Chat
x
toggle menu
toggle menu

Select Groups

All Group
  • All Group
  • นโยบายเเละมาตรการพิเศษในการส่งเสริม
  • การขอรับการส่งเสริมการลงทุน
  • การออกบัตรส่งเสริม
  • การเปิดดำเนินการ
  • การเเก้ไขโครงการ
  • การดำเนินการอื่น ๆ
  • การรายงานความคืบหน้าโครงการ (e-Monitoring)
  • การปฏิบัติหลังการได้รับการส่งเสริม
  • การยกเลิกบัตรส่งเสริม
  • เรื่องทั่วไป
  • การใช้สิทธิด้านที่ดิน
  • การใช้สิทธิด้านเครื่องจักร
  • การใช้สิทธิด้านช่างฝีมือ/ต่างด้าว
  • การใช้สิทธิด้านวัตถุดิบ
  • ประเภทกิจการ - การแพทย์
  • การใช้สิทธิด้านภาษีเงินได้นิติบุคคล
  • ประเภทกิจการ - รถยนต์ไฟฟ้า
  • ประเภทกิจการ - ศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ (IBC) IPO และ TISO
  • ประเภทกิจการ - โรงแรม
  • ประเภทกิจการ - ผลิตผลิตภัณฑ์โลหะรวมทั้งชิ้นส่วนโลหะ
  • ประเภทกิจการ - กิจการผลิตเครื่่องจักร อุุปกรณ์และชิ้นส่วน
  • ประเภทกิจการ - กิจการศูนย์กระจายสินค้าระหว่า ประเทศด้วยระบบที่่ทันสมัย (IDC)
1. บริษัทฯได้รับบัตรส่งเสริมแล้ว แต่ไม่ได้ยื่นขอสิทธิประโยชน์ในเรื่องวิจัยและพัฒนา หากมีการลงทุนเพิ่มในด้านนี้ ทั้งในเรื่อง ค่าใช้จ่ายต่างๆและการขอจดสิทธิบัตร จะนำมาเพิ่มสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง ขอทราบรายละเอียด 2. บัญชีนวัตกรรมไทย ของ สวทช. เกี่ยวข้องกับสิทธิประโยชน์ของ BOI หรือไม่ อย่างไร
1. การลงทุนทำวิจัยและพัฒนาสำหรับกิจการโรงงานที่ดำเนินการอยู่เดิม สามารถขอรับส่งเสริมได้ 2 กรณีคือ

1.1 ขอรับส่งเสริมเป็นโครงการใหม่ ประเภท 7.11 กิจการวิจัยและพัฒนา

ต้องเป็นการวิจัยพัฒนาจนถึงขั้นจดสิทธิบัตรใหม่ จากนั้นนำผลวิจัยพัฒนานั้นไปทำการผลิตเชิงพาณิชย์ โดยจะใช้กิจการโรงงานที่ดำเนินการอยู่เดิมก็ได้ รายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นผลงานจาก R&D นี้ ถือเป็นรายได้ที่สามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ในโครงการ R&D จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ 8 ปี โดยไม่กำหนดวงเงินสูงสุด (ตามประเภท A1) https://www.boi.go.th/upload/Section7th_90697.pdf

1.2 ขอรับส่งเสริมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต

เป็นการวิจัยพัฒนาหรือออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต เช่น พัฒนาคุณสมบัติสินค้า หรือพัฒนาสินค้ารุ่นใหม่ หรือออกแบบกระบวนการผลิตสินค้าให้มีประสิทธิภาพ เป็นต้น ขอรับส่งเสริมตามประกาศ กกท ที่ 9/2560 เรื่อง มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต https://www.boi.go.th/upload/content/9_2560_10104.pdf และคำชี้แจง https://www.boi.go.th/upload/content/c8_2561_5bb7426f6bcda.pdf จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ 3 ปี ไม่เกิน 50% ของมูลค่าเงินลงทุน R&D ต้องยื่นคำขอรับส่งเสริมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2563 โครงการเดิมที่จะขอปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ต้องไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษี หรือสิ้นสุดสิทธิยกเว้นภาษีไปแล้ว

2. บัญชีนวัตกรรมไทยเป็นคนละมาตรการกัน ไม่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการลงทุนของ BOI บริษัทจะรับสิทธิทั้ง 2 มาตรการก็ไม่มีปัญหาอะไร

กลุ่มกิจการที่ได้รับการส่งเสริมประเภท กิจการกลุ่ม B ได้สิทธิประโยชน์เฉพาะสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษีเท่านั้นใช่หรือไม่

