Chat
x
toggle menu
toggle menu

Select Groups

All Group
  • All Group
  • นโยบายเเละมาตรการพิเศษในการส่งเสริม
  • การขอรับการส่งเสริมการลงทุน
  • การออกบัตรส่งเสริม
  • การเปิดดำเนินการ
  • การเเก้ไขโครงการ
  • การดำเนินการอื่น ๆ
  • การรายงานความคืบหน้าโครงการ (e-Monitoring)
  • การปฏิบัติหลังการได้รับการส่งเสริม
  • การยกเลิกบัตรส่งเสริม
  • เรื่องทั่วไป
  • การใช้สิทธิด้านที่ดิน
  • การใช้สิทธิด้านเครื่องจักร
  • การใช้สิทธิด้านช่างฝีมือ/ต่างด้าว
  • การใช้สิทธิด้านวัตถุดิบ
  • ประเภทกิจการ - การแพทย์
  • การใช้สิทธิด้านภาษีเงินได้นิติบุคคล
  • ประเภทกิจการ - รถยนต์ไฟฟ้า
  • ประเภทกิจการ - ศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ (IBC) IPO และ TISO
  • ประเภทกิจการ - โรงแรม
  • ประเภทกิจการ - ผลิตผลิตภัณฑ์โลหะรวมทั้งชิ้นส่วนโลหะ
  • ประเภทกิจการ - กิิจการผลิิตเครื่่องจัักร อุุปกรณ์์และชิ้นส่่วน
  • ประเภทกิจการ - กิิจการศููนย์์กระจายสิินค้้าระหว่่าง ประเทศด้้วยระบบที่่ทัันสมััย (IDC)
การควบรวมกิจการ

เมื่อบริษัท A และบริษัท B ควบรวมกิจการเข้าด้วยกันเป็นบริษัทไม่ว่าจะใช้ชื่อเป็น A หรือ B หรือ C ก็ตาม ในทางกฎหมายถือเป็นคนละนิติบุคคลกับบริษัทเดิมที่ก่อนจะควบรวมกิจการ ดังนั้น บัตรส่งเสริมของบริษัท A และ B จึงจะสิ้นสุดอายุไปในเวลา 3 เดือนนับจากวันที่ควบรวมกิจการด้วยเช่นกัน

 

กรณีที่บริษัทที่เกิดขึ้นใหม่จากการควบรวมกิจการ ประสงค์จะเป็นผู้ได้รับส่งเสริมในกิจการเดิมของบริษัท A และ B จะต้องยื่นขอรับโอนกิจการจากบริษัท A และ B เช่นเดียวกับกรณีของการโอนและรับโอนกิจการข้างต้น

 

ทั้งนี้หากบริษัท C ที่คาดว่าจะขอรับการส่งเสริมเพื่อควบรวมกิจการยังไม่มีการจัดตั้ง ณ วันที่ยื่นขอรับการส่งเสริม สามารถยื่นขอในนามบุคคลธรรมดาได้ แต่ควรระบุชื่อบริษัทที่คาดว่าจะจัดตั้งในคำขอรับการส่งเสริมด้วย

บริษัท C จะต้องยื่นคำขอรับการส่งเสริมเพื่อขอรับโอนกิจการดังกล่าว โดยคณะกรรมการจะพิจารณาให้ได้รับสิทธิประโยชน์เท่าที่ยังเหลืออยู่เดิม

ขั้นตอนการขอรับโอนกิจการในกรณีที่ผู้รับโอนเป็นบริษัทที่เกิดใหม่จากการควบรวมกิจการ มีขั้นตอนและแนวทางพิจารณาเช่นเดียวกันกับการโอน – รับโอนกิจการตามปกติ

ข้อควรระวังในการควบรวมกิจการ

ควรจะต้องยื่นขอรับการส่งเสริมก่อนที่การควบรวมกิจการมีผล เนื่องจากผลกำไรของรายได้ที่จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากจากกิจการที่มีการควบรวมกิจการจะมีผลตั้งแต่วันอนุมัติขอรับการส่งเสริมควบรวมกิจการ

หากอนุมัติภายหลังหรือยื่นภายหลังเกิดการควบรวมกิจการแล้ว  รายได้ในช่วงระหว่างยื่นเรื่องถึงวันก่อนอนุมัติจะไม่สามารถยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้

