Chat
x
toggle menu
toggle menu

Select Groups

All Group
  • All Group
  • นโยบายเเละมาตรการพิเศษในการส่งเสริม
  • การขอรับการส่งเสริมการลงทุน
  • การออกบัตรส่งเสริม
  • การเปิดดำเนินการ
  • การเเก้ไขโครงการ
  • การดำเนินการอื่น ๆ
  • การรายงานความคืบหน้าโครงการ (e-Monitoring)
  • การปฏิบัติหลังการได้รับการส่งเสริม
  • การยกเลิกบัตรส่งเสริม
  • เรื่องทั่วไป
  • การใช้สิทธิด้านที่ดิน
  • การใช้สิทธิด้านเครื่องจักร
  • การใช้สิทธิด้านช่างฝีมือ/ต่างด้าว
  • การใช้สิทธิด้านวัตถุดิบ
  • ประเภทกิจการ - การแพทย์
  • การใช้สิทธิด้านภาษีเงินได้นิติบุคคล
  • ประเภทกิจการ - รถยนต์ไฟฟ้า
  • ประเภทกิจการ - ศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ (IBC) IPO และ TISO
  • ประเภทกิจการ - โรงแรม
  • ประเภทกิจการ - ผลิตผลิตภัณฑ์โลหะรวมทั้งชิ้นส่วนโลหะ
  • ประเภทกิจการ - กิจการผลิตเครื่่องจักร อุุปกรณ์และชิ้นส่วน
  • ประเภทกิจการ - กิจการศูนย์กระจายสินค้าระหว่า ประเทศด้วยระบบที่่ทันสมัย (IDC)
รบกวนสอบถามเกี่ยวกับ "อะไหล่เครื่องจักร" ที่จะนำเข้ามาใช้กับเครื่องจักรที่นำเข้าโดยใช้สิทธิประโยชน์JTEPA (แต่เป็นเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน) ไม่ทราบว่า จะสามารถใช้สิทธิประโยชน์ยกเว้นอากรนำเข้าได้หรือไม่
ได้ครับ แต่ขอให้ตรวจสอบข้อมูลกับกรมศุลกากรโดยตรงด้วย
บริษัทนำเข้าสายไฟมาทำการผลิต เป็นสายไฟรถจักรยาน แล้วส่งออกต่างประเทศ ภายใต้สิทธิ BOI (IPO) มาตรา 36(1) ที่ได้รับอนุมัติจาก BOI แล้ว ในส่วนสายไฟจะมีแกนพลาสติกที่สายไฟพันมา เมื่อทำการผลิตแล้วจะมีแกนพลาสติก เป็นส่วนสูญเสียนอกสูตร บริษัท ฯ สามารถปฏิบัติได้ตามนี้ได้หรือไม่ 1. ขออนุญาตส่งออกส่วนสูญเสียนอกสูตร โดยไม่ต้องทำลาย (บริษัท ไม่มีภาระภาษีผูกพัน) หรือ 2. ขอชำระภาษี ตามสภาพแล้วทิ้งถังขยะได้ หรือ 3. ทำลายแล้วชำระภาษี ตามสภาพแล้วให้ใครก็ได้ เอาไปชั่งกิโลขายต่อ

การจำแนกประเภทพิกัดสินค้า หลักเกณฑ์ข้อ 5 (ข) กำหนดไว้ว่า "วัตถุและภาชนะสำหรับใช้ในการบรรจุที่บรรจุของเข้ามา ให้จำแนกเข้าประเภทเดียวกันกับของนั้นถ้าวัตถุและภาชนะนั้นเป็นชนิดที่ตามปกติใช้สำหรับบรรจุของดังกล่าว อย่างไรก็ตามไม่ให้ใช้ข้อกำหนดนี้เมื่อเห็นได้ชัดว่า วัตถุและภาชนะสำหรับใช้ในการบรรจุนั้นเหมาะสำหรับใช้ซ้ำได้อีก"

แกนพลาสติกพันสายไฟ น่าจะเป็นวัตถุที่ใช้ซ้ำได้อีก จึงอาจเข้าข่ายที่ต้องจำแนกพิกัดสินค้าคนละรายการกับสายไฟและสามารถขออนุมัติบัญชีรายการวัตถุดิบจาก BOI เป็น 1.สายไฟ และ 2.แกนพลาสติก ได้ สายไฟจะตัดบัญชีได้ตามสูตรการผลิต