ไม่ใช่ กิจการที่ได้รับสิทธิประโยชน์ในกลุ่ม B สามารถได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีนำเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบเพื่อผลิตเพื่อการส่งออก หรือบางกิจการจะได้รับสิทธิ์เฉพาะการยกเว้นภาษีนำเข้าวัตถุดิบเพื่อผลิตเพื่อการส่งออกเท่านั้น

สำหรับกิจการในกลุ่ม B ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีเงินได้นิติบุคคล จะต้องเป็นกิจการที่มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต

ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่ ป.10/60 ว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ให้สิทธิประโยชน์กับประเภทกิจการกลุ่ม B (ยกเว้น ประเภทกิจการตามข้อ 2 ของประกาศ สกท.ที่ ป.4/2560 ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2560) ที่มีการใช้ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ดังนี้

1. กรณีมีการใช้เครื่องจักรที่มีการเชื่อมโยงหรือสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรระบบอัตโนมัติในประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของมูลค่าเครื่องจักรเฉพาะส่วนที่เป็นการลงทุนนำระบบอัตโนมัติหรือหุ่นยนต์มาใช้ในการผลิตหรือการบริการ ให้ได้รับวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 100 ของเงินลงทุนโดยไม่รวมค่าที่ดินและเงินทุนหมุนเวียนเป็นระยะเวลา 3 ปี

2. กรณีมีการใช้เครื่องจักรที่มีการเชื่อมโยงหรือสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรระบบอัตโนมัติในประเทศน้อยกว่าร้อยละ 30 ของมูลค่าเครื่องจักรเฉพาะส่วนที่เป็นการลงทุนนำระบบอัตโนมัติหรือหุ่นยนต์มาใช้ในการผลิตหรือการบริการ ให้ได้รับวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 50 ของเงินลงทุนโดยไม่รวมค่าที่ดินและเงินทุนหมุนเวียนเป็นระยะเวลา 3 ปี

ตามประกาศ สกท ที่ ป 4/2560 ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2560 กำหนดประเภทกิจการที่ไม่ให้ได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ได้แก่

ประเภท 4.6  กิจการผลิตรถยนต์ทั่วไป

ประเภท 4.12 กิจการผลิตรถจักรยานยนต์ (ยกเว้นที่มีความจุกระบอกสูบต่ำกว่า 248 ซีซี)

ประเภท 4.16 กิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสม (Hybrid Electric Vehicles – HEV) และชิ้นส่วน

ประเภท 5.8   กิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

ประเภท 7.2   กิจการสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ

ประเภท 7.5   กิจการสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ (International Headquarters : IHQ)

ประเภท 7.6   กิจการบริษัทการค้าระหว่างประเทศ (international Trading Centers : ITC)

ประเภท 7.7   กิจการสนับสนุนการค้าและการลงทุน (Trade and Investment Support Office : TISO)

นอกจากนี้สำนักงานมีนโยบายและมาตรการพิเศษอื่นๆอีกหรือไม่

สืบเนื่องจากนโยบายที่ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่ 2/2557 ได้มีประกาศอื่นๆเพื่อสนับสนุนนโยบายดังกล่าวดังนี้

มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต 

นโยบายส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และมาตรการส่งเสริมการลงทุนภายใต้โครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” 

นโยบายส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ

“มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต” ตามประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่ 9/2560 ลงวันที่ 28 ตุลาคม 2560

 

มาตรการนี้ใช้กับ

1. กิจการที่ดำเนินการอยู่แล้ว ไม่ว่าจะได้รับการส่งเสริมหรือไม่ก็ตาม หากไม่ได้รับการส่งเสริมต้องเป็นกิจการที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนประกาศให้การส่งเสริมการลงทุนในปัจจุบัน

2. โครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนอยู่เดิมสามารถยื่นขอรับการส่งเสริมภายใต้มาตรการนี้ได้ เมื่อระยะเวลาการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลนั้นสิ้นสุดลงแล้ว หรือเป็นโครงการที่ไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล

 

เงื่อนไข

1. ต้องมีขนาดการลงทุนไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท โดยไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน ยกเว้นโครงการลงทุนของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ต้องมีขนาดลงทุนไม่น้อยกว่า 500,000 บาทโดยไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน

2. ผู้ประกอบการที่จะเข้าข่ายเป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ต้องมีหลักเกณฑ์ดังนี้

2.1 เมื่อรวมกิจการทั้งหมดทั้งที่ได้รับการส่งเสริมและไม่ได้รับการส่งเสริมแล้ว ผู้ขอรับการส่งเสริมต้องมีสินทรัพย์ถาวรสุทธิหรือขนาดลงทุนไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียนไม่เกิน 200 ล้านบาท

2.2   ต้องมีบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 ของทุนจดทะเบียน