การใช้สิทธิประโยชน์ยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบ ตามมาตรา 36 มีขั้นตอนการดำเนินการอย่างไร

1. บริษัทต้องสมัครเป็นสมาชิกสมาคมสโมสรนักลงทุน (IC) พร้อมทั้งขอรหัสโครงการเพื่อใช้ในระบบการสั่งปล่อยวัตถุดิบด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (RMTS)

2. บริษัทสามารถขออนุมัติบัญชีปริมาณสต๊อกสูงสุดได้โดยขอรับแบบฟอร์มจากสำนักงานไปดำเนินการ หรือ Download โดยใช้แบบฟอร์ม F IN RM 13 และ ตัวอย่างที่ 19

3. เมื่อเรื่องได้รับการอนุมัติปริมาณสต๊อคแล้ว จะต้องนำเอกสารอนุมัตินั้นไปบันทึกในระบบฐานข้อมูลของสมาคมสโมสรนักลงทุน (IC) เพื่อใช้อ้างอิงในการสั่งปล่อยวัตถุดิบโดยระบบ RMTS ต่อไป

แนวทางในการพิจารณาในการขอถือกรรมสิทธิ์ที่ดินของชาวต่างชาติเพื่อเป็นสถานที่ตั้งโรงงานมีอะไรบ้าง

ผู้ได้รับส่งเสริมที่เป็นนิติบุคคลต่างชาติ สามารถขอถือกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อใช้เป็นสถานที่ตั้งโรงงานได้ โดยมีแนวทางพิจารณา ดังนี้

- ตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้นและสัดส่วนผู้ถือหุ้นว่า ต้องเป็นหุ้นต่างชาติข้างมาก

- ต้องเป็นที่ดินในจังหวัดและนิคมอุตสาหกรรม ตามเงื่อนไขสถานที่ตั้งโรงงานที่ระบุในบัตรส่งเสริม

- ต้องมีขนาดของที่ดินเหมาะสมกับขนาดของกิจการที่ได้รับการส่งเสริม

- กรณีที่ขอถือกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อรองรับการขยายกิจการในอนาคต จะต้องเสนอรายละเอียดของแผนการขยายโครงการในอนาคตด้วย

- กิจการที่อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และจำเป็นต้องใช้ที่ดินจำนวนมากเพื่อก่อสร้างระบบป้องกันหรือบำบัดปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น ระบบบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น จะอนุญาตให้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินในปริมาณที่เพียงพอต่อการก่อสร้างดังกล่าวด้วย

ร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2560 จะมีผลกระทบต่อบริษัทฯ ที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI หรือไม่อย่างไร

พรบ ส่งเสริมการลงทุน มาตรา 27 ผู้ได้รับการส่งเสริมจะได้รับอนุญาตให้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินเพื่อประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามจำนวนที่คณะกรรมการพิจารณาเห็นสมควร แม้ว่าจะเกินกำหนดที่จะพึงมีได้ตามกฎหมายอื่น

ในกรณีที่ผู้ได้รับการส่งเสริมซึ่งเป็นคนต่างด้าวตามประมวลกฎหมายที่ดินเลิกกิจการที่ได้รับการส่งเสริมหรือโอนกิจการนั้นให้แก่ผู้อื่น ผู้ได้รับการส่งเสริมต้องจำหน่ายที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ถือกรรมสิทธิ์ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่เลิกหรือโอนกิจการ มิฉะนั้นให้อธิบดีที่ดินมีอำนาจจำหน่ายที่ดินนั้นตามประมวลกฎหมายที่ดิน

สิทธิประโยชน์ด้านที่ดิน ตาม พรบ.ส่งเสริมการลงทุน เป็นการอนุญาตให้ต่างชาติซึ่งไม่มีสิทธิหรือถูกจำกัดสิทธิการถือครองที่ดิน สามารถถือกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ ตามที่ BOI เห็นสมควร ทั้งนี้สิทธิในการถือครองที่ดินนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องภาษีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

