ถ้า B (BOI) นำเข้าเครื่องจักรจากต่างประเทศ โดยใช้สิทธิ BOI แต่ B จ่ายเงินให้ A (ไทย) ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายของ C (ต่างประเทศ) เข้าใจว่าไม่น่าจะมีปัญหา
IPO จะซื้อจากในหรือนอกประเทศก็ได้ และจะจำหน่ายในประเทศหรือส่งออกก็ได้ แต่ต้องซื้อมาพักเก็บในคลังสินค้าของตนเอง โดยต้องไม่ใช่เป็นการซื้อขายในข่ายนายหน้าตัวแทน
กิจการที่ได้รับสิทธิยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร แต่จะไม่ใช้ดังกล่าว คือจะนำเข้าเครื่องจักรโดยการชำระภาษีอากรขาเข้าก็ได้ ไม่มีปัญหาอะไร
เครื่องจักรที่นำเข้าจากต่างประเทศโดยชำระภาษี สามารถนำมาใช้ในผลิตผลิตภัณฑ์ในโครงการ BOI ได้
- ต้องเป็นเครื่องจักรใหม่ - กรณีเป็นเครื่องจักรเก่า ต้องได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องจักรเก่าตามเงื่อนไขในบัตรส่งเสริม และต้องมีใบรับรองประสิทธิภาพเครื่องจักรเก่า และต้องไม่เคยนำไปใช้ในโครงการอื่นในประเทศมาก่อน เครื่องจักรที่ซื้อในประเทศ สามารถนำมาผลิตผลิตภัณฑ์ในโครงการ BOI ได้ - แต่ต้องเป็นเครื่องจักรใหม่เท่านั้น1.เครื่องจักรผลิตปี 2002 นำเข้ามาในปี 2011 แต่ไม่ได้รับอนุมัติ
- ทราบเหตุผลในการไม่อนุมัติหรือไม่ครับ ปกติ BOI น่าจะมีการแจ้งผลในการไม่อนุมัติให้ทราบ - การไม่อนุมัติคืออะไร ไม่อนุมัติให้ใช้ในโครงการ หรือไม่อนุมัติให้ได้รับยกเว้นภาษี ช่วยอธิบายรายละเอียดเพิ่มขึ้นอีกหน่อยครับ2.เครื่องจักรเก่าที่อายุไม่เกิน 10 ปี และนำเข้ามาได้รับอนุมัติยกเว้นภาษีอากรขาเข้า แต่หลังจากใช้งานไปเรื่อยๆ ก็จะมีอายุเกิน 10 ปี กรณีไม่ต้องขออนุญาตใช้เครื่องจักรอายุเกิน 10 ปีอีก
1. การชิ้นส่วนเข้ามาประกอบเป็นสินค้าสำเร็จรูปเพื่อส่งออก หากเป็นไปตามขั้นตอนที่ได้รับส่งเสริมหรือไม่ ก็สามารถขอใช้สิทธิยกเว้นภาษีตามมาตรา 36(1) ได้
2. วัตถุดิบที่นำเข้าเพื่อผลิตส่งออก หากไม่สามารถส่งออกได้ และจัดอยู่ในข่าย "ส่วนสูญเสีย" ตามประกาศ ป.7/2543 ตาม Link จะสามารถขออนุมัติทำลาย และชำระภาษีตามสภาพเศษซาก (ถ้ามี) เพื่อปลอดจากภาระภาษีอากรได้
3. วัตถุดิบที่นำเข้ามาผลิตสินค้าทดสอบ โดยไม่มีวัตถุประสงค์จะส่งออก ไม่เป็นไปตามนิยาม "ส่วนสูญเสีย" ตามประกาศ ป.7/2543 จึงไม่อยู่ในข่ายจะขอทำลายเพื่อตัดบัญชี
หากจะนำวัตถุดิบเข้ามาผลิตทดสอบ โดยไม่มีเจตนาส่งออก ก็ไม่ควรใช้สิทธิ ม.36 ตั้งแต่ต้น แต่หากนำเข้ามาผลิต เพื่อส่งไปเป็นตัวอย่างหรือตรวจสอบต่างประเทศ จะขอใช้สิทธิ ม.36 ได้ ซึ่งกรณีนี้ หากผลิตแล้วเสียหาย ส่งออกไม่ได้ จะขอทำลายก็ได้