ส่วนแกนพลาสติกจะไม่สามารถตัดบัญชีได้ แต่สามารถดำเนินการดังนี้

1. ขอส่งคืนไปต่างประเทศโดยไม่มีภาระภาษี

2. ขอทำลายในข่ายส่วนสูญเสียนอกสูตร และชำระภาษีตามสภาพเศษซาก แล้วจึงจำหน่ายเป็นเศษพลาสติก หรือไม่อย่างนั้น ก็อาจชำระอากรแกนพลาสติกตั้งแต่ตอนที่นำเข้า และเมื่อใช้เสร็จแล้วก็จำหน่ายในประเทศต่อไป

ที่บอกให้ชำระอากรแกนพลาสติกตั้งแต่ตอนที่นำเข้า และเมื่อใช้เสร็จแล้วก็จำหน่ายในประเทศต่อไป แล้วชื่อสินค้าที่นำ ระบุบนอินวอยซ์ ต้องแยกเป็น 2 รายการ 1. CABLE.......... Metre 2. CABLE ROLL.........Pcs อย่างนี้หรือ?

การแสดงรายการในอินวอยซ์น่าจะเป็นเช่นนั้น plastic spool, plastic reel, plastic bobbin, plastic roll แล้วแต่จะเรียก

ในการใช้สิทธิประโยชน์ยกเว้นอากรนำเข้าที่สอบถามไปข้างต้นนั้น หมายถึง เป็นการนำเข้าอะไหล่โดยใช้สิทธิ์ BOI ในกรณีที่สามารถใช้สิทธิ์BOIในการนำเข้าอะไหล่ได้ ก็จะได้ขอเพิ่มบัญชีอะไหล่ในระบบ eMT Online แต่ไม่แน่ใจว่าจะได้หรือไม่

BOI จะอนุมัติยกเว้นอากรขาเข้าของที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ BOI เช่น เป็นอะไหล่สำหรับเครื่องจักรที่ใช้ในโครงการ และเป็นอะไหล่ที่ไม่มีผลิตในประเทศ แต่ BOI จะไม่ทราบว่าบริษัทจะนำเข้ามาโดยใช้สิทธิร่วมกับมาตรการอื่นหรือไม่ และมาตรการนั้นๆ มีข้อกำหนดอย่างไร จึงตอบเฉพาะในส่วนของ BOI คือ บริษัทสามารถขออนุมัติสั่งปล่อยอะไหล่ของเครื่องจักรที่ใช้ในโครงการได้

ทางบริษัทสามารถขอคืนอากรนำเข้าย้อนหลังส่วนของอะไหล่ที่เคยนำเข้ามาแต่ได้มีการเสียอากรไปแล้วได้หรือไม่

สามารถสั่งปล่อยคืนอากรอะไหล่ที่เคยนำเข้ามาแล้วโดยเสียภาษีได้ โดยวันนำเข้าจะต้องอยู่ในระยะเวลาที่ได้รับสิทธิมาตรา 28 และจะได้รับคืนเฉพาะอากรขาเข้าเท่านั้น

กรณีขอทำลายในข่ายส่วนสูญเสียนอกสูตร และชำระภาษีตามสภาพเศษซาก แล้วทิ้งขยะโดยที่ไม่ได้กำจัดโดยวิธีอื่นทำได้ไหม

การขอทำลายส่วนสูญเสียนอกสูตร จะต้องมีวิธีการจำกัดที่เหมาะสมไม่ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม การทิ้งเศษพลาสติกเป็นขยะ ไม่ใช่การกำจัดที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัทต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรมด้วย

ในกรณีขอทำลายในข่ายส่วนสูญเสียนอกสูตร (แกนพลาสติก) และชำระภาษีตามสภาพเศษซาก แล้วจึง