บริษัทฯ ได้รับการส่งเสริมประเภทกิจการ 5.5 กิจการผลิตชิ้นส่วนและหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ฯ โดยมีขั้นตอนบางขั้นส่วน บริษัทฯ สามารถนำวัตถุดิบ แม่พิมพ์ ไปว่าจ้างผู้อื่นผลิตให้ได้ บริษัทฯ ขอสอบถามดังนี้ 1) กรณี วัตถุดิบเป็นของบริษัทฯ ผู้รับจ้างผลิต(เป็นบริษัท ได้รับสิทธิ BOI) ถ้ามี ปริมาณวัตถุดิบคงค้างหรือเหลืออยู่ เพราะบริษัท ผู้รับจ้างผลิตนำเข้ามาโดยใช้สิทธิฯ ของ BOI ปัจจุบัน บริษัทฯ กำลังจะยกเลิกการว่าจ้างผลิตจากบริษัทผู้รับจ้างผลิต บริษัทฯ สามารถทำเรื่องโอน- รับวัตถุดิบ จากบริษัท ผู้รับจ้างผลิตได้หรือ และถ้าได้ควรทำอย่างไร 2) การโอน - รับ วัตถุดิบ บริษัทฯต้องซื้อในราคาปกติ เหมือนตอนที่บริษัทผู้รับจ้างผลิตนำเข้ามารึเปล่า 3) กรณี ไม่สามารถทำเรื่องโอน - รับ วัตถุดิบได้ บริษัทฯ ต้องรับซื้อวัตถุดิบเป็น Non BOI ใช่หรือไม่ 4) การซื้อ - ขาย วัตถุดิบที่เป็น Non - BOI มีค่าภาษีอะไรบ้าง

1,3,4. กรณีผู้รับจ้าง คือ A (BOI) นำวัตถุดิบเข้ามาโดยใช้สิทธิ ม.36 เพื่อผลิตจำหน่ายให้ B (BOI) แต่ต่อมามีการยกเลิกสัญญาจ้างผลิต ทำให้มีวัตถุดิบเหลือค้างที่ A หากวัตถุดิบดังกล่าวเป็นกล่าวเป็น spec ที่ใช้สำหรับผลิตสินค้าของ B ซึ่ง A ไม่สามารถนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น A และ B สามารถยื่นขอโอน/รับโอนวัตถุดิบได้ แต่ทั้งนี้ B ต้องได้รับอนุมัติบัญชีวัตถุดิบที่มีรายการวัตถุดิบเดียวกันนั้นด้วย จึงจะรับโอนได้

2. BOI ไม่มีข้อกำหนดเรื่องราคาที่จะโอน/รับโอน

กรณีนี้ ข้อเท็จจริงเป็นการโอนวัตถุดิบเนื่องจากยกเลิกสัญญาจ้าง การจะกำหนดราคาอย่างไร ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยตรง

3. การโอนวัตถุดิบ (โอนยอดในระบบ RMTS) สามารถโอนได้ หากชื่อวัตถุดิบของผู้โอนและผู้รับโอนตรงกัน

สำนักงานให้บริการอะไรบ้าง

1. ให้ความช่วยเหลือด้านการขอรับส่งเสริมการลงทุน

- ให้คำปรึกษาในการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนทั้งรายใหม่และรายเดิมที่ต้องการขยายการลงทุน 

- ให้คำแนะนำในการดำเนินการต่างๆ เช่น การเตรียมข้อมูลสำหรับการขอรับส่งเสริมการลงทุน การขอวีซ่าและใบอนุญาตทำงานสำหรับชาวต่างชาติ การขอใบอนุญาตจากหน่ายงานของรัฐอื่นๆ ที่

2. บริการจับคู่ธุรกิจ 

- บริการฐานข้อมูลผู้ร่วมลงทุน โดยสามารถสืบค้นข้อมูลได้จากเว็บไซต์สำนักงาน และสามารถฝากข้อมูลเพื่อ ประกาศหาผู้ร่วมลงทุนได้

ให้บริการคำปรึกษาและจัดอบรมแก่นักลงทุนที่สนใจไปลงทุนในต่างประเทศ

3. กองพัฒนาและเชื่อมโยงการลงทุน (Industrial Linkage Development Division) ให้บริการดังนี้

- เชื่อมโยงผู้ประกอบการในการสร้างเครือข่ายทางการค้าและธุรกิจ

- สร้างซัพพลายเออร์ และพัฒนาความสามารถของผู้ประกอบการไทย

- เสริมช่องทางการตลาดให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขยายตลาดได้มากขึ้นทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

- แนะนำช่องทางการค้าและการลงทุน เพื่อเปิดโอกาสร่วมลงทุนระหว่างผู้ประกอบการไทยด้วยกันและระหว่างผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ

4. อำนวยความสะดวกในการขอวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน 

- รับคำขอ อนุมัติ/อนุญาต รวมถึงการให้คำแนะนำในการกรอกคำขอ

- ดำเนินการเรื่องช่างฝีมือ การบรรจุตัวช่างฝีมือ ผู้ชำนาญการและครอบครัว

5. ให้บริการศูนย์บุคลากรทักษะสูง (Strategic Talent Center- STC) 

สนใจเพิ่มเติมโปรดติดต่อที่ โทรศัพท์: 0 2209 1100 อีเมล์: stc@boi.go.th

กิจการโรงแรมสามารถถือหุ้นโดยต่างชาติข้างมากได้หรือไม่
กิจการโรงแรมที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนต่างชาติสามารถถือหุ้นได้ 100%
การยื่นขอส่งเสริมการลงทุนจะต้องมีแบบฟอร์มหรือเอกสารเพิ่มเติมอย่างใดบ้าง

การยื่นขอส่งเสริมเพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจะต้องยื่นเอกสาร ดังนี้

1. แบบฟอร์มขอรับการส่งเสริม ทั่วไป (F PA PP 01-06)

2. แผนงานรวม (Package) ที่ประกอบด้วย โครงการประกอบรถยนต์และโครงการผลิตหรือใช้ชิ้นส่วนสำคัญ แผนการนำเข้าเครื่องจักรและติดตั้ง แผนการผลิตรถยนต์ปีที่ 1-3 แผนการผลิตหรือจัดหาชิ้นส่วนอื่นๆ แผนการจัดการแบตเตอรี่ใช้แล้ว และแผนการพัฒนาผู้ผลิตวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนในประเทศ (Local Supplier) ที่มีผู้มีสัญชาติไทยถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 ในการฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีและการให้ความช่วยเหลือทางเทคนิค

3. เอกสารแนบเกี่ยวกับเงื่อนไขอื่นๆ ของประเภทกิจการ เช่น ข้อมูลผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต เครื่องจักรและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงแผนการผลิตและตลาด เป็นต้น

GMP หรือ GMP/PICS คืออะไร

เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตให้ทัดเทียมกับประเทศคู่แข่งขันในระดับสากล จึงเป็นที่มาที่ทำให้ผู้ประกอบการไทย รวมถึงหน่วยงานรัฐในฐานะผู้กำกับดูแลต้องปรับตัวให้ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยมาตรฐาน GMP ตามแนวทาง PIC/S ได้ออกเป็นประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการในการผลิตยาแผนปัจจุบันตามกฎหมายว่าด้วยยา พ.ศ. 2554 ลงวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2554 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว ณ ปัจจุบัน

มาตรฐานการผลิตที่ดี Good Manufacturing Practice: GMP ในอุตสาหกรรมยา

องค์การเภสัชกรรม ได้ให้คำนิยามสำหรับหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตยา หรือ Good Manufacturing Practice (GMP) ไว้ว่า คือ ข้อกำหนด ระเบียบ แบบแผน และวิธีปฏิบัติที่นำมาใช้ในการผลิตที่ดีและได้สินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐาน ซึ่งครอบคลุมถึง สถานที่ผลิต อุปกรณ์เครื่องจักร บุคลากร วัสดุ เอกสารต่างๆ และสิ่งอื่นที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการการผลิตทุกขั้นตอน

PICS หรือ Pharmaceutical Inspection Cooperation Scheme

กำหนดโดยองค์กรสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association หรือ EFTA) ประกอบไปด้วยประเทศสมาชิกเริ่มต้นทั้งหมด 18 ประเทศ เพื่อมีข้อตกลงร่วมกันในการตรวจสอบการผลิตยา ภารกิจหลักของ PICS คือเป็นศูนย์รวมและผู้สนับสนุนหลักให้ประเทศสมาชิกในการดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตยา เช่น การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ข้อมูล องค์ความรู้ด้าน GMP ทำหน้าที่ในการรายงาน ตรวจสอบ จัดประชุม จัดการอบรมให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบ GMP (GMP Auditor/Inspector) พัฒนาปรับปรุงเอกสารคู่มือต่างๆ ในการผลิตยา รวมไปถึงการส่งเสริมการจัดตั้งเครือข่ายและเสริมสร้างความเชื่อมั่นระหว่างประเทศสมาชิกและส่งเสริม International Harmonization ในด้าน GMP

