขอให้ติดต่อโดยตรงกับกองบริหารการลงทุนของ BOI ที่รับผิดชอบประเภทอุตสาหกรรมที่บริษัทได้รับการส่งเสริม
ผู้ที่จะได้รับการส่งเสริม
จะต้องเป็นบริษัท สหกรณ์ หรือมูลนิธิที่จดทะเบียนในประเทศไทยเท่านั้น ทั้งนี้หากยังไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท
สามารถยื่นคำขอรับการส่งเสริมในนามบุคคลก่อนก็ได้ แล้วจึงจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทหลังจากได้รับหนังสือแจ้งมติให้การส่งเสริมการลงทุน
และจดทะเบียนบริษัทให้เรียบร้อยภายใน 6 เดือนก่อนยื่นขอรับบัตรส่งเสริมการลงทุน
กรณีที่ผู้ได้รับส่งเสริมลงทุนในหลายกิจการ
ทั้งที่ได้รับส่งเสริมหรือไม่ได้รับการส่งเสริมก็ตาม
ผู้ได้รับส่งเสริมจะต้องควบคุมการใช้สิทธิประโยชน์ให้จำกัดอยู่ภายในโครงการที่ได้รับส่งเสริมเท่านั้น เช่น
จะต้องแยกบัญชีรายรับ-รายจ่ายของแต่ละโครงการ เพื่อให้สามารถคำนวณกำไรสุทธิที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลของแต่ละโครงการได้อย่างถูกต้อง
เป็นต้น
เมื่อสิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากรของแต่ละโครงการสิ้นสุดลง
ผู้ได้รับส่งเสริมอาจขอรวมโครงการที่ได้รับส่งเสริมเข้าด้วยกันก็ได้
เพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการภายในบริษัท
ทั้งนี้โครงการที่ได้รับการส่งเสริมแต่ละโครงการ
อาจได้รับสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกัน
หรืออาจจะมีกำหนดเริ่มต้นและสิ้นสุดแตกต่างกัน
อีกทั้งสิทธิประโยชน์ของแต่ละบัตรส่งเสริม
ก็จะต้องใช้เฉพาะโครงการที่ได้รับส่งเสริมนั้นๆ เท่านั้น
ดังนั้น
ผู้ที่ได้รับส่งเสริมหลายโครงการ
จึงต้องควบคุมการใช้สิทธิและประโยชน์ของแต่ละโครงการแยกออกจากกันโดยเคร่งครัด
และบางครั้งจึงเป็นภาระต่อการควบคุมการใช้สิทธิประโยชน์ทั้งในด้านบุคลากร ระยะเวลา
และค่าใช้จ่าย
ผู้ได้รับส่งเสริมอาจขอรวมบัตรส่งเสริม
2 ฉบับ หรือหลายฉบับเข้าด้วยกัน
เพื่อลดภาระในการบริหารจัดการด้านสิทธิประโยชน์
และเพื่อทำให้การใช้เครื่องจักรของแต่ละโครงการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดได้
โดยมีแนวทางการพิจารณา ดังนี้
1.
ควรเป็นโครงการที่เปิดดำเนินการเต็มโครงการแล้ว
และ
2.
ควรเป็นโครงการที่สิ้นสุดระยะเวลาการได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีเงินได้นิติบุคคลแล้ว
กรณีที่ผู้ได้รับส่งเสริมประสงค์จะรวมโครงการที่ยังเปิดดำเนินการไม่เต็มโครงการ
หรือสิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากรยังไม่สิ้นสุดลง จะอนุญาตให้รวมโครงการได้
โดยผู้ได้รับส่งเสริมจะต้องยินยอมสละสิทธิประโยชน์ให้เหลือเท่ากับโครงการที่มีสิทธิประโยชน์น้อยที่สุด
ดังนี้
นอกเหนือจากการรวมโครงการแล้ว ผู้ได้รับส่งเสริมอาจขอรวมบัญชีปริมาณสต๊อควัตถุดิบของแต่ละโครงการเข้าด้วยกันโดยไม่ต้องรวมบัตรส่งเสริมก็ได้ ซึ่งจะช่วยลดภาระในการควบคุมการใช้สิทธิประโยชน์การนำเข้าและตัดบัญชีวัตถุดิบของแต่ละโครงการได้
โครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนที่ผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก
จะได้รับสิทธิและประโยชน์ยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบและวัสดุจำเป็นที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ
เพื่อใช้ผลิต ผสม ประกอบเป็นผลิตภัณฑ์หรือผลิตผลเพื่อส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศ
ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด พร้อมกับจะได้รับค้ำประกันภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย
ทั้งนี้
วัตถุดิบที่นำเข้ามาโดยใช้สิทธิประโยชน์ยกเว้นอากรขาเข้านี้
จะต้องใช้ในโครงการที่ได้รับส่งเสริมเพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ตามที่ระบุไว้ในบัตรส่งเสริม