1. แกนพลาสติกตัดบัญชีไม่ได้ คือ ไม่สามารถตัดบัญชีจากสูตรการผลิตโดยตรง เพราะในสูตรการผลิตจะใส่ปริมาณการใช้งานแกนพลาสติกไม่ได้ ดังนั้น แม้จะส่งสินค้าไปจำหน่ายต่างประเทศและนำใบขนมาตัดบัญชี ก็ไม่สามารถตัดบัญชีแกนพลาสติกได้

2. หากจะขอทำลายเป็นส่วนสูญเสียนอกสูตร ก็ต้องให้ inspector มาตรวจสอบรับรองปริมาณและการทำลาย ตามประกาศ BOI และชำระภาษีตามสภาพเศษซาก แล้วจึงนำหลักฐานมาปรับยอด

บริษัทจะมีเครื่องจักรเข้าเพิ่ม 4 เครื่อง ทางบริษัทสามารถขอเพิ่มรายการเครื่องจักรได้เลยไหม

หากเป็นเครื่องจักรที่จะทำให้กำลังผลิตและกำลังผลิตครบตามโครงการที่ได้รับส่งเสริม ก็สามารถยื่นขอเพิ่มรายการเครื่องจักรได้ แต่หากเป็นเครื่องจักรที่นำเข้ามาเพิ่มกำลังผลิตหรือเพิ่มขั้นตอนการผลิต ให้ยื่นขอแก้ไขโครงการก่อน

ในกรณีที่บริษัทได้รับบัตรส่งเสริม(โครงการขยายมาแล้ว) บริษัทต้องทำเรื่องขออนุมัติบัญชีเครื่องจักร (Master list) ก่อนใช่ไหมถึงจะนำเข้าแม่พิมพ์ได้ และระยะเวลาที่ใช้ในการอนุมัติบัญชีเครื่องจักรประมาณกี่วัน

1.การขออนุมัติบัญชีแม่พิมพ์ จะต้องระบุว่าแม่พิมพ์ที่จะขออนุมัตินั้น ใช้ในขั้นตอนการผลิตใด แต่เนื่องจากการระบุขั้นตอนการผลิต จะต้องระบุในการขออนุมัติบัญชีเครื่องจักร ดังนั้น การจะขออนุมัติบัญชีแม่พิมพ์ จึงต้องขออนุมัติบัญชีเครื่องจักรให้เสร็จสิ้นก่อน

2.ขั้นตอนการใช้สิทธิยกเว้นอากรขาเข้าแม่พิมพ์ที่บริษัทต้องดำเนินการจึงเป็นดังนี้ ขออนุมัติบัญชีเครื่องจักร -> ขออนุมัติรายการแม่พิมพ์ -> ขอสั่งปล่อยแม่พิมพ์

3.ระยะเวลาการพิจารณา การอนุมัติบัญชีเครื่องจักร 60 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับปริมาณงานของ จนท แต่โดยทั่วไปน่าจะประมาณ 3-4 สัปดาห์) การอนุมัติรายการแม่พิมพ์ 3 วันทำการ (ปกติจะพิจารณาอนุมัติใน 1 วัน)

4.กรณีที่บริษัทไม่มีแผนจะนำเข้าเครื่องจักรจากต่างประเทศเลย บริษัทยังคงต้องขออนุมัติบัญชีเครื่องจักรก่อน เพื่อคีย์ขั้นตอนการผลิตที่ได้รับส่งเสริมในระบบ eMT เพื่อให้สามารถขออนุมัติรายการแม่พิมพ์ได้ในภายหลัง โดยกรณีนี้ บริษัทอาจขออนุมัติเครื่องจักรอะไรสักตัวหนึ่ง ในบัญชีเครื่องจักร เช่น เครื่องจักรสำหรับการตรวจสอบคุณภาพ ก็ได้

ผู้ที่จะพิจารณาว่าเศษซากหลังทำลายมีมูลค่าหรือไม่ คือใคร เพราะชิ้นงานส่วนใหญ่เป็นพลาสติกขึ้นรูป เมื่อทำลายก็แตกหัก แบบนี้ถือว่ามีมูลค่าเชิงพาณิชย์ไหม
เศษโลหะ เศษพลาสติก ฯลฯ ปกติจะถือว่ามีมูลค่าครับ

