ช่อง 1.3 (2) คือ เครื่องจักรที่ซื้อมาใช้ในโครงการนั้นๆ ส่วน 1.3 (3) คือ สินทรัพย์อื่นๆ เช่น ค่าก่อสร้าง ยานพาหนะ และอุปกรณ์สำนักงาน เป็นต้น จึงเป็นค่าใช้จ่ายคนละรายการกัน หากจะยื่นขอใช้สิทธิตามบัตรโยกย้ายสถานประกอบการ ไม่น่าจะนับค่าเครื่องจักรเป็นขนาดการลงทุนได้ เนื่องจากโครงการโยกย้าย ไม่ครอบคลุมถึงการปรับปรุงเครื่องจักรเก่าหรือซื้อเครื่องจักรมาเพิ่มเติม
กรณีได้รับหนังสืออนุมัติให้แก้ไขโครงการ โดยมีการระบุให้นำบัตรส่งเสริมไปแก้ไข ปกติไม่ต้องยื่นเอกสารอะไร นอกจากบัตรส่งเสริมฉบับจริง
จะแก้ไขโครงการ (คือแก้เงื่อนไขในบัตรส่งเสริม) หรือจะแก้ไข max stock หากจะแก้ไข max stock ช่วยให้ข้อมูลให้มากกว่านี้
1.stock เดิม เป็นอย่างไร
2.มีเหตุผลอย่างไรจึงต้องการแก้
3.ต้องการแก้เป็นอย่างไร
ขอยกตัวอย่างใหม่เป็นดังนี้ 1 ม.ค. 54 ยื่นคำขอรับการส่งเสริม 1 ก.พ. 54 นำเข้าเครื่องจักรโดยชำระภาษี 1 มี.ค. 54 อนุมัติให้การส่งเสริม 1 เม.ย. 54 ออกบัตรส่งเสริม (เริ่มนับระยะเวลาการยกเว้นภาษีอากรเครื่องจักร) 1 ต.ค. 56 สิ้นสุดระยะเวลานำเข้าเครื่องจักร (30 เดือน นับจากวันที่ออกบัตรส่งเสริม) 1 เม.ย. 57 ครบกำหนดเปิดดำเนินการ (6 เดือน นับจากวันที่สิ้นสุดระยะเวลานำเข้าเครื่องจักร)
กรณีข้างต้นนี้ หากบริษัทยื่นขอขยายเวลานำเข้าเครื่องจักรย้อนหลัง เพื่อยกเว้นภาษีอากรเครื่องจักรที่นำเข้ามาก่อนออกบัตรส่งเสริม BOI จะขยายระยะเวลานำเข้าย้อนหลังไปจนถึงวันที่ 1 ม.ค. 54 (วันที่ยื่นคำขอรับส่งเสริม) แต่ระยะเวลาสิ้นสุดการนำเข้าเครื่องจักรยังคงเป็นวันเดิม (1 ต.ค. 56) และวันครบกำหนดเปิดดำเนินการก็ยังคงเป็นวันเดิม (1 เม.ย. 57)
โครงการของท่านสามารถขอยกเลิกบัตรส่งเสริมได้ โดยมีรายละเอียดที่เกี่ยวข้องดังนี้
กรณีที่ 1 ขอยกเลิกบัตรส่งเสริม โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการ
สำนักงานจะถือว่าบริษัทไม่เคยได้รับการส่งเสริมตั้งแต่ต้น และบริษัทจะต้องชำระภาษีอากรที่ได้รับสิทธิและประโยชน์จากบีโอไอคืนทั้งหมด กรณีที่ใช้สิทธิยกเว้นภาษีนำเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบอาจมีภาระภาษีที่จะต้องชำระคืนพร้อมเงินเพิ่มและเบี้ยปรับ (ถ้ามี) ได้แก่
- ด้านภาษีเงินได้นิติบุคคล จะต้องชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลที่เคยใช้สิทธิยกเว้นภาษีไปแล้วคืนทั้งหมด พร้อมเงินเพิ่มและเบี้ยปรับ
- ด้านอากรขาเข้าเครื่องจักร จะต้องชำระอากรขาเข้าเครื่องจักรและภาษีมูลค่าเพิ่มย้อนหลังตามสภาพ ณ วันนำเข้า พร้อมเงินเพิ่มและเบี้ยปรับ
- ด้านอากรขาเข้าวัตถุดิบ จะต้องชำระอากรขาเข้าวัตถุดิบและภาษีมูลค่าเพิ่มย้อนหลังตามสภาพ ณ วันนำเข้า พร้อมเงินเพิ่มและเบี้ยปรับ
กรณีที่ 2 กรณีที่ได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการแล้ว และปฏิบัติถูกต้องตามเงื่อนไขบัตรส่งเสริมมาโดยตลอด