3. จะต้องยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนภายในปี 2563 และจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 ปี นับจากวันที่ออกบัตรส่งเสริม

 

สิทธิประโยชน์

1. ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร

2. ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี เป็นสัดส่วนร้อยละ 50 ของเงินลงทุนโดยไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียนในการปรับปรุง โดยให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากรายได้ของกิจการที่ดำเนินการอยู่เดิม  ทั้งนี้ หากเป็นการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยใช้หุ่นยนต์และเครื่องจักรระบบอัตโนมัติที่มีการเชื่อมโยงหรือสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรระบบอัตโนมัติในประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของมูลค่าเครื่องจักรที่มีการปรับเปลี่ยนให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี จากรายได้ของกิจการที่ดำเนินการอยู่เดิม ในวงเงินไม่เกินร้อยละ 100 ของเงินลงทุนไม่รวมที่ดินและทุนหมุนเวียนในการปรับปรุง

3. ระยะเวลายกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ให้นับจากวันที่มีรายได้ภายหลังได้รับบัตรส่งเสริม

หลักเกณฑ์การให้การส่งเสริม แบ่งออกเป็น 4 มาตรการย่อย ดังนี้

1. มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานทดแทน หรือการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

กิจการที่มายื่นขอรับการส่งเสริมจะต้องเสนอแผนการลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อการประหยัดพลังงาน การนำพลังงานทดแทนมาใช้ในกิจการ หรือการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยดำเนินการในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ดังนี้

1) จะต้องมีการลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักรไปสู่เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อให้เกิดการใช้พลังงาน ลดลงตามสัดส่วนที่กำหนด

2) จะต้องมีการลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักร เพื่อให้มีการนำพลังงานทดแทนมาใช้ในกิจการในสัดส่วนตามที่กำหนด เมื่อเทียบกับการใช้พลังงานทั้งสิ้น

3) จะต้องมีการลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการลดปริมาณของเสีย น้ำเสีย หรืออากาศตามเกณฑ์ที่กำหนด

 

2. มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

กิจการที่มายื่นขอรับการส่งเสริมจะต้องเสนอแผนการลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักรตามเกณฑ์ที่กำหนด เช่น การนำระบบอัตโนมัติมาใช้ในสายการผลิตที่มีอยู่เดิม เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต เป็นต้น

3. มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการวิจัยพัฒนาและออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ

กิจการที่มายื่นขอรับการส่งเสริมจะต้องเสนอแผนการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาหรือออกแบบทางวิศวกรรมตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยจะต้องมีการลงทุนหรือมีค่าใช้จ่ายด้านวิจัยและพัฒนาหรือออกแบบทางวิศวกรรม ไม่น้อยกว่าร้อยละ 1 ของยอดขายรวมใน3 ปีแรก นับจากวันที่ยื่นขอรับการส่งเสริม ในกรณีเป็นผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมต้องลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาหรือออกแบบทางวิศวกรรม ไม่น้อยกว่าร้อยละ 0.5 ของยอดขายรวมใน 3 ปีแรก นับจากวันที่ยื่นขอรับการส่งเสริม

 

4. มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรไปสู่มาตรฐานระดับสากล

ผู้ยื่นขอจะต้องจะต้องเสนอแผนการลงทุนเพื่อการยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรไปสู่มาตรฐานระดับสากล เช่น มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agriculture Practices: GAP) มาตรฐานการรับรองป่าไม้ตามแนวทางขององค์การพิทักษ์ป่าไม้ (Forest Stewardship Council: FSC) มาตรฐาน PEFCs (Program for the Endorsement of Forest Certification Scheme) มาตรฐานระบบการจัดการความปลอดภัยของอาหาร (ISO 22000) หรือมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมระบบการจัดการป่าไม้แบบยั่งยืน (ISO 14061 Sustainable Forest Management System (SFM)) หรือ มาตรฐานสากลอื่นที่เทียบเท่า และจะต้องมีการลงทุนหรือมีค่าใช้จ่ายดำเนินการตามแผนดังกล่าว โดยต้องได้รับการรับรองมาตรฐานดังกล่าวภายใน 3 ปี นับจากวันที่ออกบัตรส่งเสริม

มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตคืออะไร และได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง

มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต

มาตรการนี้เป็นมาตรการส่งเสริมการลงทุนตามประกาศที่ 9/2560 ลงวันที่ 28 ตุลาคม 2560 คือ มาตรการการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนใน 4 เรื่อง ดังนี้

- การลงทุนด้านการประหยัดพลังงาน การลงทุนเพื่อใช้พลังงานทดแทน หรือการลงทุนเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

- การลงทุนเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

- การลงทุนด้านวิจัยและพัฒนา หรือออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ

- การลงทุนเพื่อการยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรไปสู่มาตรฐานระดับสากล

 

บริษัทมีความสนใจในมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต จะได้รับสิทธิ์และประโยชน์ดังนี้

- จะได้รับยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร

- จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี จำนวน 50 % ของเงินที่ลงทุนเพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพดังกล่าว (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียนในการปรับปรุงติดตั้ง)

- ระยะเวลายกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (3 ปี) นับจากวันที่มีรายได้หลังได้รับบัตรส่งเสริม และไม่เกินมูลค่า 50 % ของเงินที่ลงทุน แล้วแต่ว่าอย่างใดจะครบกำหนดก่อน

แบบฟอร์มคำขอ

ทั้งนี้ กรณีการลงทุนเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี มูลค่า 100 % ของเงินลงทุน (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียนในการปรับปรุงติดตั้ง) กรณีที่การปรับปรุงดังกล่าว มีการเชื่อมโยงหรือสนับสนุนอุตสาหกรรมผลิตเครื่องจักรอัตโนมัติในประเทศ ไม่น้อยกว่า 30 % ของเครื่องจักรที่ติดตั้งเพิ่ม

เงื่อนไขของผู้ที่สามารถขอส่งเสริมการลงทุน ภายใต้มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต

- ผู้ขอส่งเสริมหากไม่เคยขอรับส่งเสริมการลงทุนมาก่อน สามารถนำกิจการที่ดำเนินการอยู่ปัจจุบันมาขอรับส่งเสริมการลงทุนได้ โดยธุรกิจนั้นต้องเป็นกิจการที่สำนักงานให้ส่งเสริมการลงทุน ตามบัญชีประเภทกิจการที่ส่งเสริมการลงทุน

- สำหรับกิจการเคยที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนแล้ว สามารถยื่นขอรับสิทธิ์นี้ได้เมื่อระยะเวลาการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลนั้นสิ้นสุดลง (สิ้นสุดมาตรา 31 แล้ว) หรือเป็นโครงการที่ไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (ยกเว้นบางกิจการตามนโยบายเฉพาะที่สำนักงานกำหนด)

- มีการลงทุนไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน)

- สำหรับกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม จะต้องที่มีสินทรัพย์ถาวรสุทธิ หรือ ขนาดการลงทุนไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียนไม่เกิน 200 ล้านบาท และมีหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 50 % กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 500,000 บาท (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน)

การติดตั้งแผงโซล่าเซลล์บนหลังคาโรงงานจะเข้าข่ายส่งเสริมมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตหรือไม่
การติดตั้งแผงโซล่าเซลล์บนหลังคาโรงงาน จะเข้าข่ายส่งเสริมใดตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต  กรณีดังกล่าวสามารถขอส่งเสริมได้ตามมาตรการย่อย เรื่อง การลงทุนด้านการประหยัดพลังงาน การลงทุนเพื่อใช้พลังงานทดแทน หรือการลงทุนเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้แบบฟอร์มดังนี้
การขอส่งเสริมตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต จะต้องใช้แบบฟอร์มใดในการยื่นเรื่อง

จะต้องใช้แบบฟอร์มดังนี้

- กรณีกิจการอยู่ในหมวดส่งเสริมการลงทุน 1 – 6 ให้ใช้แบบฟอร์มขอรับส่งเสริมการลงทุนทั่วไป (F PA PP 01-06)

- กรณีกิจการอยู่ในหมวดส่งเสริมการลงทุน 7 ให้ใช้แบบฟอร์มขอรับส่งเสริมการลงทุน (บริการ) (F PA PP 03-07)

 โดยยื่นพร้อมกับแบบประกอบคำขอรับส่งเสริมการลงทุนตามกรณีต่าง ๆ ดังนี้

แบบประกอบคำขอรับส่งเสริมตามหลักเกณฑ์การให้สิทธิและประโยชน์ตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานทดแทน หรือการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (F PA PP 28-03)

แบบประกอบคำขอรับการส่งเสริมตามหลักเกณฑ์การให้สิทธิและประโยชน์ ตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต  (F PA PP 30-02)

-  แบบประกอบคำขอรับการส่งเสริมตามหลักเกณฑ์การให้สิทธิและประโยชน์ ตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการวิจัย พัฒนา และออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตตามประกาศณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 1/2557 (F PA PP 38-01)