พรบ.ส่งเสริมการลงทุนของ BOI ฉบับปัจจุบัน มีอำนาจในการยกเว้นอากรขาเข้า แต่ไม่มีอำนาจในการยกเว้น VAT การที่บริษัทที่ได้รับ BOI ไม่ต้องเสีย VAT เป็นไปตาม ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร วันที่ 27 ธันวาคม 2534 ที่อนุญาตให้ใช้หนังสืออนุมัติให้นำเข้าวัตถุดิบของ BOI เป็นหนังสือในการค้ำประกัน VAT และถอนค้ำประกัน ได้ แต่กรณีการซื้อขายวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนภายในประเทศ ระหว่างบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมนั้น BOI จะไม่ออกหนังสือยกเว้นอากรขาเข้าให้ จึงต้องชำระ VAT ตามปกติ
- เป็นรายการที่มีผลิตในประเทศ
- เป็นเครื่องจักรเก่าโดยที่โครงการไม่ได้รับอนุมัติให้ใช้เครื่องจักรเก่า
- เป็นเครื่องจักรเก่าที่ไม่มีใบรับรองประสิทธิภาพ
- เป็นเครื่องจักรเก่าเกินกว่า 10 ปี
- ไม่ตรงกับกรรมวิธีผลิตที่ได้รับอนุมัติ
- กำลังผลิตเกินกว่าที่ได้รับส่งเสริม ... เป็นต้น
ลองตรวจทานดูว่าเข้าข่ายข้อไหนบ้าง ไม่อย่างนั้นก็เช็คกับพนักงานของบริษัทฯที่เคยรับผิดชอบในช่วงนั้น (แม้อาจจะลาออกไปแล้ว ก็น่าจะติดต่อได้) แต่หากตรวจสอบแล้ว หาสาเหตุไม่ได้จริงๆ ก็คงต้องนำเอกสารและข้อมูลเท่าที่จะมี ไปปรึกษากับ จนท. BOI1-3,5 ระหว่างที่รออนุมัติโครงการ จะยังใช้สิทธิใดๆไม่ได้ ในกรณีนี้จึงต้องชำระภาษีอากรเครื่องจักรไปก่อน จากนั้นเมื่อได้รับบัตรส่งเสริม จึงขอขยายเวลานำเข้าเครื่องจักรย้อนหลังไปจนถึงวันที่ยื่นคำขอรับการส่งเสริม จากนั้นจึงยื่นสั่งปล่อยขอคืนอากรเครื่องจักร 4. การอนุมัติบัญชีเครื่องจักร กำหนดระยะเวลาไว้ 60 วันทำการ แต่ส่วนใหญ่จะพิจารณาอนุมัติได้เร็วกว่านั้น ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่และรายละเอียดของโครงการนั้นๆ โดยเฉลี่ยน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2-3 อาทิตย์
การใช้สิทธิตามมาตรา 36 ไม่มีข้อกำหนดว่าจะต้องผลิตส่งออกใน 1 ปี แต่มีข้อกำหนดคือ
1. จะต้องยื่นขอตัดบัญชีภายใน 1 ปี นับจากวันที่ในใบขนขาออก หรือหากมีเหตุผลจำเป็น ให้ขยายการตัดบัญชีออกไปได้อีกไม่เกิน 1 ปี
2. กรณีที่สิทธิตามมาตรา 36 สิ้นสุดลง ต้องนำวัตถุดิบที่เหลือไปผลิตเป็นสินค้าและส่งออกภายใน 1 ปีนับจากวันที่สิ้นสุดสิทธิ และต้องยื่นขอตัดบัญชีภายใน 2 ปีนับจากวันสิ้นสุดสิทธิ
รวมประกาศ BOI ค้นได้จาก link : http://www.faq108.co.th/boi/announcement/ ส่วนเรื่องที่สอบถาม คือ ประกาศ BOI ที่ ป.3/2556 เรื่อง วิธีปฏิบัติในการใช้สิทธิและประโยชน์ยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับวัตถุดิบ และวัสดุจำเป็น เพื่อใช้ในการผลิตเพื่อการส่งออก ตาม link :