- ด้านภาษีเงินได้นิติบุคคล ไม่มีภาระภาษีที่ต้องชำระคืน
- ด้านอากรขาเข้าเครื่องจักร หากเครื่องจักรมีอายุเกินกว่า 5 ปีนับจากวันนำเข้า จะอนุญาตให้ตัดบัญชีเครื่องจักรเพื่อปลอดภาระภาษี จึงจะไม่มีภาระที่ต้องชำระอากรขาเข้าเครื่องจักรคืนในส่วนนี้ แต่หากเครื่องจักรมีอายุน้อยกว่า 5 ปี จะต้องชำระอากรขาเข้าเครื่องจักรและภาษีมูลค่าเพิ่มตามสภาพ ณ วันที่อนุมัติให้ยกเลิกบัตรส่งเสริม โดยไม่ต้องชำระเงินเพิ่มหรือเบี้ยปรับ
- ด้านอากรขาเข้าวัตถุดิบ หากมีวัตถุดิบค้างคงเหลือในบัญชีและไม่สามารถส่งออกไปต่างประเทศได้ จะต้องชำระอากรขาเข้าวัตถุดิบและภาษีมูลค่าเพิ่มตามสภาพ ณ วันนำเข้า พร้อมเงินเพิ่มและเบี้ยปรับ
กรณีที่ผู้ได้รับส่งเสริมเป็นบริษัทต่างด้าว และใช้สิทธิในการถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน ผู้ได้รับส่งเสริมจะต้องจำหน่ายที่ดินดังกล่าว ภายใน 1 ปี นับจากวันที่ได้รับอนุมัติให้ยกเลิกบัตรส่งเสริม
ปัจจุบันกิจการในหมวดบริการไม่ให้สิทธิมาตรา 36 เนื่องจากกิจการบริการไม่มีมีวัตถุดิบที่ใช้ในโครงการ
กรณีกิจการบริการสอบเทียบมาตรฐาน ที่จำเป็นต้องนำเข้าสินค้า เช่น เครื่องมือวัดที่ลูกค้าต่างประเทศส่งมาสอบเทียบ และส่งกลับออกไป บริษัทน่าจะยื่นขอรับสิทธิตามมาตรา 36(2) การยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับของที่ผู้ได้รับส่งเสริมนำเข้ามาเพื่อส่งกลับออกไป
1. ถ้าเรียกรวมๆ ก็คือการขอนำผลิตภัณฑ์กลับเข้ามาซ่อม แต่ถ้าจะพูดถึงการขอสั่งปล่อยยกเว้นภาษีอากร หรือการขออนุมัติบัญชีปริมาณสต็อก หรือการขอสูตรการผลิต ฯลฯ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำกลับเข้ามาซ่อม ก็จะว่ากันเป็นเรื่องๆไปครับ
2. ใช้สิทธิได้ การขอนำผลิตภัณฑ์กลับเข้ามาซ่อม ไม่จำเป็นต้องเป็นสินค้าที่ส่งออกไปโดยใช้สิทธิฯ หากเป็นไปตามเงื่อนไขต่อไปนี้ ก็อยู่ในข่ายที่จะขออนุมัติบัญชีปริมาณสต็อก และนำเข้ามาซ่อมโดยใช้สิทธิได้ คือ
- ต้องเป็นสินค้าที่ผลิตขึ้นตามโครงการที่ได้รับส่งเสริม
- ต้องเป็นสินค้าที่สามารถซ่อมได้
- ต้องไม่เป็นการรับจ้างซ่อม หรือเป็นการซ่อมสินค้าที่ผ่านการใช้งานแล้ว
ขั้นตอนที่ถูกต้องควรดำเนินการดังนี้
1.ยื่นคำขอแก้ไขโครงการเพื่อลดกำลังผลิต
2.ยื่นขออนุมัติจำหน่ายเครื่องจักรโดยไม่มีภาระภาษี (แต่ต้องเปิดดำเนินการแล้ว หรือยังไม่ครบกำหนดเปิดดำเนินการ)
1.กรณีที่บริษัทยังไม่ทราบว่าจะจำหน่ายเครื่องจักรอายุเกิน 5 ปีหรือไม่
- ให้ยื่นขอตัดบัญชีเครื่องจักรเกิน 5 ปี ก่อน
- เมื่อจะจำหน่าย ให้ยื่นขอจำหน่ายโดยไม่มีภาระภาษี
2.กรณีที่บริษัททราบว่าจะจำหน่ายเครื่องจักรอายุเกิน 5 ปี