สำนักงานได้ให้ความสำคัญกับการลงทุนเพื่อยกระดับมาตรฐานดังกล่าวเป็นอย่างมาก โดยได้กำหนดมาตรฐานดังกล่าวเป็นเงื่อนไขในการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตยาทั้งแผนปัจจุบันและแผนโบราณด้วย ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนและแบ่งเบาภาระในการลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในประเทศไทย

บริษัทเพิ่งจัดตั้งยังไม่มีงบการเงินให้กรอกข้อมูลอย่างไร

ให้กรอก ‘0’ ในส่วนที่ยังไม่มีข้อมูล และโปรดแนบหนังสือบริษัทชี้แจงเหตุผลในระบบฯ เช่น บริษัทเพิ่งจัดตั้งจึงยังไม่มีข้อมูลในส่วนนี้

บริษัทจะขอแก้ไขข้อมูลที่กรอกแล้วได้หรือไม่

สามารถแก้ไขข้อมูลได้ ถ้ายังไม่ได้กดปุ่ม ‘ส่งข้อมูล’ แต่หากส่งข้อมูลแล้ว โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์ เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 1-7 หรือกองบริหารการลงทุน 1-5 เพื่อดำเนินการส่งข้อมูลคืนให้แก้ไข ทั้งนี้ เมื่อ แก้ไขแล้ว ต้องกดปุ่ม ‘ส่งข้อมูล’ อีกครั้ง

บริษัทมีแยกยื่น ภ.ง.ด. 50 หลายฉบับ เนื่องจากประกอบกิจการ เช่น ขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่าง ประเทศ บริษัทการค้าระหว่างประเทศ (ITC) สำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ (IHQ) ให้กรอกข้อมูลและแนบไฟล์ ในระบบฯ อย่างไร

เบื้องต้นให้กรอกมูลค่ารวมจาก ภ.ง.ด.50 ทุกฉบับ และรวมไฟล์ ภ.ง.ด.50 ของทุกฉบับเป็นไฟล์เดียวกันเพื่อแนบในระบบฯ

บริษัทยังไม่ได้จัดเก็บข้อมูลระดับการศึกษาสูงสุดของคนงานไทยเป็นรายบุคคลให้กรอกข้อมูลอย่างไร

ในระยะแรก สามารถประมาณจากระดับการศึกษาที่บริษัทใช้กำหนดคุณสมบัติประจำตำแหน่ง (Job Qualification) ของคนงานไทย ทั้งนี้ ในระยะถัดไปขอให้จัดเก็บและรายงานข้อมูลที่ใกล้เคียงความเป็นจริงมากขึ้น

ถ้าจะสั่งปล่อยเครื่องจักรโดยใช้หนังสือค้ำประกัน จะต้องเขียนคำอธิบายไว้ตรงใบขนสินค้าด้วยไหม เช่น ขอสงวนสิทธิ BOI ประมาณนี้

ในการทำใบขน เข้าใจว่าให้แจ้งชิปปิ้งเพื่อระบุในหมายเหตุว่า ขอสงวนสิทธิ BOI

บริษัทอยู่ระหว่างเลิกกิจการ หรือโครงการอยู่ระหว่างดำเนินการยกเลิกหรือเพิกถอน ยังต้องรายงานความคืบหน้าโครงการอีกหรือไม่

หากโครงการยังยกเลิกหรือเพิกถอนไม่แล้วเสร็จ ถือว่าเป็นโครงการที่ยังต้องรายงานความคืบหน้าโครงการ

โครงการอยู่ในประเภทกิจการที่ไม่มีโรงงาน แต่ใช้อาคาร (ออฟฟิศ) ที่มีอยู่เดิมเพื่อให้บริการหรือประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริม ให้กรอกข้อมูลที่ดินอย่างไร

ให้เลือก ‘เป็นกิจการที่ไม่ต้องใช้ที่ดิน/ใช้ที่ดินเดิม’

กรณีของบริษัทฯ ตรงกับข้อที่ 1 ค่ะ บัตรส่งเสริม 58-.... เครื่องจักรดังกล่าวนำเข้าเมื่อสิงหาคม 2559ทั้งนี้ บริษัทฯ มิได้มีเจตนาในการกระทำผิดเงื่อนไขที่สำนักงานกำหนด แต่ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้ปฏิบัติงาน จึงทำให้เกิดกรณีนี้ขึ้น และบริษัทฯ ไม่อยากให้เกิดข้อที่ 3 จะต้องเปิดดำเนินการปี 2561 และคาดว่าจะขอขยายเปิดดำเนินการ 1 ครั้ง(1ปี)