1. ถ้ามีคนมารับซื้อ ก็มีมูลค่า

2. ถ้ามีคนมาขนไปให้ฟรี ก็มีมูลค่า (ไม่อย่างนั้นคงไม่มีใครยอมเสียเวลา เสียค่าน้ำมัน มาขนไปให้)

ในกรณีที่วิธีการทำลายเป็นแบบฝังกลบ ต้องให้ Inspector มาตรวจด้วยหรือไม่

ส่วนสูญเสียจะต้องทำลายเป็นเศษซาก หากเศษซากนั้นมีพิษหรือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จะต้องนำไปกำจัดด้วยวิธีที่เหมาะสมไม่ก่อให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม โดยหน่วยงานหรือผู้ประกอบการที่ BOI ให้ความเห็นชอบ บริษัท Inspector มีหน้าที่ต้องตรวจสอบจนถึงขั้นตอนการทำลายเสร็จ แต่บริษัท Inspector ไม่ต้องร่วมตรวจสอบในขั้นตอนการจำกัด คือ ให้บริษัทที่นำไปกำจัดต่อ เป็นผู้ออกหนังสือรับรองการกำจัด (ชนิด ปริมาณ วิธีจำกัด) เพื่อแนบเป็นหลักฐานร่วมกับหนังสือรับรองของ Inspector

กรณีที่สอบถาม อาจไม่ได้แจ้งขั้นตอนการทำลายมาทั้งหมด การฝังกลบอาจเป็นเพียงขั้นตอนการกำจัดก็ได้ ซึ่งถ้าเป็นขั้นตอนการกำจัด บ.Inspector ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ร่วมในการจำกัด แต่ต้องมีหลักฐานการตรวจสอบส่วนสูญเสียและรับรองการทำลายของ Inspector และหนังสือรับรองการกำจัดของหน่วยงานที่กำจัด จึงจะใช้ตัดบัญชีได้

เนื่องจากบริษัทได้รับการส่งเสริมประเภทกิจการ ITC ในบัตรส่งเสริมระบุว่าได้รับสิทธิมาตรา 28, 29 ซึ่งบริษัทมีจะมีนำเข้าเครื่อง inspection jig อย่างนี้ต้องทำบัญชีเครื่องจักร หรือต้องทำบัญชีแม่พิมพ์ เพราะดูจาก manual ว่าถ้าประเภท แม่พิมพ์ jig fixture จัดว่าอยู่ในบัญชีแม่พิมพ์ แต่จะทำบัญชีแม่พิมพ์ หรือบัญชีอะไรได้ ต้องมีบัญชีเครื่องจักรก่อน ซึ่งในกรณีนี้ตามประเภทกิจการไม่มีเครื่องจักรหลัก

Jig & Fixture ให้ขออนุมัติในบัญชีแม่พิมพ์ เพราะจะอนุมัติโดยไม่กำหนดปริมาณสูงสุด แต่เนื่องจากระบบ eMT ออกแบบให้ต้องขอบัญชีเครื่องจักรก่อน จึงจะเริ่มขอบัญชีอะไหล่ หรือบัญชีแม่พิมพ์ได้

กรณีนี้จึงน่าจะขอบัญชีเครื่องจักร โดยใส่เครื่อง Inspection อะไรไปสักเครื่องหนึ่ง (ซึ่งไม่ต้องนำเข้ามาจริงก็ได้) เมื่อได้รับอนุมัติบัญชีเครื่องจักรแล้ว จึงค่อยยื่นขอบัญชีแม่พิมพ์ต่อไป

เนื่องจากจะมีการนำเข้า โคมไฟแว่นขยายตั้งโต๊ะ ใช้สำหรับตรวจสอบชิ้นงาน อย่างนี้บัญชีแม่พิมพ์ควรจะเป็นอย่างไร Inspection machine หรือ Illuminated magnifiers ชื่อตามที่ทางประเทศต้นทางแจ้งมาว่าจะส่งมา