และส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศเท่านั้น
กรณีที่นำไปผลิตจำหน่ายในประเทศ
หรือไม่สามารถส่งออกได้ ผู้ได้รับส่งเสริมจะต้องเสียภาษีอากรวัตถุดิบตามสภาพ ณ
วันนำเข้า พร้อมเงินเพิ่มและเบี้ยปรับตามกฎหมายศุลกากร อีกทั้งจะต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม
พร้อมเงินเพิ่มและเบี้ยปรับอีกด้วย
- ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 13 ปี
(มาตรา 31)
- ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 50
(มาตรา 35 (1))
- ยกเว้น/ลดหย่อนอากรขาเข้าสำหรับเครื่องจักร
(มาตรา 28/29)
- ลดหย่อนอากรขาเข้าสำหรับวัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็น
(มาตรา 30)
- ยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับของที่นำเข้ามาเพื่อใช้ในการวิจัยและพัฒนา
(มาตรา 30/1)
- ให้หักค่าขนส่ง ค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา
เป็นสองเท่า (มาตรา 35 (2))
- ให้หักค่าติดตั้งหรือก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้นร้อยละ
25
(มาตรา 35 (3))
- ยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็นสำหรับการผลิตเพื่อการส่งออก
(มาตรา 36)
การได้สิทธิประโยชน์ดังกล่าวขึ้นอยู่กับประเภทกิจการและเงื่อนไขของโครงการที่ได้รับการส่งเสริม
ตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2508 บุคคลที่มีสัญชาติไทย
และนิติบุคคลที่มีสัญชาติไทย (บุคคลหรือนิติบุคคลที่มีสัญชาติไทยถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ
51 ของทุนจดทะเบียน)
เท่านั้น จึงจะสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินได้
ยกเว้นกรณีบริษัทต่างชาติ
(มีหุ้นไทยต่ำกว่าร้อยละ 51 ของทุนจดทะเบียน)
ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนตาม พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ.2520
จะได้รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรา 27 ให้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อประกอบกิจการที่ได้รับส่งเสริมได้
ซึ่งนอกจากจะใช้ที่ดินดังกล่าวเพื่อใช้สร้างอาคารโรงงานแล้ว
ยังสามารถใช้สร้างเป็นสำนักงาน และที่พักอาศัยของพนักงานได้อีกด้วย แต่ต้องอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับอาคารโรงงาน
อนึ่ง ที่ดินซึ่งได้รับอนุมัติให้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน
จะต้องใช้ในกิจการที่ได้รับส่งเสริมเท่านั้น
กรณีที่บริษัทยกเลิกกิจการ
จะต้องจำหน่ายที่ดินดังกล่าวภายใน 1 ปีนับจากวันที่เลิกกิจการ
แต่หากไม่ดำเนินการภายในเวลาที่กำหนด อธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจจำหน่ายที่ดินนี้ได้ตามบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน
พ.ศ. 2520 ได้บัญญัติสิทธิและประโยชน์ในการถือครองกรรม
สิทธิที่ดินไว้ตามมาตรา 27 ดังนี้
มาตรา 27
ให้ได้รับอนุญาตให้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินตามจำนวนที่คณะกรรมการพิจารณาเห็นสมควร
ทั้งนี้ ที่ดินที่จะได้รับอนุญาตให้ถือกรรมสิทธิ์ตามบัตรส่งเสริม
จะต้องใช้เพื่อประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริมเท่านั้น
เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากคณะกรรมการก่อน
เมื่อผู้ได้รับการส่งเสริมเลิกกิจการ
ให้บริษัทจำหน่ายที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินภายใน 1 ปี นับแต่วันที่เลิกกิจการนี้
ถ้าผู้ได้รับการส่งเสริมฝ่าฝืน
อธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจจำหน่ายที่ดินนี้ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
เป้าหมายส่งเสริมการลงทุนตามประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่