1.โครงการที่ได้รับส่งเสริมตามนโยบาย (ประกาศที่ 2/2557) จะไม่ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรเก่าหากบริษัทฯ ได้ใช้สิทธิยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรเก่า จะต้องขอชำระภาษีอากรของเครื่องจักรนั้น

2.ขั้นตอนคือ ให้ยื่นคำขอชำระภาษีเครื่องจักร ผ่านระบบ eMT และเลือกประเภทขอชำระภาษีเป็น "ชำระภาษีตามสภาพ ณ วันที่นำเข้า"

1. Asset list เครื่องจักรทางบัญชีลงรายการเครื่องจักรอินวอยซ์นำเข้าแรก รวมเป็น 1 รายการ ซึ่งอินวอยซ์นั้นมีเครื่องจักรหลายชุด ที่ใช้ในการผลิต ทั้ง 2 โครงการที่เราขอรับการส่งเสริม ต้องทำอย่างไร 2. กำลังการผลิตของโครงการที่ 1 กิจการหมวด 6 ของเราเป็นผลิตชิ้นส่วนพลาสติก ได้กำลังการผลิตมา 145,162,000 ชิ้นต่อปี ซึ่งตอนขอ เป็น 24 ชม ต่อปี แต่ความจริงตอนนี้ผลิตแค่ 8-12 ชม มีเฉพาะกะเช้า และการผลิตจริงจะไม่ถึง 80% ตามที่ขอไว้กับบีโอไอ จะต้องดำเนินการอย่างไร 3. โครงการที่ 2 เป็นกิจการหมวด 4 ผลิตชิ้นส่วนแม่พิมพ์ อันนี้ก็มีการผลิตจริงน้อยกว่าที่ขอมากเกรงว่าจะไม่ถึง 80% ทางบีโอไอมีบริการที่ปรึกษาทางด้านนี้ไหม เพื่อที่ทางเราจะได้เตรียมเอกสารดำเนินการก่อนเปิดดำเนินการจริงให้ถูกต้อง และทางนายมีจะนำเครื่องจักรเข้ามาอีก 2 เครื่อง เพราะแจ้งว่าเครื่องจักรที่มีอยู่ ไม่พอจะผลิต ทั้งที่ความจริงถ้าเราเปิดกะ การผลิตจริงๆ ก็น่าจะเพียงพอ เลยกังวลและอยากขอคำปรึกษา

1.ในบัญชีสินทรัพย์จะต้องระบุว่าเครื่องจักรรายการใด ลงบันทึกสินทรัพย์เป็นของโครงการใด เพื่อให้สามารถคำนวณค่าใช้จ่ายของแต่ละโครงการได้อย่างถูกต้อง ดังนั้น แม้ว่าในอินวอยซ์จะมีการซื้อเครื่องจักรของ 2 โครงการเข้ามาพร้อมกัน ก็ไม่มีปัญหาอะไร

2.กรณีที่บัตรส่งเสริมระบุเวลาทำงานเป็น 24 ชั่วโมง แต่บริษัทผลิตจริงเพียง 8 ชั่วโมง หากคำนวณกำลังผลิตต่อ 1 ชั่วโมง แล้วได้เท่ากัน (บวกลบไม่เกิน 20%) ก็ถือว่ามีกำลังตรงตามบัตรส่งเสริม แม้จะผลิตจริงไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็ตาม

3.หากคำนวณกำลังผลิตต่อ 1 ชั่วโมงแล้วได้ไม่ถึง 80% ของกำลังผลิตตามบัตรส่งเสริม ก็จะถูกปรับลดกำลังผลิตในบัตรส่งเสริมให้เหลือเท่ากับกำลังผลิตของเครื่องจักรที่มีอยู่จริง

4.บริษัทสามารถไปติดต่อขอรับคำปรึกษากับ จนท BOI ของกองที่กำกับดูแลกิจการตามประเภทนั้นๆ

5.หากจะนำเครื่องจักรเข้ามาเพิ่ม จะต้องนำเข้ามาภายในระยะเวลาก่อนสิ้นสุดวันครบกำหนดเปิดดำเนินการเต็มโครงการ มิฉะนั้น เครื่องจักรที่นำเข้ามาเพิ่ม จะไม่นับเป็นกำลังผลิตของโครงการนั้น และไม่นับเป็นเงินลงทุนที่จะคำนวณวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลของโครงการนั้น