ถ้าเป็นโคมไฟแว่นขยายตั้งโต๊ะ อาจขอบัญชีไม่ได้ เพราะอาจอยู่ในข่ายมีผลิตในประเทศ ส่วนบัญชีแม่พิมพ์ ไม่ต้องเป็นรายการที่เกี่ยวข้องกับรายการเครื่องจักร หรือไม่อย่างนั้น ก็ยื่นขออนุมัติบัญชีรายการเครื่องจักร เป็นโคมไฟแว่นขยายตั้งโต๊ะ แต่ระบุปริมาณเป็น 0.5 เครื่อง (ซึ่งจะสั่งปล่อยไม่ได้) และชี้แจงเหตุผลว่า เป็นการขออนุมัติบัญชีเครื่องจักรโดยไม่มีวัตถุประสงค์จะนำเข้า แต่ต้องการให้ระบบเดินได้ เพื่อจะยื่นขออนุมัติบัญชีแม่พิมพ์ต่อไปอย่างนี้ก็ได้

เรื่องการชำภาษีอากรส่วนสูญเสียที่มีมูลค่า ทางบริษัทจะต้องไปชำระที่กรมศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ (ท่าที่นำเข้า) ใช่ไหม

การชำระภาษีส่วนสูญเสีย จะยื่นขอชำระที่ด่านใดก็ได้ เนื่องจากการให้ไปชำระภาษีส่วนสูญเสียนั้น จะไม่อ้างถึงใบขนขาเข้าและอินวอยซ์ เพราะส่วนสูญเสียนั้นอาจเกิดจากวัตถุดิบที่นำเข้ามาหลายอินวอยซ์และหลายด่านก็ได้ การยื่นคำร้องถึง BOI หากไม่ระบุด่านที่จะขอชำระภาษี BOI จะออกหนังสือให้ไปชำระภาษีอากรส่วนสูญเสีย ถึงผู้อำนวยการส่วนบริหารกลาง สำนักงานท่าเรือกรุงเทพ แต่หากบริษัทต้องการไปชำระภาษีที่ด่านใดด่านหนึ่ง ก็ให้ระบุหมายเหตุในหนังสือที่ยื่นต่อ BOI เพื่อให้ BOI มีหนังสือไปยังด่านนั้น

เนื่องจากบริษัทนำเข้าชิ้นส่วน (โดยใช้สิทธิลดหย่อนภาษี) แล้วนำมาผ่านกระบวนการผลิต เช่น พ่นสี พิมพ์ และประกอบ แต่เกิด NG ขึ้นระหว่างการผลิต บริษัทจะมีวิธีจัดการกับชิ้นส่วนนี้อย่างไร เพราะเท่ากับว่าบริษัทจะไม่มียอดส่งออกและจะทำให้มียอด balance ค้างอยู่ในระบบ

NG ที่เกิดขึ้น เป็นส่วนสูญเสียนอกสูตร เบื้องต้นลองศึกษาข้อมูลตาม link : http://www.faq108.co.th/boi/rm36/scrap.php

หากบริษัทจะนำเข้าเครื่องจักรใหม่( CNC Lathe Machine) จะคิดกำลังการผลิตยังไง เนื่องจากยังไม่เคยผลิตชิ้นงานมาก่อน

ให้ใช้ข้อมูลจากการประมาณการ เช่น การกลึงขึ้นรูปชิ้นงาน 1 ชิ้น ต้องใช้เวลาการกลึงกี่นาที จากนั้นคำนวณกลับเป็นกำลังผลิตต่อชั่วโมง และคูณเวลาทำงานตามบัตรส่งเสริม คูณวันทำงานตามบัตรส่งเสริม ออกมาเป็นกำลังผลิตของเครื่องจักรเครื่องนั้น

เนื่องจากชิ้นงานหลายขนาดมาก ตั้งแต่ชิ้นเล็ก ไปจนถึงชิ้นใหญ่ ๆ ขนาดเท่า pallet จะคิดยังไง หรือควรจะเฉลี่ยได้หรือไม่

เนื่องจากเป็นการคำนวณกำลังผลิตสูงสุดของเครื่องจักร จึงจะคำนวณจากชิ้นส่วนที่เล็กที่สุดที่ผลิตก็ได้ แต่หากทำให้ตัวเลขที่คำนวณได้ สูงกว่ากำลังผลิตที่ขอรับส่งเสริมมากเกินไป จะคำนวณจากชิ้นส่วนมาตรฐาน (คือชิ้นส่วนที่ผลิตมากที่สุด หรือชิ้นส่วนที่เป็นค่าเฉลี่ย) ก็ได้