บริษัทสอบถามว่าการขอรับการส่งเสริมตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพเพื่อใช้พลังงานทดแทน ที่กำหนดไว้ว่าจะขอรับการส่งเสริมได้ต่อเมื่อ “ระยะเวลาการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลนั้นสิ้นสุดลงแล้ว” นั้น หมายความว่าระยะเวลาของสิทธิลดหย่อนภาษีฯ ตามมาตรา 35(1) จะต้องสิ้นสุดด้วยหรือไม่

โครงการที่ได้รับส่งเสริมแล้ว และอยากจะขอรับส่งเสริมตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพฯ โครงการนั้นจะต้องสิ้นสุดแล้วทั้ง มาตรา 31 และ 35(1) จึงจะขอรับการส่งเสริมได้ ทั้งนี้หากจะยกเลิกโครงการก่อนก็สามารถทำได้ แต่อาจจะได้สิทธิภาษีจากมาตรการปรับปรุงฯ ไม่คุ้มกับการเสียสิทธิด้านภาษีเดิมที่มีอยู่

มาตรการบีโอไอ THAILAND PLUS ส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ตามมาตรการบีโอไอ THAILAND PLUS ข้อ 2 2.1 มาตรการสนับสนุนการฝึกอบรม (ไม่กำหนดวงเงินค่าใช้จ่ายในการอบรมขั้นต่ำ) -กรณีพัฒนาทักษะแก่นักศึกษา ได้รับสิทธิเพิ่มวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 100% ของค่าใช้จ่ายในการอบรม - กรณีพัฒนาทักษะแก่พนักงาน ได้รับสิทธิเพิ่มวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 200% ของค่าใช้จ่ายในการอบรม ขอสอบถามว่า 1.หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการขอรับการส่งเสริมตามมาตรการนี้จะต้องไปดูที่ประกาศฉบับไหน 2. สามารถใช้สิทธิ์ทั้ง 2 กรณีควบคู่กันได้หรือไม่ หรือต้องเลือกใช้ได้แค่กรณีใดกรณีหนึ่งเท่านั้น 3. หลักสูตรที่เข้าเกณฑ์ในการใช้สิทธิ์สามารถหาหลักสูตรได้จากที่ไหนบ้าง

1. มาตรการสนับสนุนการฝึกอบรม ตามมาตรการบีโอไอ THAILAND PLUS สามารถดูรายละเอียดได้จาก ประกาศ กกท ที่ 5/2562

2. เนื่องจากในประกาศไม่ได้มีข้อกำหนดห้าม จึงเข้าใจว่าสามารถฝึกอบรมและใช้สิทธิทั้ง 2 แบบ ควบคู่กัน

3. หลักสูตรการฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีขั้นสูง ครอบคลุมถึงหลักสูตรเทคโนโลยีขั้นสูงหรือทักษะพิเศษที่เป็นเป้าหมาย ซึ่งได้รับการรับรองจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) หรือจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ซึ่งสามารถติดต่อขอรายละเอียดหลักสูตรจากหน่วยงานดังกล่าวได้

ปัจจุบันนี้ กิจการ IPO ยังขอรับการส่งเสริมได้อยู่ไหม

ปัจจุบันกิจการ IPO และ ITC ไม่มีการให้การส่งเสริมแล้ว หากจะขอส่งเสริม จะต้องขอรับส่งเสริมในประเภท 7.34 กิจการศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ (International Business Center : IBC) ในหมวดย่อย 1.11 แต่จะต้องเป็นการบริการแก่วิสาหกิจในเครือ และจะต้องมีขอบข่ายธุรกิจที่รวมหมวดย่อย 1.1 - 1.10 ข้อใดข้อหนึ่งรวมอยู่ด้วยไม่น้อยกว่า 1 ข้อ

โดยจะต้องมีการจ้างพนักงานประจำที่มีความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับงาน IBC ไม่น้อยกว่า 10 คน แต่จะไม่ได้รับสิทธิยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบตามมาตรา 36 จึงอาจสรุปได้ว่า ตามประกาศฉบับปัจจุบัน กิจการ IPO และ ITC ในรูปแบบเดิม ไม่มีการให้การส่งเสริมแล้ว

กรณีขอสิทธิประโยชน์ A2 และ A3 ภายในบัตรเดียวกัน บริษัทจะดำเนินการขอรับการส่งเสริมในกิจการประเภท A2 (ยกเว้นภาษีเงินได้ 8 ปี) และ A3 (ยกเว้นภาษีเงินได้ 5 ปี) ในโครงการเดียวกัน สามารถทำได้หรือไม่