2/2557
1. ส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาการสร้างนวัตกรรม
การสร้างมูลค่าเพิ่มของภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ และการส่งเสริม
วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
ตลอดจนส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรม และการลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม
2. ส่งเสริมกิจการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีการประหยัดพลังงานหรือใช้พลังงานทดแทน
เพื่อการเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน
3. ส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มของการลงทุน (Cluster) ที่สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่
และสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่มูลค่า
4. ส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นที่เกื้อกูลต่อการสร้างความมั่นคงในพื้นที่
5. ส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนทั้งในและนอกนิคมอุตสาหกรรม
เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน และรองรับการรวมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
6. ส่งเสริมการลงทุนของไทยในต่างประเทศ เพื่อพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไทย
และเพิ่มบทบาทของประเทศไทยในเวทีโลก
สำนักงานไม่ให้การส่งเสริมนำกิจการโรงแรมเที่ดำเนินการอยู่แล้วมาขอรับการส่งเสริม กรณีการใช้อาคารเก่าหรือโครงการเดิมมายื่นขอรับการส่งเสริม จะต้องปิดกิจการเดิม และหยุดการใช้อาคารดังกล่าว และเสนอแผนการลงทุนใหม่โดยจะต้องไม่รวมค่าสิ่งปลูกสร้างเดิมในเงินลงทุน และจะต้องมีการลงทุนงานระบบใหม่ เช่น ลิฟท์ ระบบไฟฟ้า ระบบประปา และงานระบบอื่นๆ เป็นต้น โดยวงเงินลงทุนใหม่ต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 2 ล้านบาทต่อห้อง ทั้งนี้ หากโครงการตั้งอยู่ใน 20 จังหวัดรายได้ต่อหัวต่ำ ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี การนับ Cap วงเงินยกเว้นภาษี จะไม่รวมสิ่งปลูกสร้างเดิม
สำนักงานขอสงวนสิทธิในการพิจารณา
กรณีใช้อาคารหรือกิจการเดิมมาปรับทำกิจการโรงแรมเป็นรายกรณี
และอาจเพิ่มเงื่อนไขให้จัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเสมือนหนึ่งเป็นโครงการกิจการโรงแรมทั่วไป
สำนักงานให้ความสำคัญกับการสร้างอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศเป็นอย่างมาก
และต้องการให้เกิดการลงทุนครบสายการผลิตในประเทศไทย จึงออกมาตรการส่งเสริมพิเศษ
ตามประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 5/2560 เพื่อให้ส่งเสริมทั้งการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า และสถานีอัดประจุไฟฟ้า
รายละเอียดผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในข่าย มีดังนี้
1.
รถยนต์ไฟฟ้า ได้แก่ Hybrid
Electric Vehicles, Plug-in Hybrid Electric Vehicles, Battery Electric Vehicles
2.
อุปกรณ์ เช่น Battery,
Traction Motor, ระบบปรับอากาศ, BMS, DCU, Converter,
On-board Charger, สายชาร์จพร้อมเต้ารับ-เต้าเสียบ, DC/DC
Converter, Inverter, Portable Electric Vehicle Charger, Electrical Circuit
Breaker, Smart Charging System, คานหน้าคานหลังสำหรับรถโดยสารไฟฟ้า
เป็นต้น
3.
สถานีบริการอัดประจุไฟฟ้า
หากบริษัทมีหุ้นต่างชาติ ระบบฯ จะให้กรอกชื่อผู้ถือหุ้นต่างชาติเฉพาะรายที่ถือหุ้นตั้งแต่ร้อยละ 10 ขึ้นไปเท่านั้น (รายใดถือหุ้นไม่ถึงร้อยละ 10 ไม่ต้องกรอก) แต่หากบริษัทไม่มีผู้ถือหุ้นต่างชาติรายใดถือหุ้นตั้งแต่ร้อยละ 10 ขึ้นไปเลย ให้ลบรายการที่รอให้บันทึกออก
หากบริษัทมีบัตรส่งเสริมฯ ถือว่าเป็นผู้ได้รับการส่งเสริมที่ยังต้องรายงานผลการดำเนินงานประจำปี