บริษัทได้รับส่งเสริมกิจการประเภท 2.17 กิจการ รี ดึง หล่อ ประเภทโลหะทองแดง นำเข้ามาโดยไม่ได้ใช้สิทธิ์ยกเว้นอากรของทางบีโอไอ ในขณะที่อยู่ในกระบวนการผลิตเกิด NG ขึ้น บริษัทต้องทำอย่างไรกับ ส่วนเศษ ที่เกิดขึ้น นำกลับใส่เตาเข้าไปหลอมใหม่ได้เลยไหม หรือต้องทำอย่างไร

หากบริษัทนำเข้าวัตถุดิบโดยชำระภาษีอากร ก็ไม่ต้องขอบัญชีปริมาณวัตถุดิบ สูตรการผลิต และตัดบัญชี ต่อ BOI ส่วนสูญเสียที่เกิดขึ้น จะขายเป็นเศษเหล็ก หรือนำกลับมาหลอมใช้ใหม่ในโครงการก็ได้

สรุปคือไม่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขทุกอย่างเกี่ยวกับมาตรา 30 (กรณีจำหน่ายประเทศ) และมาตรา 36 (กรณีส่งออก) เพราะไม่ใช้สิทธิยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีอากรเข้ามา

ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากวัตถุดิบที่ไม่ได้ใช้สิทธิ ยังคงถือเป็นผลิตภัณฑ์ตามโครงการ BOI ในบัตรส่งเสริม มีการกำหนดเงื่อนไข และสิทธิประโยชน์ เอาไว้ เงื่อนไข เป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติให้ครบถ้วน มิฉะนั้นอาจถูกเพิกถอนสิทธิหรือเพิกถอนบัตร สิทธิประโยชน์ บริษัทจะใช้สิทธิที่ได้รับไป หรือไม่ใช้ ก็ได้

ถ้าในอนาคตทางบริษัทจะนำเข้าวัตถุดิบโดยการใช้สิทธิ์บริษัทจะต้องทำอย่างไร
1.ตรวจสอบว่าได้รับสิทธิมาตรา 36 หรือไม่

2.ขออนุมัติบัญชีรายการวัตถุดิบและปริมาณสต็อกสูงสุด

3.สมัครใช้บริการระบบ RMTS-2011 และบันทึกบัญชีที่ได้รับอนุมัติในระบบ

4.ขอส่งปล่อยวัตถุดิบ เป็นรายอินวอยซ์

5.ขออนุมัติสูตรการผลิต และบันทึกสูตรที่ได้รับอนุมัติในระบบ

6.ตัดบัญชีวัตถุดิบ ตามใบขนขาออก หรือรายงานโอนสิทธิ (report-v) ที่ได้รับจากลูกค้า

7.ตัดบัญชี/ชำระภาษีเศษซากวัตถุดิบ ฯลฯ

บริษัทกำหนดแจ้งเปิดดำเนินการวันที่ 12 ตุลาคม 2558 หลังจากแจ้งเปิดดำเนินการแล้วบริษัทสามารถนำเข้าเครื่องจักรอุปกรณ์เข้ามาได้หรือไม่ และได้รับสิทธิยกเว้นภาษีอากรหรือ ถ้าได้บริษัทต้องทำอย่างไร

หากเปิดดำเนินการเต็มโครงการแล้ว จะไม่สามารถขอขยายเวลานำเครื่องจักร เพื่อนำเข้าเครื่องจักร อะไหล่ แม่พิมพ์ เข้ามาโดยยกเว้นภาษีได้อีก เว้นแต่กิจการบางประเภท เช่น เครื่องไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อาจมีการระบุในบัตรส่งเสริมให้สามารถนำเข้าเครื่องจักรได้ตลอดระยะเวลาที่ได้รับส่งเสริม

ขออภัยครับ ไม่มีข้อมูลส่วนนี้ ในภาษาที่ท่านเลือก !

Sorry, There is no information support your selected language !

Download และ ติดตั้งโปรแกรมอ่าน PDF

Download PDF Reader

Site map