เครื่องจักรที่ได้รับการส่งเสริมจากโครงการเดิมที่มีอยู่แล้ว สามารถใช้กับโครงการที่จะขอใหม่ได้หรือไม่ โครงการเดิมได้รับการส่งเสริมการลงทุนประเภทกิจการ ผลิตส่วนสำหรับอุปกรณ์โทรคมนาคม ประเภท 5.5 กิจการผลิตชิ้นส่วนและหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือชิ้นส่วนและ/หรืออุปกรณ์ที่ใช้กับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ โครงการใหม่ กิจการ auto part ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์(พลาสติก) บริษัทสามารถใช้เครื่องจักรที่มีอยู่แล้วได้หรือไม่ ถ้าได้ต้องทำอย่างไร หรือต้องนำเข้าเครื่องจักรเข้ามาใหม่ใช้เฉพาะโครงการ Auto part เท่านั้น

การให้การส่งเสริมของ BOI จะให้ส่งเสริมเป็น "รายโครงการ" ไม่ใช่ "รายบริษัท" ดังนั้น ตามหลักเกณฑ์ทั่วไปคือ โครงการแต่ละโครงการที่ขอรับการส่งเสริม จะต้องมีการลงทุนเครื่องจักรแยกกันเป็นรายโครงการ จะใช้เครื่องจักรร่วมกันในหลายโครงการไม่ได้ เหตุผลที่สำคัญข้อหนึ่งคือ เครื่องจักรในโครงการเดิมเคยใช้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ไปแล้วครั้งหนึ่ง หากนำไปใช้ในโครงการใหม่อีก ก็จะเป็นการเวียนเทียนนำเครื่องจักรชุดเดียวกันมาใช้สิทธิประโยชน์หลาย ๆ รอบ ซึ่งขัดต่อเจตนาในการให้การส่งเสริมการลงทุน

บริษัทต้องการนำเข้าชิ้นส่วนกึ่งสำเร็จรูปเข้ามาจากบริษัทแม่ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่บริษัทฯทำเองได้ตามกระบวนการผลิตที่ได้รับอนุมัติส่งเสริม เนื่องจากบริษัทแม่ได้ปิดไลน์สุดท้าย (ไลน์ประกอบ) ไปแล้ว จึงต้องการส่งชิ้นส่วนกึ่งสำเร็จรูปนั้นมาให้เราผลิตต่อจนจบ แล้วส่งกลับไปขายบริษัทแม่ ขอสอบถามว่า ปัจจุบันเปิดดำเนินการเต็มโครงการไปแล้ว จะยังสามารถแก้ไขดังกล่าวได้หรือไม่ บริษัทฯ แค่ต้องการผลิตต่อจากบริษัทแม่เฉพาะล๊อตนี้เท่านั้น ไม่ใช่ตลอดไป

1. กรณีที่เปิดดำเนินการเต็มโครงการแล้ว ก็ยังสามารถขอแก้ไขโครงการได้ หากไม่มีการลงทุนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกำลังผลิตหรือเพิ่มขั้นตอนการผลิต แต่ถ้าเป็นกิจการในหมวด 5 (เครื่องไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วน) แม้จะเปิดดำเนินการแล้ว จะแก้ไขอย่างไรก็ได้

2. กรณีที่สอบถาม เป็นการผ่อนผันกรรมวิธีการผลิตชั่วคราว เพื่อนำเข้าชิ้นส่วนกึ่งสำเร็จรูปมาผลิตเป็นสินค้า ซึ่งไม่ต้องลงทุนเครื่องจักรเพิ่มเติม ดังนั้น แม้จะเปิดดำเนินการครบตามโครงการแล้ว ก็ยังขอผ่อนผันกรรมวิธีผลิตได้

3. หากได้รับผ่อนผันตามข้อ 2 ปกติจะได้รับสิทธิยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบ แต่การยกเว้นภาษีเงินได้ จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป

ขออภัยครับ ไม่มีข้อมูลส่วนนี้ ในภาษาที่ท่านเลือก !

Sorry, There is no information support your selected language !

Download และ ติดตั้งโปรแกรมอ่าน PDF

Download PDF Reader

Site map