กรณีบริษัทมีผลิตภัณฑ์ 2 ชนิด คือ A และ B ซึ่งจัดเป็นคนละประเภทกิจการ บริษัทสามารถยื่นขอรับส่งเสริมการส่งเสริมรวมในโครงการได้ โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ และกำหนดเงื่อนไข แยกตามประเภทกิจการนั้นๆ แต่ระยะเวลาการเริ่มใช้สิทธิครั้งแรก (เช่น สิทธิด้านเครื่องจักร วัตถุดิบ และภาษีเงินได้) จะเริ่มนับได้เพียง 1 ครั้ง ต่อ 1 โครงการ คือ ไม่แยกนับตามการเริ่มใช้สิทธิของ A หรือ B

ซึ่งในทางปฏิบัติ หากสิทธิประโยชน์ (โดยเฉพาะด้านเครื่องจักรและวัตถุดิบ) ของ A และ B แตกต่างกัน อาจมีปัญหาในการใช้สิทธิในระบบ EMT และ RMTS ด้วย ซึ่งบริษัทควรศึกษาข้อจำกัดของระบบให้ชัดเจนก่อน

โดยทั่วไป หากสิทธิประโยชน์ของ A และ B ไม่เท่ากัน แนะนำให้แยกยื่นเป็น 2 โครงการ เนื่องจากวันเริ่มใช้สิทธิครั้งแรกจะแยกกันตามแต่ละโครงการ ซึ่งจะคุ้มค่าทางภาษีมากกว่า

กรณีบริษัทลงทุนปรับเปลี่ยน 1 กระบวนการผลิต เช่น การบรรจุ จากเดิม เป็นกึ่ง Auto (เป็นการใช้คนหยิบชิ้นงานใส่ซองและเครื่องจักรซีล) เป็นเครื่องบรรจุอัตโนมัติที่หยิบชิ้นงานใส่ซอง โดยระบบเครื่องจักรนี้เป็นเครื่องจักรที่ไม่มีในประเทศไทย กรณีนี้สามารถขอรับการส่งเสริมตามมาตรการนี้ได้หรือไม่ หรือจะต้องเป็นกระบวนการผลิตหลักเท่านั้น

การปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ตาม ประกาศ กกท.9/2560 ข้อ 3 และตามคำชี้แจง สกท ลงวันที่ 28 กันยายน 2561 ข้อ 1.4 ไม่มีข้อกำหนดว่าจะต้องเป็นการปรับเปลี่ยนในขั้นตอนการผลิตหลักเท่านั้น

ดังนั้น หากจะปรับเปลี่ยนเฉพาะในขั้นตอนบรรจุ ก็อยู่ในข่ายที่จะยื่นขอรับส่งเสริมได้ แต่รายละเอียดและสาระในการปรับปรุงจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่ จะต้องให้บีโอไอเป็นผู้พิจารณา

บริษัทได้รับสิทธิ BOI อยู่เดิมแล้วโครงการหนึ่ง และต่อมาได้รับการส่งเสริมเพิ่มเติมในปี 2562 ตามมาตรการ solar rooftop ประเด็นเรียนปรึกษา คือ 1. โรงงานเดิมที่เคยได้รับ BOI และใช้สิทธิทางภาษีเงินได้นิติบุคคลตั้งอยู่ที่โคราช 2. ในปี 2562 ได้รับสิทธิ BOI เพิ่ม 1 บัตรจากการสร้าง Solar Rooftop แต่การสร้างนี้อยู่ในโรงงานสมุทรปราการ (ไม่ใช่ส่วนที่เคยได้รับสิทธิทางภาษี BOI) 3. จึงเรียนปรึกษาว่า การใช้สิทธิทางภาษีของบัตร BOI ที่เกิดจากการสร้างหลังคาโซล่าเซลล์ ที่จัดหวัดสมุทรปราการนี้ จะนำมาหักภาษีจากส่วนของภาษีเงินนิติบุคคลปกติ (ส่วนของโรงงานที่ไม่ได้ใช้สิทธิ BOI) หรือ สามารถนำสิทธินี้ไปเพิ่ม ในส่วนของสิทธิที่มีอยู่เดิมที่โคราช เนื่องจากเดิมต้องแยกบัญชีรายการขาย กำลังการผลิต ประมาณการผลิต ของส่วนโคราชแยกจากกันอย่างชัดเจนเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่ส่วนหลังคา Solar Rooftop ที่จังหวัดสมุทรปราการ จะจัดทำรายงานบัญชีแยกไม่ได้เนื่องจากหลังคาอยู่คนละสถานที่กับส่วนที่เคยได้รับสิทธิ BOI จากการผลิตสินค้า (19 มี.ค. 2563)

เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ขอเรียบเรียงข้อเท็จจริงที่ได้แจ้งมาดังนี้ หากมีความเข้าใจไม่ตรงกันอย่างไรโปรดแจ้ง