- สามารถยื่นขอจำหน่ายโดยไม่มีภาระภาษี โดย BOI จะพิจารณาว่าเป็นเครื่องที่เกิน 5 ปีหรือไม่ และบริษัทดำเนินการตามเงื่อนไขเปิดดำเนินการ ฯลฯ ถูกต้องหรือไม่ หากพิจารณาแล้วถูกต้องตามหลักเกณฑ์ ก็จะอนุญาตให้จำหน่ายโดยไม่มีภาระภาษีไปในขั้นตอนเดียวกันเลย ขั้นตอนทั้งหมดให้ยื่นขออนุมัติในระบบ eMT โดยแนบสำเนาเอกสาร เช่น ใบขนขาเข้า ตามที่ระบุในระบบ
1. หากบริษัท A ปิดโครงการ (คงหมายถึงสิ้นสุดสภาพการเป็นผู้ได้รับส่งเสริมแล้ว) ก็ไม่สามารถใช้สิทธิใดๆ ได้อีก จึงไม่สามารถใช้สิทธิยกเว้นอากรสินค้าที่นำกลับเข้ามาซ่อมได้
2. A (Non BOI) ซื้อสินค้าจาก B (BOI) ไปส่งออก แต่สินค้าไม่ได้คุณภาพ ต้องนำกลับเข้ามาซ่อม B สามารถนำเข้ามาโดยใช้สิทธิยกเว้นอากรของ B ได้ เนื่องจากเป็นการซ่อมสินค้าที่ B เป็นผู้ผลิตขึ้นเอง ไม่ใช่การรับจ้างซ่อมสินค้าที่ผลิตโดยผู้อื่น
A คือ ส่วนของผู้ถือหุ้น 72 ล้านบาท B คือ หนี้สินปัจจุบัน 235 ล้านบาท C คือ เงินลงทุนของโครงการใหม่ 149 ล้านบาท
ถ้าจะไม่เพิ่มทุน C จะเป็นเงินกู้ทั้งหมด
อัตราส่วนหนี้สิน : ส่วนผู้ถือหุ้น (รวมโครงการเดิม)
B+C = 384, A = 72
จะเป็น (B+C) : A = 5.33 : 1 ซึ่งเกิน 3:1
ดังนั้น บริษัทจึงต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนอีกส่วนหนึ่ง คือ C1 และกู้เงินอีกส่วนหนึ่ง คือ C2 โดย C1 + C2 = 149 ล้านบาท ซึ่งถ้า (B+C2) : (A+C1) ไม่เกิน 3 : 1 ก็อยู่ในเกณฑ์ที่จะอนุมัติได้
หากบริษัทปฏิบัติถูกต้องตามเงื่อนไขของบัตรส่งเสริมที่สำนักงานกำหนดมาโดยตลอด ท่านสามารถขอยกเลิกบัตรส่งเสริมได้โดยปราศจากภาระอากรต่าง ๆ ตามแนวทางที่ได้เสนอไปข้างต้น
อย่างไรก็ตาม สำนักงานแนะนำให้ท่านติดต่อกับกองบริหารการลงทุน 5 ซึ่งปัจจุบันกำกับดูแลประเภทกิจการของท่าน เพื่อเร่งรัดการตรวจเปิดดำเนินการ และดำเนินการขอยกเลิกบัตรส่งเสริมต่อไป
สำหรับการยกเลิกบัตรส่งเสริมสามารถดำเนินการโดย บริษัทนำส่งหนังสือชี้แจงจากบริษัท เรื่อง ขอยกเลิกบัตรส่งเสริม โดยชี้แจงเหตุผลที่ต้องการยกเลิกบัตรส่งเสริม เช่น เลิกประกอบกิจการ ยกเลิกการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการส่งเสริม หรือสิทธิประโยชน์ทางภาษีสิ้นสุดลงโดยไม่ประสงค์จะใช้สิทธิที่ไม่ใช่ภาษี เป็นต้น
สำนักงานจะดำเนินการตรวจสอบการใช้สิทธิและประโยชน์จากระบบการจัดเก็บเอกสารของสำนักงาน และสมาคมสโมสรนักลงทุน ได้แก่ การใช้สิทธิและประโยชน์ด้านเครื่องจักร ด้านวัตถุดิบ ด้านที่ดิน ด้านช่างฝีมือ และด้านภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามสิทธิและประโยชน์ที่ได้รับตามประเภทกิจการ และให้นำส่งหนังสือขอยกเลิกบัตรส่งเสริมที่กองบริหารการลงทุน 5 ที่กำกับดูแลประเภทกิจการของท่าน โดยหลักประกัน การคุ้มครอง และสิทธิประโยชน์ทั้งหมดจะสิ้นสุดลงในวันที่ได้รับอนุมัติให้ยกเลิกบัตรส่งเสริม
เอกสารการยกเลิกบัตรส่งเสริม