http://www.faq108.co.th/boi/announcement/pdf/2556_por03.pdf
ไม่จำเป็นต้องเป็น CIF ครับ จะเป็น FOB ก็ได้ หากเป็น FOB บริษัทก็ต้องแสดงค่า Insurance และ Freight เพื่อรวมคำนวณเป็นต้นทุนในการได้มาซึ่งเครื่องจักรดังกล่าวไว้ในหน้าใบขน เพื่อคำนวณอากรและ VAT BOI จะยกเว้นอากรขาเข้าและ VAT ตามรายการในหน้าใบขน ซึ่งตรงกับรายการที่อนุมัติสั่งปล่อย
หากระยะเวลานำเข้าเครื่องจักรสิ้นสุดแล้ว และขยายเวลานำเข้าครบ 3 ครั้งแล้ว ก็ไม่สามารถนำเข้าอะไหล่โดยใช้สิทธิยกเว้นภาษี ต้องนำเข้าโดยชำระภาษีอากรตามปกติ
หากบริษัทไม่ต้องการใช้สิทธิวัตถุดิบ A อีกต่อไป ให้เคลียร์ยอดคงเหลือของ A ให้เป็น 0 และแก้ไข Max Stock ของ A ให้เป็น 0 และแก้ไขสูตรการผลิต/หรือขอสูตรการผลิตใหม่ โดยไม่มีการใช้วัตถุดิบ A
- หนังสือบริษัทขออนุมัติสูตรการผลิต
- แบบการขอใช้สิทธิและประโยชน์ มาตรา 36 (F IN RM 13)
- รายละเอียดสูตรการผลิตและปริมาณการใช้วัตถุดิบ ตามมาตรา 36 สูตรละ 2 ชุด
- ภาพถ่ายแสดงปริมาณการใช้วัตถุดิบของแต่ละสูตร
- ขั้นตอนการผลิตที่ได้รับอนุมัติ
2.การแก้ไขสูตรการผลิต ใช้เอกสารดังนี้
- หนังสือบริษัทขออนุมัติแก้ไขสูตรการผลิต
- แบบการขอใช้สิทธิและประโยชน์ มาตรา 36 (F IN RM 13)
- รายละเอียดการแก้ไขสูตรการผลิตและการใช้วัตถุดิบ ตามมาตรา 36 สูตรละ 2 ชุด
- ภาพถ่ายแสดงปริมาณการใช้วัตถุดิบของแต่ละสูตร
- ขั้นตอนการผลิตที่ได้รับอนุมัติ
3.เมื่อได้รับอนุมัติสูตร/อนุมัติแก้ไขสูตรจาก BOI แล้ว ให้นำข้อมูลไปบันทึกในระบบ RMTS ที่สมาคม IC แบบฟอร์มต่างๆ ขอรับได้จาก BOI และ IC หรือดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ของแต่ละหน่วยงาน
การขอขยายเวลานำเข้าเครื่องจักร เข้าใจว่าไม่น่าจะมีข้อกำหนดว่าจะต้องเริ่มนำเข้าเครื่องจักรมาบางส่วนแล้ว จึงน่าจะยื่นขอขยายเวลานำเข้าเครื่องจักรได้ตามปกติ
เนื่องจากคำถามมีข้อมูลไม่เพียงพอ จึงขอตอบในภาพรวม โดยแยกเป็น 2 เรื่อง ดังนี้
1. การนำเข้าเครื่องจักรภายหลังได้รับใบอนุญาตเปิดดำเนินการเต็มโครงการเมื่อบริษัทได้รับใบอนุญาตเปิดดำเนินการจาก BOI จะถือว่าบริษัทได้มีการลงทุนครบตามเงื่อนไขที่ระบุในบัตรส่งเสริมแล้ว
ดังนั้น หากจะนำเครื่องจักรเข้ามาเพิ่มเติมอีก จะไม่ได้รับสิทธิยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร และไม่นับเครื่องจักรดังกล่าวเป็น
มูลค่าการลงทุนของโครงการ และหากมีกำลังผลิตเพิ่มขึ้นกว่าที่ระบุในบัตรส่งเสริม กำลังผลิตส่วนที่เพิ่มขึ้นจะไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลทั้งนี้ ไม่รวมกิจการบางประเภท เช่น กิจการผลิตผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องไฟฟ้า และชิ้นส่วน ซึ่งมีเงื่อนไขอนุญาตให้นำเครื่องจักรเข้ามาเพื่อเพิ่มกำลังผลิตได้ แม้จะเปิดดำเนินการครบตามโครงการไปแล้วก็ตาม