1. บริษัทมี 2 ที่ตั้ง คือ ที่จังหวัดสมุทรปราการ และนครราชสีมา

2. โครงการที่จังหวัดนครราชสีมาได้รับการส่งเสริม (BOI) มาก่อน

3. ภายหลังโครงการที่จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับส่งเสริมตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ Solar

4. ทั้งสองโครงการเป็นสายการผลิตแยกกันเด็ดขาด และมีการทำบัญชีกำไรขาดทุนแยกกันโดยชัดเจน

หากข้อมูลดังกล่าวถูกต้องขอนำเรียนดังนี้

1. BOI ให้การส่งเสริมแยกเป็นรายโครงการ ดังนั้นโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต Solar Rooftop ของโรงงานสมุทรปราการจะสามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (ม.31) ได้เฉพาะสำหรับกำไรที่เกิดขึ้นในโครงการที่ได้รับส่งเสริมในโรงงานสมุทรปราการเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้กับกำไรจากโครงการอื่นของบริษัทได้

2. การพิจารณาว่ากำไรส่วนใดเป็นกำไรจากสายการผลิตใดที่ได้รับส่งเสริม ให้ดูจากแบบฟอร์มคำขอที่ได้ยื่นกับสำนักงาน ซึ่งจะระบุชื่อผลิตภัณฑ์และกำลังการผลิตที่ได้รับส่งเสริม ในหัวข้อเงื่อนไขเฉพาะโครงการในบัตรส่งเสริมตามาตรการ Solar ของโครงการสมุทรปราการ

3. โครงการเดิมที่ได้รับส่งเสริมที่จังหวัดนครราชสีมา น่าจะได้รับส่งเสริมตามมาตรการทั่วไป ไม่สามารถนำมาปะปนกับโครงการที่จังหวัดสมุทรปราการได้

4. การบันทึกสินทรัพย์ส่วน Solar ให้อยู่กับโครงการสมุทรปราการน่าจะถูกต้องแล้ว ค่าเสื่อม สิทธิยกเว้นภาษี บัญชีกำไรขาดทุนที่แยกกันระหว่าง 2 โครงการน่าจะถูกต้องตามหลักการแล้ว

บริษัทดำเนินกิจการผลิตและขายอาหารประเภทลูกอมและหมากฝรั่งซึ่งทางบริษัทเองไม่เคยขอได้รับการส่งเสริมการลงทุนมาก่อน มีความประสงค์จะลงทุนในการติดตั้งเครื่องจักรที่ใช้ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ (solar cells) เพือใช้ในกิจการบริษัทเท่านั้น จึงเรียนมาปรึกษา ว่า ทางบริษัทสามารถใช้ประโยชน์จากมาตราการส่งเสริมการลงทุน ตามหัวข้อดังกล่าว ได้หรือไม่ เนื่องจากกิจการ ได้ถูกระบุให้เงือนไขลำดับถัดไปว่าเป็นกิจการที่ยกเว้นไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ตามเงือนไข 1.17 (25 พ.ค. 2563)

ประเภทกิจการที่สามารถขอรับการส่งเสริมภายใต้มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต โดยมาตรการนี้กำหนดเงื่อนไขการขอรับการส่งเสริมว่า

“กิจการที่ดำเนินการอยู่แล้ว ไม่ว่าจะได้รับการส่งเสริมหรือไม่ก็ตาม หากไม่ได้รับการส่งเสริมต้องเป็นประเภทกิจการที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนประกาศให้การส่งเสริมการลงทุนที่ใช้บังคับอยู่ในขณะยื่นขอรับการส่งเสริม”

ทั้งนี้ จากการประสานงานทางโทรศัพท์ บริษัทแจ้งว่า โครงการยังไม่เคยได้รับการส่งเสริมจากสำนักงาน และโครงการผลิตผลิตภัณฑ์ลูกอม ซึ่งกิจการดังกล่าวเป็นประเภทกิจการที่ไม่เข้าข่ายให้การส่งเสริมตามประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่ 2/2557

ดังนั้น โครงการของท่านจึงไม่สามารถขอรับการส่งเสริมภายใต้มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานทดแทน หรือการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

“มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ” กรณีเอากิจการเดิมที่ไม่ได้ BOI มาขอ แต่กิจการเดิมทำมานานแล้ว ไม่มีรายละเอียดการซื้อเครื่องจักร จะต้องกรอกคำขออย่างไร (2 ธ.ค. 2564)
การขอคำขอสำหรับมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ รายละเอียดเครื่องจักรที่สำนักงานจะพิจารณา คือ เครื่องจักรที่จะนำมาใช้ในการปรับปรุงฯ ส่วนเครื่องจักรเดิมที่บริษัทมีอยู่นั้น เพียงระบุเครื่องจักรให้สอดคล้องกับกระบวนการผลิต เพื่อใช้พิจารณาการเข้าข่ายประเภทกิจการ
“มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ” จากตัวอย่างที่ทางวิทยากรอธิบายในเรื่องของโซลาร์เซลล์ ในฟอร์มคำขอทั่วไป ในส่วนของแผนการลงทุนก็ให้กรอกข้อมูลเฉพาะเงินลงทุนของโซลาร์เซลล์ใช่หรือไม่ (2 ธ.ค. 2564)
การกรอกแบบคำขอมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพเรื่องเงินทุนและรายละเอียดเครื่องจักร จะให้กรอกเฉพาะเงินลงทุนที่เกิดจากการปรับปรุงเท่านั้น ดังนั้น แผนการลงทุนที่จะต้องกรอกในแบบคำขอทั่วไป จะเป็นเฉพาะในส่วนเงินลงทุนที่ใช้ในการติดตั้งโซลาร์เซลล์เท่านั้น
“มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ”หากจะขอเรื่องโซลาร์เซลล์ ในการกรอกแบบฟอร์มคำขอทั่วไป แต่มีช่องให้กรอกวัตถุดิบที่ใช้การผลิต อันนี้จำเป็นต้องกรอกมั้ย (2 ธ.ค. 2564)
การกรอกข้อมูลวัตถุดิบที่ใช้การผลิตในคำขอทั่วไป เป็นการกรอกข้อมูลในส่วนของกิจการที่ดำเนินการอยู่เดิม เพื่อให้สำนักงานสามารถพิจารณาได้ว่า กิจการที่ดำเนินการอยู่เดิมของบริษัท เข้าข่ายประเภทกิจการที่ BOI ให้การส่งเสริมได้ หากในกรณีที่บริษัทไม่ได้มีวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต เช่น กิจการบริการ ก็ไม่จำเป็นเป็นจะต้องกรอก เนื่องจากไม่มีข้อมูลการใช้วัตถุดิบ
“มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ” มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ สามารถขอ 2 มาตรการย่อยพร้อมกันได้หรือไม่ (2 ธ.ค. 2564)
สามารถขอได้ โดยจะต้องมีเงินลงทุนแต่ละมาตรการย่อยละ 1 ล้านบาท ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์วงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามที่ลงทุนของ 2 มาตรการย่อย เป็นระยะเวลา 3 ปี
“มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ”ในกรณีลงทุนโซลาร์เซลล์ ต้องมีการกำหนดตัวชี้วัดหรือไม่ เช่น การวัดปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่นำมาใช้เอง (2 ธ.ค. 2564)
ตัวชี้วัดกรณีการติดตั้งโซลาร์เซลล์ จะพิจารณาจากปีฐาน (ก่อนที่บริษัทจะผลิตไฟฟ้าด้วยโซลาร์เซลล์) เทียบกับปีที่ประเมิน (ปีที่บริษัทคาดการว่า ภายหลังติดตั้งโซลาร์เซลล์จะทำให้ปริมาณไฟฟ้าที่ใช้จากการไฟฟ้าเป็นเท่าไหร่) เช่น เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายระหว่างการใช้ไฟฟ้าและการใช้พลังงานแสงอาทิตย์
“มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ” ตัวชี้วัด ค่า yield คำนวณได้อย่างไร หากเลือกมาตรการการปรับเปลี่ยนเครื่องจักร (2 ธ.ค. 2564)
การคำนวณค่า yield สามารถดูการคำนวนได้จากคำชี้แจงสำนักงานฉบับลงวันที่ 28 กันยายน 2561 เรื่อง มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการปรับเปลียนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ตามประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 9/2560
บริษัทจะลงทุนติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ที่คลังสินค้ ที่ใช้ในการเก็บ Raw material และ Finished Goods โดยคลังสินค้าจดทะเบียนเป็นสาขาของโรงงาน และโรงงานได้รับการส่งเสริมจาก BOI ในกิจการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า กรณีนี้บริษัทสามารถขอรับการส่งเสริมตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพได้หรือไม่(13 ธ.ค. 2564)
หากคลังสินค้านั้น ใช้เฉพาะสำหรับกิจการตามโครงการที่ได้รับส่งเสริม (กรณีที่สอบถามคือ กิจการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า) ก็สามารถขอรับส่งเสริมตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพได้

ขออภัยครับ ไม่มีข้อมูลส่วนนี้ ในภาษาที่ท่านเลือก !

Sorry, There is no information support your selected language !

Download และ ติดตั้งโปรแกรมอ่าน PDF

Download PDF Reader

Site map