ให้กรอก ‘0’ ในส่วนที่ยังไม่มีข้อมูล และโปรดแนบหนังสือบริษัทชี้แจงเหตุผลในระบบฯ เช่น บริษัทเพิ่งจัดตั้งยังไม่มีข้อมูลในส่วนนี้
ให้กรอก ‘0’ ในส่วนที่ยังไม่ข้อมูล และให้แนบหนังสือบริษัทชี้แจงเหตุผล เช่น พนักงานเป็นของบริษัทแม่ว่าจ้างบริษัทอื่นดำเนินการ (Outsource) หรือ กฎหมายมีข้อยกเว้นไม่ต้องยื่น ภ.ง.ด.1ก เป็นต้น
หลังจากยื่นคำขอรับการส่งเสริมแล้ว
ผู้ขอรับการส่งเสริมจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ประจำกองบริหารการลงทุนซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบคำขอนั้นๆ
เพื่อนัดหมายกำหนดวันชี้แจงโครงการ
จากนั้น
ผู้ขอรับการส่งเสริมจะต้องเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ
เพื่อชี้แจงรายละเอียดของโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน
หรืออาจมอบหมายให้ผู้อื่นไปชี้แจงโครงการแทนก็ได้
ในการชี้แจงโครงการ
ผู้ขอรับการส่งเสริมควรนำบุคคลที่มีความเข้าใจรายละเอียดของโครงการที่ขอรับการส่งเสริม
ทั้งในด้านการผลิต การเงิน และการตลาด ร่วมเดินทางไปชี้แจงโครงการด้วย
เนื่องจากจะทำให้การชี้แจงโครงการมีความถูกต้องชัดเจน
และจะทำให้การพิจารณาคำขอรับการส่งเสริมเป็นไปโดยสะดวกรวดเร็วมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ข้อมูลในคำขอรับการส่งเสริมไม่ชัดเจนหรือไม่ถูกต้อง
ผู้ขอรับการส่งเสริมสามารถแก้ไขข้อมูลดังกล่าวได้โดยเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้ติดต่อและแจ้งรายละเอียดที่ต้องการเพิ่มเติมให้ทราบอีกครั้ง
หลังจากการชี้แจงโครงการสิ้นสุดลง
เจ้าหน้าที่จะสรุปรายงานการขอรับส่งเสริมการลงทุนดังกล่าว และนำเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
คณะอนุกรรมการฯ หรือคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนตามขนาดการลงทุนของโครงการนั้นๆ
โดยมีกำหนดแล้วเสร็จภายใน 40-90 วันทำการ ดังนี้
ให้เลือก ISO 9000 และ ISO 14000 เนื่องจาก ISO 9001 และ ISO 14001 เป็นเพียงอนุกรมมาตรฐานที่อยู่ภายใต้ ISO 9000 และ ISO 14000 ตามลำดับ
โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง โดยอาจต้องแสดงหลักฐานเพื่อยืนยันสถานะบัตรส่งเสริม เช่น สำเนาใบอนุญาตเปิดดำเนินการ
เครื่องจักรเก่า ในความหมายของ BOI หมายถึงเครื่องจักรที่เคยมีการใช้งานเชิงพาณิชย์แล้ว
หากเป็นเครื่องจักรใหม่ที่เก็บไว้นาน ยังคงถือว่าเป็นเครื่องจักรใหม่ กรณีที่สอบถาม บริษัทจะนำเข้าเครื่องจักรเก่า จึงจะต้องยื่นขออนุมัติบัญชีรายการเครื่องจักรเพิ่มเติมโดยชื่อที่จะขออนุมัติจะต้องระบุ Model และปีที่ผลิตด้วย เช่น Used Grinding Machine Serial No. 1234 Year of MFG 2015 และจะต้องแนบใบรับรองประสิทธิภาพเครื่องจักรเก่าซึ่งมีรายละเอียดตามที่ BOI กำหนดด้วย
เครื่องจักร (รวมถึงอุปกรณ์ และชิ้นส่วนต่าง ๆ) ทุกรายการ ที่นำเข้าโดยใช้สิทธิยกเว้นภาษีอากรตามมาตรา 28 จะต้องแสดงในแบบคำขอเปิดดำเนินการ
ข้อ 2 รายละเอียดเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ติดตั้งใช้ในโครงการ ให้ครบทุกรายการ เว้นแต่รายการที่ได้รับอนุมัติให้ส่งคืน/จำหน่าย/ทำลาย และตัดบัญชีเครื่องจักรไปแล้ว แต่เครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ ที่นำเข้าโดยใช้สิทธิฯ อาจจะไม่อยู่ในทะเบียนสินทรัพย์ของบริษัทก็ได้ ขึ้นอยู่กับนโยบายทางการบัญชีของบริษัทนั้นๆ เช่น รายการที่มีมูลค่าต่ำกว่า 3,000 บาท จะไม่บันทึกเป็นสินทรัพย์ เป็นต้น
กรณีที่สอบถาม บริษัทไม่มีความจำเป็นต้องชำระภาษีเครื่องจักรที่ไม่อยู่ในทะเบียนสินทรัพย์ แต่ขอให้ปรึกษากับจนท BOI ที่รับผิดชอบในการตรวจสอบเปิดดำเนินการโครงการของบริษัท เพื่อขอคำแนะนำในการเตรียมเอกสารและข้อมูลเพื่อชี้แจงตามข้อเท็จจริง