2. การนำเข้าเครื่องจักรเก่าเข้ามาใช้ในโครงการหลังเปิดดำเนินการเต็มโครงการกรณีที่บัตรส่งเสริมกำหนดเงื่อนไขให้ต้องใช้เครื่องจักรใหม่ บริษัทไม่สามารถใช้เครื่องจักรเก่าในโครงการได้ ไม่ว่าจะได้รับอนุญาตเปิดดำเนินการเต็มโครงการแล้วหรือไม่ก็ตาม
เอกสารในการยื่นขออนุมัติสูตรการผลิตมีดังนี้
หนังสือบริษัทฯ ขออนุมัติสูตรการผลิต
แบบการขอใช้สิทธิประโยชน์มาตรา 36 (F IN RM 13)
รายละเอียดสูตรการผลิตและปริมาณการใช้วัตถุดิบ สูตรละ 2 ชุด
ภาพตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่แสดงการใช้วัตถุดิบของสูตรการผลิตนั้นๆ
กรรมวิธีการผลิตที่ได้รับจาก BOI และในบางกรณีบริษัทอาจเตรียมเอกสารในส่วนของ BOI เพื่อความสะดวกในการพิจารณา เช่น ใบตรวจเอกสารวัตถุดิบ (F IN RM 01)
หนังสืออนุมัติสูตรการผลิต (F IN RM 14)
1. ในการขออนุมัติสูตรการผลิต ชื่อสินค้า (Product Name) + ชื่อรุ่น (Model) จะต้องไม่ซ้ำกับสูตรการผลิตที่เคยได้รับอนุมัติอยู่เดิม เช่น หากบริษัทได้รับอนุมัติสูตรการผลิตของผลิตภัณฑ์ A โมเดล 123 ไปแล้ว จะขออนุมัติสูตรการผลิตของผลิตภัณฑ์ A โมเดล 123 อีกไม่ได้
2. กรณีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุมัติสูตรการผลิตไปแล้ว แต่ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงปริมาณการใช้วัตถุดิบ สามารถยื่นขอแก้ไขสูตรการผลิตได้ โดยระบบจะบันทึกเป็น revision 2, 3, 4 .. ตามลำดับที่มีการอนุมัติให้แก้ไขสูตรการผลิตนั้นๆ
3. การขออนุมัติสูตรการผลิตโดยใช้ชื่อสินค้าเป็น ACCESSORIES FOR GAS COMPRESSOR ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง หากบริษัทมีการส่งออกทางอ้อม จะไม่สามารถตัดบัญชีได้ เนื่องจากชื่อนี้ไม่สามารถนำไปตั้งเป็นชื่อรองของวัตถุดิบของบริษัทผู้ซื้อได้ บริษัทควรปรึกษาปัญหากับ จนท BOI โดยตรงอีกครั้งหนึ่ง
- หากเรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณา จะอยู่ในเมนู "คำขอที่อยู่ในขั้นตอนอนุมัติ"
- หากเรื่องพิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว จะอยู่ในเมนู "คำขอที่ดำเนินการแล้ว"
กรณีที่เรื่องพิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว โดยได้รับอนุมัติให้ขยายเวลานำเข้าเครื่องจักร ให้บริษัทพิมพ์ผลการพิจารณา เลขที่หนังสืออนุมัติ และนำไปยื่นพร้อมกับบัตรส่งเสริมฉบับจริง ที่แผนกบัตรส่งเสริม เพื่อดำเนินการแก้ไขเอกสารแนบท้ายบัตรส่งเสริมต่อไป