1. จดหมายชี้แจง (บริษัทท่านจะต้องเป็นผู้ทำจดหมายชี้แจงของบริษัท) โดยต้องระบุสาระสำคัญ ได้แก่ เลขที่บัตรส่งเสริม / ลงวันที่ออกบัตรส่งเสริม และเหตุผลการขอยกเลิกบัตรส่งเสริม
2. สำเนาหนังสือรับรองบริษัท
3. สำเนาบัตรส่งเสริม
4. สำเนางบการเงินปีล่าสุด
5. สำเนา ภ.ง.ด. 50 ปีล่าสุด
ทั้งนี้ เอกสารตามข้อ 1 – 5 ต้องมีลายเซ็นกรรมการผู้จัดการหรือผู้มีอำนาจลงนามพร้อมทั้งประทับตราบริษัท โดยยื่นเอกสารที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กองบริหารการลงทุน 5 ที่กำกับดูแลประเภทกิจการที่ได้รับการส่งเสริม
ใช้เอกสารตามนี้
หนังสือนำส่งของบริษัท
ไม่มีแบบฟอร์ม ใช้หนังสือหัวจดหมายบริษัท เรื่องขอขยายเวลานำเข้าเครื่องจักรย้อนหลัง เรียนเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ลงนามโดยกรรมการผู้มีอำนาจและประทับตรารับรอง
แบบขอขยายเวลานำเข้าเครื่องจักรและเปิดดำเนินการ (F IN EM 02) 1 ชุด กรอกข้อมูลในข้อ 1 และ 2 และเลือกข้อ 3.1
สำเนาหนังสือแจ้งมติให้การส่งเสริม (หน้าแรก) 1 ชุด
การจะหยุดกิจการเป็นเวลาตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป จะต้องแจ้ง BOI เพื่อขออนุญาตก่อน แต่การชะลอการผลิต โดยการหยุดผลิตไป 1 สายการผลิต ไม่ต้องแจ้งขออนุญาต
การยื่น ตส.310 กรณีมีหลายบัตร ให้คีย์ข้อมูลรายได้รายจ่ายรวมกันทุกโครงการและให้คีย์ข้อมูลการผลิตรวมกันทุกบัตร (แยกชนิดภัณฑ์)
เอกสารประกอบการขอรับบัตรส่งเสริม ระบุไว้ในแบบประกอบการขอรับบัตรส่งเสริม (กกท.05) (F GA CT 08) หากเอกสารครบ จะใช้เวลาออกบัตรส่งเสริมภายใน 10 วันทำการ
ขออธิบายขั้นตอนและเอกสารคร่าวๆ ดังนี้
1. สมัครใช้บริการระบบ e-expert รายละเอียดตาม Link : http://www.faq108.co.th/boi/expert/e_expert.php
2.ขออนุมัติตำแหน่ง
- ยื่น online
- ระบุเหตุผลความจำเป็นในการต้องมีตำแหน่งของชาวต่างชาติ
- ใช้เอกสารตามที่กำหนด เช่น ผังองค์กร แผนการถ่ายทอดเทคโนโลยี หนังสือรับรองบริษัท เป็นต้น
3.ยื่นบรรจุช่างฝีมือ
- ยื่น online
- ใช้เอกสารตามที่กำหนด เช่น หนังสือเดินทาง ใบรับรองการทำงาน ใบรับรองวุฒิการศึกษา เป็นต้น จากนั้น จึงพาช่างฝีมือไปต่อวีซ่าและทำใบอนุญาตทำงานตามที่ได้รับอนุมัติบรรจุ
1. วงเงินยกเว้นภาษี กำหนดตามขนาดการลงทุนของโครงการในวันที่อนุมัติเปิดดำเนินการ ปัจจุบันเข้าสู่ปีที่ 7 ซึ่งคงได้รับอนุมัติเปิดดำเนินการและตรวจสอบขนาดการลงทุนที่แท้จริงไปแล้ว จึงไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงวงเงินได้อีก
2. กรณีที่มีกำไรเกินกว่าวงเงินที่จะได้รับยกเว้นภาษี ก็จะต้องชำระภาษีในส่วนที่เกิน ยกตัวอย่างเช่น ปีนี้เป็นปีสุดท้าย และเหลือวงเงินยกเว้นภาษี 15 ล้านบาท แต่บริษัทมีกำไรสุทธิ 100 ล้านบาท คำนวณภาษีเงินได้คือ 20 ล้าน ก็จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้เท่าที่ยังเหลือสิทธิ คือ 15 ล้านบาท และต้องชำระภาษีเงินได้ 5 ล้านบาท